WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)


Technical highlights
SET Index : แนวโน้มลงทดสอบ 1554 แนวต้าน 1570
  ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1567.19 จุด เพิ่มขึ้น 5.88 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,977 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1570 จุด แต่ยังคงมีแรงขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1554 และ 1540 จุด
  Daily: ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญในระยะสั้นที่ 1570 จุด หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1560 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1554 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และมีแนวรับสำคัญที่ 1540 จุดเป็นเป้าหมายในการปรับตัวลดลง
  กลยุทธ์ : SET Index ฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 1570 จุด แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ ทำให้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1554 และมีแนวรับสำคัญ 1540 จุดเป็นเป้าหมายในการปรับตัวลดลง


Most Active Value:           แนวรับ   แนวต้าน
BEAUTY สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 14.00 แนวรับสำคัญ 12.60 13.20 / 13.00** 14.00 / 14.20
AOT ขายที่แนวต้าน 52.00-52.50 แนวรับสำคัญ 51.00 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขาย 51.00** / 50.00 52.00 / 52.50
IVL สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 39.00-39.50 แนวรับ 38.00 38.00 / 37.50 39.00 / 39.50
SCC สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 500 แนวรับ 486 490 / 486 494 / 496
BANPU แนวโน้มขึ้นทดสอบ 17.70 และ 18.00 แนวรับสำคัญ 16.60 17.00 / 16.80 17.50 / 17.70
PTT แนวรับสำคัญ 380 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 370 แนวต้าน 390 380** / 377 386 / 390
SCB แนวโน้มลงทดสอบ 140 แนวต้าน 145 142 / 140 144 / 145
BDMS สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 20.00-20.20 แนวรับ 19.50 19.50 / 19.20 20.00 / 20.20
BEM แนวต้าน 7.65 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 7.95-8.00 7.60 / 7.50 7.65** / 7.80
CPF แนวต้านสำคัญ 27.50 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 29.00 27.00 / 26.50 27.50 / 28.00


Precious Shipping (PSL TB; THB 10.40) – ซื้อ
  แนวต้าน : 11.00 และ 11.40
  แนวรับ : 10.40 และ 10.20


  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ PSL โดยมีแนวรับที่ 10.40 และ 10.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 11.00 และ 11.40 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 9.70 ลงไป

Mega Lifesciences (MEGA TB; THB 29.00) – ซื้อ
  แนวต้าน : 30.50 และ 32.00
  แนวรับ : 29.00 และ 28.50


  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างไปทดสอบแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
  แนะนำซื้อ MEGA โดยมีแนวรับที่ 29.00 และ 28.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 30.50 และ 32.00 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 27.00 ลงไป


Trading Pick Follow up:           แนวรับ   แนวต้าน
STEC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 26.00 และ 26.50 แนวรับสำคัญ 24.00 24.50 / 24.00** 25.50 / 26.00
GFPT แนวโน้มขึ้นทดสอบ 20.80 และ 21.50 แนวรับสำคัญ 18.60 19.20 / 19.00 20.00 / 20.80
BANPU แนวโน้มขึ้นทดสอบ 17.70 และ 18.00 แนวรับสำคัญ 16.60 17.00 / 16.80 17.50 / 17.70
TIPCO สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 17.00 และ 17.60 แนวรับสำคัญ 15.50 15.80 / 15.50** 16.50 / 17.00
IRPC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 5.60 และ 5.70 แนวรับสำคัญ 5.10 5.40 / 5.35 5.60 / 5.70
JMT ทดสอบแนวต้าน 32.00 แนวรับสำคัญ 28.00 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขาย 30.50 / 30.00 31.50 / 32.00
AJ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 14.40 และ 15.00 แนวรับสำคัญ 13.40 13.70 / 13.40** 14.40 / 15.00
TTA แนวโน้มขึ้นทดสอบ 9.40 และ 9.80 แนวรับสำคัญ 8.80 9.00 / 8.80 9.20 / 9.40


Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]


บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)


