- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 16 August 2017 17:33
- Hits: 1075
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัว แต่ถูกถ่วงด้วยทิศทางการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ
วันนี้คาด กนง. คงนโยบายการเงินไว้ที่ระดับเดิม เรามองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะสั้นหลังประเด็นความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีเหนือเริ่มผ่อนคลายลง โดยคาดว่าการฟื้นตัวดังกล่าวจะเป็นไปในลักษณะซึมในทิศขึ้นเนื่องด้วยแรงกดดันของค่าเงินเหรียญและผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในขณะที่ราคาน้ำมันยังคงแกว่งตัวอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตามเรายังมองว่าตลาดหุ้นไทยจะมีช่วงของการปรับลงที่ค่อนข้างจำกัดจากแรงหนุนของเงินเฟ้อที่ชะลอตัว ซึ่งจะช่วยให้โอกาสการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยและการอ่อนค่าของค่าเงินบาทยืดระยะเวลาออกไป
ภาพรวมกลยุทธ์: ตลาดยังไม่กลับเป็นบวกหากไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 1570 จุด เรามองการปรับลงเป็นจังหวะดีในการเลือกสะสมหุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย ราคาไม่แพงเกินไป และมีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง เก็งกำไรระยะสั้นเน้น กลุ่มเกษตร เดินเรือ ไฟฟ้า (บางตัว) การเก็งกำไรเน้นเลือกหุ้นที่ยัง Laggard และตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำ BANPU, ACAP*, CPF //ประเด็นเก็งกำไร AQUA*, TTA*
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับลดลง จากความกังวลการผลิตของสหรัฐฯที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น / ราคาสินค้าเกษตรและโลหะส่วนใหญ่ยังคงถูกกดดันตามราคาน้ำมัน / ค่าระวางเรือ BDI ปิด 1,169.00 จุด (+1.21%) / ถ่านหิน (Newcastle) ปิด 94.95 เหรียญ/ตัน (-0.52%)
คง VAT 7% –ครม.อนุมัติคงภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% เพื่อพยุงกำลังซื้อและช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน พร้อมเน้นย้ำว่ายังไม่มีแนวคิดเพิ่มแวตเป็น 10%
เพิ่มสิทธิลูกจ้าง – ครม.อนุมัติแก้ไข พ.ร.บ. คุมครองแรงงานโดยเพิ่มสิทธิให้ลูกจ้าง กรณีนายจ้างผิดสัญญาค่าจ้าง กำหนดให้นายจ้างต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี พร้อมปรับอัตราค่าชดเชย 400 วัน จากเดิม 300 วัน หากนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ – กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานตัวเลขยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์และสินค้าฟุ่มเฟือย
FDI จีน – กระทรวงพาณิชย์จีนรายงาน ปริมาณการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ปรับลดลง 1.2% ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว สู่ระดับ 4.8542 แสนล้านหยวน (7.279 หมื่นล้านดอลลาร์) ขณะเดียวกัน ปริมาณการลงทุนโดยตรงภายนอกประเทศ (ODI) ของบริษัทจีนนอกภาคการเงิน ดิ่งลง 44.3% ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว สู่ระดับ 5.72 หมื่นล้านดอลลาร์ อันเนื่องมาจากการที่รัฐบาลออกมาตรการจำกัดการลงทุนในต่างประเทศ ส่งผลให้การลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ วัฒนธรรม กีฬา และบันเทิง ลดลงอย่างมากในช่วงเวลาดังกล่าว
ประเด็นติดตาม: 16 ส.ค. – ประชุมกนง. (คาดคงดอกเบี้ย) / 25 ส.ค. – ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าว / 31 ส.ค. - ธปท.ผลักดันมาตรฐานกลาง QR code เพื่อการชำระเงิน /16 ก.ย. ภาษีสรรพสามิตใหม่
แนวรับ 1550-1555/แนวต้าน : 1565-70 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)