- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 16 August 2017 17:27
- Hits: 1094
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ไม่มีปัจจัยใหม่
คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ไม่มีปัจจัยใหม่หนุนตลาด หลังจากหุ้นสหรัฐปิดไม่ขยับเมื่อคืน ทั้งๆ ที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีมากชุดใหญ่ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ และเกาหลีเหนือผ่อนคลายลง หลังจาก คิม จอง อึน ยืดเวลาการตัดสินใจยิงขีปนาวุธใส่เกาะกวมออกไปไม่มีกำหนด และสหรัฐลดข้อเรียกร้องต่อเกาหลีเหนือลงเป็นยุติการยิงขีปนาวุธ จากเดิมให้หยุดโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธ ภายในประเทศก็ขาดปัจจัยหนุนเช่นกัน กนง.ประชุมวันนี้ คาดคงดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% ไม่เปลี่ยนแปลง
หุ้นเด่นวันนี้ : BCP (ราคาปิด 36.25 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS 40.00 บาท)
เราเลือก บมจ. บางจากปิโตรเลียม (BCP) เป็นหุ้นเด่นในวันนี้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก (1) รายได้และกระแสเงินสดที่มั่นคงจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน (2) ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันยังเติบโตได้ดี โดยในช่วงครึ่งแรกของปีเติบโตถึง 4.0% มากกว่าตลาด รวมไปถึง (3) อัตราผลตอบแทนเงินปันผลจูงใจที่ระดับ 5.0% p.a. จากราคาหุ้นปัจจุบัน BCP รายงานกำไรสุทธิในช่วง 6 เดือนแรกของปีที่ 3,070 ล้านบาท หรือเทียบเท่า 53.5% ของที่เราคาดไว้ที่ 5,732 ล้านบาท ขณะที่ทิศทางผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงที่เหลือของปียังคงสดใส สนับสนุนจากต้นทุนการกลั่นน้ำมันของบริษัทที่ลดลงต่อเนื่องเหลือเพียง 2.48 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล เทียบกับปีก่อนที่ 3.30 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล รวมไปถึงการรับรู้รายได้จากเงินลงทุน BCPG ที่เพิ่มขึ้นตามแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนขึ้นเป็น 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2563 จากปัจจุบันที่ 174.4 MW โดยในไตรมาส 3/60 นี้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่เสร็จ สิ้นการรับโอนวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา น่าจะส่งผลให้กำไรโดยรวมทั้งปี 2560 ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง 20% YoY Price Pattern ของ BCP ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ BCP มีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 37.50 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 45.75 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ BCP มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 35.50 บาท (Resistance: 36.50, 36.75, 37.25; Support: 36.00, 35.50, 35.25)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ในการประชุมวันนี้ จากการสำรวจโดยรอยเตอร์ (รอยเตอร์/บางกอกโพสต์)
ต่ออายุภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% อีก 1 ปี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติคงภาษีมูลค่าเพิ่มที่ระดับ 7% อีก 1 ปี หรือจนถึง 30 ก.ย. 2561 ทั้งนี้การปรับเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ (บางกอกโพสต์)
ตัวเลขการจดทะเบียนธุรกิจใหม่ในเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 22% YoY หรือเพิ่มขึ้น 5,979 บริษัท แม้ว่าจำนวนจะลดลง 8%MoM แต่ยังไม่สามารถชี้ว่าเศรษฐกิจเติบโตช้าลง เนื่องจากต่ำกว่าค่าเฉลี่ยการจดทะเบียนธุรกิจใหม่ในปีนี้ที่ 6,000 บริษัทเล็กน้อย โดย 7 เดือนที่ผ่านมามีการจดทะเบียนธุรกิจใหม่รวม 41,921 บริษัทฯ (ไทยโพสต์)
BCH (ราคาปิด 13.80 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS ปี 60: 16.80 บาท) รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ที่ 172 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% QoQ และ 10.0% YoY กำไรที่เพิ่มขึ้นได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ที่เติบโตในทุกกลุ่มลูกค้า ได้แก่ ลูกค้าที่จ่ายเงินสด ลูกค้าประกันสังคม และลูกค้าประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่งผลให้ครึ่งแรกของปี 60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9%YoY (SET)ความเห็น: กำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ต่ำกว่าประมาณการของเรา 7% และต่ำกว่าประมาณการเฉลี่ยบลูมเบิร์ก 5% นอกจากนี้ BCH ได้ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.08 บาท เทียบเท่าเงินปันผลตอบแทนครึ่งปีที่ 0.6 % หรือ 1.2% ต่อปี มีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 ส.ค. 2560
ต่างประเทศ :
