- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 August 2017 15:14
- Hits: 1473
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เลือกเก็งกำไรหุ้นที่บวกเฉพาะตัวและกำไร 2H17 ยังแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ในกรอบแคบตามคาดเนื่องจากขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้นและยังรอดูรายงานการประชุม FED ที่เปิดเผยเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ไม่เห็นแรงซื้อ-ขายอย่างมีนัยสำคัญจากนักลงทุนกลุ่มต่างๆ โดยฝั่งนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันอีกเล็กน้อย 112 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up โดยสถานการร์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือยังไม่ได้รุนแรงขึ้น ขณะที่รายงานการประชุม FED ระบุว่าเจ้าหน้าที่หลายรายมองว่าควรรอให้เงินเฟ้อปรับตัวดีขึ้นก่อนที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ส่วนรายละเอียดสำหรับแผนการปรับลดขนาดงบดุลคาดว่าจะเปิดเผยในการประชุมครั้งหน้า เรายังมองว่ากรอบการเคลื่อนไหวที่ของ SET จะยังไม่กว้างนัก ทำให้เชื่อว่าหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รวมถึงกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่ดีต่อในช่วง 2H17 ยังดูน่าสนใจและคาดว่าจะ Outperform ตลาด
กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและแนวโน้มกำไร 2H17 ยังแข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : EKH, EPG, ITEL, MTLS, SEAFCO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$199ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$156ล้าน และเกาหลีใต้ US$39ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทย US$3ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคหลัง Fed เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งบ่งชี้ถึงสัญญาณการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากแรงกดดันจากเงินเฟ้อน้อยลง
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> BCP <<
ได้ประโยชน์จากค่าการกลั่นที่ขยับขึ้นมาอยู่ที่ US$7-8/บาร์เรลหลังจากโรงกลั่นเชลล์เกิดเหตุไฟไหม้ปลาย ก.ค. ขณะที่ผลขาดทุนจากสต็อกใน 3Q17 น่าจะลดลงเพราะราคาน้ำมันผันผวนน้อยกว่าไตรมาสก่อน
แนวโน้มกำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 2H17 ทั้งจากธุรกิจโรงกลั่น และโรงไฟฟ้าที่ COD ในเดือน ส.ค. นี้ บวกกับธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพจะได้ประโยชน์จากการปรับสัดส่วนไบโอดีเซลเต็มไตรมาส
แม้ราคาหุ้น BCP จะทำ new high แต่ยัง laggard ที่สุดในกลุ่มโรงกลั่น +12%YTD ขณะที่โรงกลั่นอื่นปรับขึ้นเฉลี่ย 20%YTD BCP จึงมี PE ถูกเพียง 9 เท่า และคาดปันผล 1 บาท/หุ้นงวด 1H17 (Yield 2.7%) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 40 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) เงินบาทอ่อนค่าระยะสั้น จาก Dollar Index ที่ฟื้นตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาดี ขณะที่ การประชุม กนง. วานนี้มองว่าปัจจัยหนุนเศรษฐกิจมีเพียงส่งออกและท่องเที่ยว ส่วนการบริโภคและการลงทุนในประเทศยังชะลอ และเงินเฟ้อเร่งตัวช้ากว่าคาด จึงเป็นไปได้ที่จะคงดอกเบี้ยอีกระยะ เงินบาทที่อ่อนค่าเป็นบวกกับกลุ่มส่งออก ท่องเที่ยว เกษตรอาหาร และโรงพยาบาล
(+) MINT เรายังคาดกำไร 2H17 เติบโตโดดเด่น Y-Y เพราะรายได้โรงแรมโตดีทุกภูมิภาค โดยเฉพาะ 3Q17 ที่เป็น High Season ของ Tivoli ในโปรตุเกส ขณะที่ ธุรกิจอาหารแม้จะถูกฉุดตามกำลังซื้อ แต่ถูกชดเชยด้วยการควบคุมต้นทุน ทำให้คาดอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยจะขยายตัวต่อเนื่องถึงปี 2018 ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 43 บาท