SET…เลือกหุ้นเล่น
  หลังการประกาศงบ Q2/17 ออกมาหมดแล้วปรากฏว่าอัตราการทำกำไรของตลาดในดัชนี IBES Thailand อยู่ที่ประมาณ 6.2% ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะโต 7.2% ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่เกือบต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2017 ถึงปัจจุบัน อันเป็นผลต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังกระจุกบางอุตสาหกรรม ขณะที่บางภาคอุตสาหกรรมที่อิงกับการบริโภคภายใน ยังฟื้นตัวช้ากว่าคาด หลังการประกาศงบ ปรากฎว่าแนวโน้มจำนวนของหุ้นที่ถูกปรับเพิ่ม EPS ลบด้วยที่ถูกปรับลด ยังติดลบเพิ่มขึ้นแต่เป็นไปตามภูมิภาค (ดูจากรูปด้านซ้าย) สะท้อนตลาดน่าจะยังย่ำอยู่บริเวณต่ำกว่า 1590+/- จุดอีกสักพัก จนกว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้า หรือราคาน้ำมันเบรนท์ขยับทะลุ 55 ดอลลาร์ต่อบารเรล์
  หากเปรียบเทียบการเคลื่อนไหวของดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมในปีนี้เทียบปีที่ผ่านมา จากรูปด้านขวา จะพบว่า มีเพียงหุ้นในกลุ่ม ชื้นส่วนรถยนต์ ปิโตรเคมี ขนส่ง สื่อสาร อสังหาริมทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์และพลังงาน เท่านั้นที่ดัชนีกลุ่มขึ้นทั้ง 2 ปี ส่วนกลุ่มที่ลงในปีที่แล้ว แล้วปีนี้ขึ้นกลับคือ ท่องเที่ยวและบันเทิง โดยใน 2 กลุ่มนี้เรามองว่าดัชนียังขึ้นน้อยไป นอกนั้นจะเป็นกลุ่มที่ปีที่แล้วขึ้นแรง แล้วปีนี้สลับมีแรงขายอกมา อย่าง ค้าปลีก อาหาร-เครื่องดื่ม ไฟแนนซ์ โรงพยาบาลและเกษตร จากรูปจะพบว่าในปีนี้หุ้นในกลุ่มหลักอย่าง ธนาคารพาณิชย์และพลังงาน ต่างขึ้นได้ไม่มาก ส่งผลให้ดัชนี SET ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันขึ้นได้เพียง 2-3% เท่านั้น
  เมื่อดูประเด็นที่จะหนุนให้ดัชนี SET ขึ้นรอบนี้ ก็เหลือเพียงแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งต้องไปดูทิศทางราคาน้ำมัน ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์คงต้องรอลุ้นงบ Q3/17 อย่างเดียวหรือรอดูตัวเลขการขยายตัวของสินเชื่อรายเดือน ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่จะหนุนดัชนีในช่วงสั้นยังมองไม่เห็น การที่ลักษณะของตลาดเป็นอย่างนี้ เรามองว่าในช่วงปลายเดือนหรือต้น ก.ย. นี้ ยังมีโอกาสที่ดัชนีอาจจะกลับมาผันผวนตามดัชนีในต่างประเทศหรืออื่นๆ หลังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ
  สำหรับแนวโน้มสัปดาห์นี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์ในเกาหลี หากไม่มีอะไรที่บ่งชี้ถึงความรุนแรง ตลาดคงแกว่งตัวตามปกติ แต่หากทวีความรุนแรงรอบใหม่ ตลาดน่าจะ Panic แรงกว่าเดิม ตอนนี้เหลือแต่การเลือกหุ้นที่จะเทรดรายวันซึ่งอาจพิจารณาจากแนวโน้มการทำกำไรในอนาคตหรือ Earning revision การปรับเปลี่ยนราคาเป้าหมายและงบ Q2/17 ที่ออกมาดีกว่าคาด
  แนวโน้มดัชนีวันนี้คาดจะยังสามารถ sideway ขึ้นได้ต่อ แม้ดัชนีตลาดหุ้นหลักๆ จะเปลี่ยนแปลงไม่มาก ปัจจัยหนุนวันนี้ยังคงเป็นแรงซื้อของต่างชาติและแรงซื้อคืนของกองทุนในประเทศ นอกจากนั้นการที่ค่าเงินดอลลาร์ค่อยๆแข็งตัวขึ้นจะลดแรงกดดันกลุ่มส่งออกของไทย ประกอบกับการที่ตลาดหุ้นในภูมิภาค สามารถรีบาวน์กลับได้หมดแล้วจากที่ลงไปในวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยก็น่าจะมีทิศทางเดียวกัน วันนี้มองแนวต้านที่ 1572-1576 จุด ส่วนแนวรับที่ 1565-1562 วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร CPF ITD CK RS IVL และ SVI


Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)


Investment Strategy
  กลยุทธ์ : หลังการประกาศงบ ปรากฎว่าแนวโน้มจำนวนของหุ้นที่ถูกปรับเพิ่ม EPS ลบด้วยที่ถูกปรับลด ยังติดลบเพิ่มขึ้นแต่เป็นไปตามภูมิภาค สะท้อนตลาดน่าจะยังย่ำอยู่บริเวณต่ำกว่า 1590+/- จุดอีกสักพัก จนกว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้า หรือราคาน้ำมันเบรนท์ขยับทะลุ 55 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ แนวโน้มดัชนีวันนี้คาดจะ sideway ขึ้นได้ต่อ แม้ดัชนีตลาดหุ้นหลักๆ จะเปลี่ยนแปลงไม่มาก ปัจจัยหนุนวันนี้ยังคงเป็นแรงซื้อของต่างชาติและแรงซื้อคืนของกองทุนในประเทศ นอกจากนั้นการที่ค่าเงินดอลลาร์ค่อยๆแข็งตัวขึ้นจะลดแรงกดดันกลุ่มส่งออกของไทย ประกอบกับการที่ตลาดหุ้นในภูมิภาค สามารถรีบาวน์กลับได้หมดแล้วจากที่ลงไปในวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยก็น่าจะมีทิศทางเดียวกัน วันนี้มองแนวต้านที่ 1572-1576 จุด ส่วนแนวรับที่ 1565-1562 วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร CPF ITD CK RS IVL และ SVI


Themes play :
  KCE : เราแนะนำ ซื้อ KCE โดยมีราคาเป้าหมาย 98.25 บาท โดย เรามองว่า KCE ได้ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายแล้วและมาร์จินจะฟื้นตัวตั้งแต่ 2H17 เป็นต้นไป เราคาดว่าปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น 8-16% ภายในสามปีนี้จากการเพิ่มความเข้มงวดของกฎระเบียบความปลอดภัยของยานพาหนะและการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการผลิตรถยนต์แบบ massเพิ่มขึ้น รวมไปถึงเราคาดว่ารายได้จากผลิตภัณฑ์ HDI (high density interconnect)PCB จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวในปี FY17 และอีก 50% ในปี FY18 จากเพียง 5% ของรายได้รวมใน 1H17 ส่วนปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตคือการเร่งเพิ่มการผลิตของผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเนื่องจากความต้องการสินค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เราจึงคาดว่าบริษัทจะมีกำไรต่อหุ้นเติบโต 10-27% ในปี FY18-19โดยเห็นปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของ THB/US$ และ processing fee ที่ลดลง


ประเด็นสำคัญในสัปดาห์
  16 ส.ค. : ไทยประกาศตัวเลข อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง โดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยตลาดคาดออกมาคงที่ที่ 1.50%
  17 ส.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Industrial Production MoM เดือน ก.ค. โดยตลาดคาด 0.1%จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.4%


Fundamental Stock :
  CENTEL : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 45.00 บาท => LH : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 11.40 บาท
  BANPU : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 25 บาท => IVL : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 54 บาท
  BPP : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 31.50 บาท => CPF : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท
  MAJOR : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 34.07 บาท => CK : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 34 บาท
  UNIQ : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 21.20 บาท => SIRI : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.35 บาท

 

Technical Pick:
  กลยุทธ์ : SET Index แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1554 และมีแนวรับสำคัญ 1540
  Precious Shipping (PSL TB; THB 10.40) – ซื้อ
  Mega Lifesciences (MEGA TB; THB 29.00) – ซื้อ

SET Index : แนวโน้มลงทดสอบ 1554 แนวต้าน 1570

Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Uraiwan Tantisuwannakul +66(2) 761 9256 – [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!