สถานการณ์ตึงเครียดกำลังผ่อนคลาย นายคิมจองอึน ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือกล่าวเขาจะจับตาดูความเคลื่อนไหวของสหรัฐสักระยะหนึ่งก่อนจะตัดสินใจตามแผนที่จะยิงขีปนาวุธตกลงในบริเวณเกาะกวม นายชินโซ อาเบะ นายกฯ ญี่ปุ่นกล่าวว่าเขาเห็นด้วยกับปธน.ทรัมป์ว่าสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือทำในสิ่งที่ควรทำเพื่อยับยั้งการปล่อยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อวันอังคาร เนื่องจากมีสัญญาณความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือได้ผ่อนคลายและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสดใส อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 2.26% เพิ่มขึ้นจาก 2.20% เมื่อวันจันทร์ (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์เมื่อวันอังคาร ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปิดบวก 0.45% ที่ระดับ 93.848 โดยก่อนหน้าได้แตะระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 26 ก.ค. (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อวันอังคาร จากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มค้าปลีก ซึ่งรวมถึงหุ้นโฮม ดีโปท์เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับจำกัดทางซัพพลาย แม้ว่าผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ แข็งแกร่ง แนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น และข้อมูลยอดค้าปลีกสดใสก็ตาม(Reuters)
ยอดค้าปลีกสหรัฐเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 เดือนในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.6% MoM และเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่เดือน ก.ค. 59 นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.4% MoM ในเดือนก.ค. ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 4.2% YoY ทั้งนี้ มีการปรับปรุงยอดค้าปลีกประจำเดือนพ.ค.และมิ.ย. เพิ่มขึ้น (Reuters)
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านของสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 68 สูงกว่าประมาณการของตลาดที่ระดับ 65 และในเดือนก.ค. ที่ 64 ซึ่งสะท้อนสภาวะตลาดที่สดใสสำหรับการขายบ้านใหม่ในปัจจุบันและในอีก 6 เดือนข้างหน้า รวมทั้งจำนวนลูกค้าที่คาดว่าจะเป็นผู้ซื้อบ้านใหม่ (NAHB)
ยอดสินค้าคงคลังของธุรกิจในสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นทำระดับสูงที่สุดในรอบ 7 เดือน หรือ เพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน พ.ค. เนื่องจากผู้ค้าปลีกสะสมสินค้าไว้ในคลังไว้ที่เป็นเพื่อรองรับความต้องการในประเทศที่เพิ่มขึ้น (รอยเตอร์)
ดัชนีการผลผลิตอุตสาหกรรมในรัฐนิวยอร์กเพิ่มขึ้นเป็น 25.2 จุดในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2557 (New York Federal Reserve)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นวานนี้ ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการที่ปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศที่เริ่มผ่อนคลายลง แม้หุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์จะถูกขายทำกำไรก็ตาม ขณะที่ตลาดหุ้นอิตาลีและออสเตรียปิดวานนี้ (Reuters)
ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 แข็งแกร็ง: ฤดูกาลประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/60 ใกล้สิ้นสุดแล้ว หลังจากที่มี 82% ของบริษัท MSCl ยุโรปได้รายงานผลการดำเนินงานไปแล้ว และมากกว่า 60% ของบริษัทเหล่านี้มีผลกำไรที่เป็นไปตามคาดหรือดีกว่านักวิเคราะห์คาด (Thomson Reuters data)
เอเชีย :
ยอดสินเชื่อใหม่ของจีนในเดือน ก. ค. ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนที่ 825.5 พันล้านหยวน (123.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) เป็นผลมาจากมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยและผลกระทบตามฤดูกาล ซึ่งชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนมีโอกาสชะลอตัวในครึ่งปีหลัง ขณะที่ธนาคารพาณิชย์จีนขยายสินเชื่อใหม่อีก 1.54 พันล้านหยวนในเดือน มิ.ย. (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันแทบไม่เปลี่ยนแปลงวานนี้ หลังจากที่ปรับตัวแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นและมีสัญญาณถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอในตลาดจีน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 7 เซนต์อยู่ที่ 50.80 ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4 เซนต์อยู่ที่ 47.55 ดอลลาร์ (Reuters)
ราคาทองลดลงเกือบ 1% เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ราคาทองคำตลาดจรปรับตัวลง 0.8% อยู่ที่ 1,271.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองล่วงหน้าลดลง 0.8% อยู่ที่ 1,279.70 ดอลลาร์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
MISS. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042