- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 August 2017 17:21
- Hits: 700
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย มีแรงซื้อในกลุ่มโรงกลั่นเช่น BCP, IRPC ในขณะที่เห็นแรง Rebound ในหุ้นที่ปรับตัวลงมามากเช่น BIG, PTG , TKN ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,568 จุด (+1.43 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท
โดยนักลงทุนชาติ ขายหุ้นไทยต่อเป็นวันที่ 2 ที่ 527 ลบ.แต่กลับมา Long สุทธิ SET 50 Index Future ที่ 2,053 สัญญา
Investment theme
SET ขาดแกนนำ แต่พอมีหุ้นให้เก็งกำไร: เรามองว่า SET จะแกว่งในตัวกรอบ 1,560- 1,575 ไปอีกซักระยะเนื่องจาก 1) หุ้น 4 กลุ่มหลักอย่าง พลังงาน, ธนาคาร, ค้าปลีก และ ICT ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตลาด ยังขาด Catalyst 2) หาก SET จะปรับตัวทะลุ 1,600 เรามองว่ากลุ่มสถาบันในประเทศซื้ออย่างเดียวคงไม่พอ เนื่องจาก กลุ่มนี้ซื้อสะสมมาสูงกว่า 1.0 แสนล้านบาท ใน 10 เดือนที่ผ่านมา ฉะนั้นต้องให้นักลงทุนต่างประเทศช่วย แต่เรามองว่าเป็นไปได้ยาก เพราะปัจจุบัน ประเทศไทยและ SET มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP%) และ EPS growth (%) เกือบต่ำสุดในภูมิภาค และ 3) เรามองว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลักยังมีปัจจัยกดดันโดยเฉพาะการส่งออกและการบริโภคในประเทศ ซึ่งอาจเห็นการปรับประมาณการลงอีก โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารและค้าปลีก อย่างไรก็ตามเรามองว่านักลงทุนยังสามารถเก็งกำไรรายสัปดาห์ได้ และเปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์ Stock/Sector Rotation
Investment theme: คงคำแนะนำถือเงินสด 60% โดยคงคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกลุ่มค้าปลีก, กลุ่มก่อสร้าง, อสังหา และถือหุ้นกลุ่ม 5 โรงต่อ (โรงไฟฟ้า TPIPP, โรงกลั่น BCP, โรงพยาบาล BDMS, โรงแรม ERW, โรงนวด SPA)
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ว่าธปท.เตรียมหามาตรการช่วย SME / รายงานการประชุม Minute ส่วนมากออกมาในเชิงบวก ทั้ง ตัวเลขการจ้างงาน,การบริโภค, ค่าแรง แต่ PCE inflation ยังอยู่ต่ำกว่าเป้าที่ 2.0% และอาจชะลอตัวในครึ่งปีหลัง / BDI +40 จุดที่ 1,247 / ECB ระบุกังวงเงินยูโรแข็งค่า ซึงเรามองว่ามีโอกาสชะลอการลดวงเงิน QE ออกไป ส่งผลให้ค่าเงินยูโร/ดอลลาร์อ่อนค่าที่ 1.17 / กลุ่มอสังหาฯ ระวังปัญหาตั๋ว B/E / เกิดเหตุก่อการร้ายที่สเปน /
BWG ได้งานรับเหมาก่อสร้างที่ จ.กาญจนบุรี 454ลบ.
กลุ่มธนาคาร : SCB ระวัง PACE , BBL ระวัง CTH และ TV- Digital, KBANK ระวัง SME
Stock pick : CPF
CPF: ซื้อสะสม @ THB 31.60
คาดราคาหุ้นและผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยเราคาดกำไร 3Q60 จะฟื้นตัว QoQ เป็นผลจากฤดูกาล การส่งออกเติบโต และ ต้นทุนวัตถุดิบยังต่ำ และราคาหมูในเวียดนามยืนอยู่ในระดับ Break even ( เพิ่มขึ้น 65%จาก 2Q60 )
บริษัทนำเงินจากการเพิ่มทุนไปคืนหนี้คาดดอกเบี้ยจ่ายลดลงราว 750 ล้านบาทในปีนี้ และ 1,800 ล้านบาทในปีหน้า อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนลดลงจาก 1.4 เท่า เป็น 1.2 เท่า ทำให้มีโอกาสกู้ยืมเงินเพิ่มเพื่อ M&A
ราคาปัจจุบันของ CPALL คิดเป็นมูลค่าประมาณ 18.00 บาท/หุ้นในหุ้น CPF แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย (SOTP) 31.60 บาท
Trading idea – เก็งกำไร BWG (1.78-1.90), ถือ BEM, BCP ,TMT, PLAT ต่อ / Switch จาก CENTEL มายัง ERW (รายละเอียดใน Email) / ขาย TOP / ทยอยสะสม CKP บริเวณ 3.20+/-
Technical View
แกว่งตัวแคบรอเลือกทาง ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาดัชนีแกว่งตัวในกรอบที่แคบ เกิดเป็นแท่งเทียนที่มี Body ที่แคบติดต่อกันที่บริเวณแนวรับของกรอบ Downtrend Channel ประกอบกับดัชนียังคงไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 1573 (EMA60วัน) ทำให้ขณะนี้มุมมองเชิงลบเป็นต่อ มองแนวรับถัดไปที่ 1560 ซึ่งหากแนวรับดังกล่าวต้านแรงขายไม่ได้ จะมีโอกาสปรับตัวลงแรง มองแนวรับถัดไปที่ 1550 (EMA200Day) แต่หากผิดคาดดัชนี Rebound ระหว่างวันยังคงแนะนำให้ลดพอร์ตการลงทุนเพื่อถือเงินสดให้มากขึ้น (1) ทยอยขายทำกำไรตามแนวต้าน เพื่อลดพอร์ตการลงทุน (2) หากหลุดแนวรับ 1560 แนะนำ Stop
แนวรับ : 1550, 1555, 1560 แนวต้าน : 1573, 1577
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : เยอรมันรายงานตัวเลข PPI คืนนี้ / สหรัฐรายงาน PMI ภาคการผลิตและบริการ ในวันที่ 23ส.ค. / ญี่ปุ่นรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ วันที่ 24 ส.ค.
ปัจจัยในประเทศ : บ่ายนี้ติดตามคัมภีร์หุ้นจาก Maybank / จับตา กทพ.เจรจาสัมปทานทางด่วนกับ BEM
หุ้นเทคนิค:
MTLS (B 32.00-32.50, Tp 34.00//36.00, Cut 31.50)
MINT (B 38.50, Tp 40.50//41.50, Cut 38.00)
นักวิเคราะห์ : สุกิจ อุดมศิริกุล / สรพล วีระเมธีกุล / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000