(0) CENTEL แนวโน้ม 2H17 ยังไม่โดดเด่น ธุรกิจโรงแรมดีเฉพาะต่างจังหวัด ส่วนกทม. และมัลดีฟท์ยังแข่งขันแรง ขณะที่ ธุรกิจอาหารถูกฉุดจากกำลังซื้อชะลอ เราคงประมาณการกำไรปี 2017-2018 โตเพียง 4% Y-Y และ 10% Y-Y ชอบน้อยสุดในกลุ่ม แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 42 บาท
(-) MALEE Opp Day วานนี้ยังลบเหมือนเดิม ภาพระยะสั้นถูกฉุดจากกำลังซื้อที่ชะลอและการปรับ Supply Chain ของน้ำมะพร้าวที่คาดว่าจะเสร็จปลายปี กำไร 2H17 แม้คาดฟื้น H-H แต่ทั้งปียังลง Y-Y ยังแนะนำหลีกเลี่ยง
(0) GL ประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ GL ให้ข้อมูลว่าจะรุกตลาดอินโดนีเซียและเมียนม่ามากขึ้น แต่สัดส่วนรายได้ยังต่ำรวมกันไม่ถึง 3% ของรายได้รวม ขณะที่ 2H17 มีความเสี่ยงจากการตั้งด้อยค่าเงินลงทุนบริษัทย่อยในศรีลังกา ซึ่งราคาเป้าหมายที่ 20 บาทของเรายังไม่รวมรายการนี้ แนะนำหลีกเลี่ยงต่อเนื่อง
(0) ZIGA ผู้ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กโครงสร้างประเภท Pre-zinc ซึ่งเป็นสินค้าทดแทนที่มีคู่แข่งน้อยราย และสามารถใช้กับงานก่อสร้างที่หลากหลาย เราคาดกำไรปีนี้ +26% Y-Y อยู่ที่ 284 ลบ. ส่วนปี 2018-2019 คาดโตเฉลี่ย 26% ต่อปี จากการเพิ่มสินค้าใหม่และการขยายกำลังการผลิต ประเมินมูลค่าโดยอิง PE กลุ่มวัสดุก่อสร้างและ ARROW ที่ 18 เท่า ได้ราคา 9.80 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17 ส.ค. - ฟิลิปินส์: GDP2Q17
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ(ก.ค.)
- สหรัฐฯ: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ก.ค.)
18 ส.ค. - มาเลเซีย: GDP2Q17
21 ส.ค. - ไทย: GDP2Q17 และยอดส่งออกรถยนต์
22 ส.ค. - ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (ZEW)
23 ส.ค. - ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต (ส.ค.)
- สหรัฐฯ: ยอดขายบ้านใหม่ (ก.ค.)
24-26 ส.ค. - Jackson Hole Symposium
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวก หลังการเปิดเผยการประชุม FOMC ที่อาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้ การขยับบวกถูกจำกัดโดยความกังวลด้านการเมืองสหรัฐ หลังการประท้วงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และ การยุบสภาปรึกษา 2 ชุด
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยมีแรงซื้อนำจากกลุ่มส่งออกหลังค่าเงินยูโรอ่อนค่า และ การประกาศตัวเลข GDP ของภูมิภาคยังเติบโต 2.2% มากกว่าที่ตลาดคาด
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดค่อนไปบางบวกจากผลการประชุม FOMC อย่างไรก็ตาม ตลาดเฝ้าจับตาความขัดแย้งทางการเมืองสหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางแข็งค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในแถว 33.22-33.25 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดลบ 0.77 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 46.78 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยแม้ EIA ระบุว่าสต๊อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดเกือบ 3 เท่า แต่ราคาน้ำมันถูกกดันจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นสวนทางตลาดคาด และ ตัวเลขการผลิตน้ำมันที่เพิ่ม 79,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 9.5 ล้านบาร์เรล/วัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 3.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,282.90 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในสหรัฐ
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research