WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASPบล.เอเซียพลัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน


กลยุทธ์การลงทุน
      กำไรงวด 2Q60 น่าจะจบที่ 2.1 แสนล้านบาท ลดลง 11.8%YoY เป็นการลดลงเกือบทุกกลุ่มฯ แรงขายจากนี้น่าจะเบาบางลง กลยุทธ์ฯ เลือกหุ้นที่มีโอกาสเติบโตใน 2H60 (VGI, MTLS, COM7) หรือเติบโตตามฤดูกาล (HANA, ERW) Top Picks MTLS (FV@B 38.0) และเพิ่ม VGI([email protected]) เติบโตตามสื่อโฆษณานอกบ้าน โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่ทยอยให้บริการสีเขียว เหลือง และชมพู


ย้อนรอยตลาดหุ้นไทย… สลับรายตัวตามงบ 2Q60
        วานนี้ตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากประเด็นรัฐบาลสหรัฐ จะยังคงใช้แนวทางทางการทูตในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี ทำให้ตลาดคลายความกังวลในช่วงสั้น ทำให้ตลาดหุ้นภูมิภาคฟื้นตัว รวมทั้งตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้น 5.88 จุด คิดเป็น 0.38% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.7 หมื่นล้านบาท โดยกลุ่มที่ผลักดันตลาดมากที่สุดคือ กลุ่มพลังงาน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.83% นำโดย PTT ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นมา 0.79% หนุนให้ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.86 จุด และกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่บวกขึ้นมา 0.94% นำโดย SCC ซึ่งหนุนดัชนีขึ้นมา 0.73 จุด
       ส่วนหุ้นที่ปรับตัวลดลงแรงคือ AOT กดดันตลาดไปกว่า 1.08 จุด น่าจะเป็นการขายรับงบ แม้กำไรงวดนี้จะโดดเด่นมากก็ตาม ตามด้วย STA ที่ร่วงลงมากว่า 8.80% เนื่องจากงบฯ ออกมาขาดทุนกว่า 2 พันล้านบาท และ BEC ที่ร่วงลงมากว่า 8.67% ซึ่งเป็นผลจากงบฯ ที่ออกมาไม่ดีเช่นกัน และมีโอกาสโดนปรับประมาณการลงอีก โดยหุ้นทั้งสองกดดันตลาดรวมกัน 0.44 จุด
      โดยรวมตลาดฯ วันนี้ยังดูอ่อนแอจากการที่ดัชนียังไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนในเขต 1570 - 1575 จุดได้ ประกอบกับมูลค่าการซื้อขายที่ยังไม่หวือหวามากนัก จึงคงประเมินแนวต้านดัชนีอยู่ที่ 1570 และ 1575 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1560 และ 1554 จุด ตามลำดับ


ค่าเงินปอนด์และยูโร แข็งค่า สะท้อนโอกาสขึ้นดอกเบี้ยตามสหรัฐเพิ่มขึ้น
        การรายงานดัชนีชี้นำเศรษกิจสหรัฐ ยังส่งสัญญาณขยายตัว แม้มีสะดุดบ้างก็ตาม คือยอดค้าปลีก (Retail sales) เดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 0.6%mom มากกว่าที่ตลาดคาดที่ 0.4% (เพิ่มติดต่อกัน 3 เดือน) มีแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ และสินค้าฟุ่มเฟือยที่เพิ่มขึ้น แต่ด้านเงินเฟ้อ เดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 1.7%yoy น้อยกว่าตลาดคาดที่ 1.8% และต่ำกว่าเป้าหมายที่ Fed วางไว้ที่ 2% ถือว่ายังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากที่อ่อนตัวติดต่อกัน 4 เดือนตั้งแต่เดือน ก.พ. 60 ทำให้เชื่อว่ามีโอกาสที่ Fed จะเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยหรืออาจจะไม่ขึ้นจากการประชุมที่เหลืออีก 3 ครั้งแต่ไปขึ้นในปีหน้าอีก 3 ครั้ง ระยะสั้นค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าอีกครั้ง
        และ อังกฤษ ล่าสุดรายงานอัตราเงินเฟ้อในเดือนเดียวกัน ทรงตัวในระดับสูงที่ 2.6%yoy เป็นผลจากค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่า 5.94%นับตั้งแต่ Brexit (ทำให้ต้นทุนผู้ผลิตและนำเข้าสูงขึ้น) แต่นับตั้งแต่ต้นปียังแข็งค่าราว 5.15% ทำให้เชื่อว่ามีโอกาสที่อังกฤษจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น หรืออาจจะเป็นปีหน้า เนื่องจาก ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยหักเงินเฟ้อ ราว -2.35% (ดอกเบี้ยฯ 0.25%) เช่นเดียวกับยุโรป เป็นอีกประเทศที่มีโอกาสใช้นโยบายการเงินตึงตัว (อัตราเงินเฟ้อทรงตัว 1.3%yoy VS. ดอกเบี้ยฯ 0%) ทำให้คาดว่ายุโรปมีโอกาสจะปรับขึ้นในปีหน้าแต่ค่อยเป็นค่อยไป ผ่านการลด QE หรือขึ้นดอกเบี้ย สะท้อนจากการประชุมรอบที่ผ่านมา ECB ส่งสัญญาณอาจปรับการใช้นโยบายการเงินตึงตัวเร็ว สถานการณ์เช่นนี้เชื่อว่า กระแส Fund flow น่าจะไหลไปสู่ยุโรป และอังกฤษที่เห็นสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน และตลาดหุ้นยังถูกกว่า แต่ค่าเงินปอนด์และเงินยูโรป ถือว่าแข็งค่าตอบรับระดับหนึ่งแล้ว
       และสำหรับไทยวันนี้ คาดที่ประชุม กนง. น่าจะคงดอกเบี้ยฯที่ 1.5% ตามเดิม (ตั้งแต่ เม.ย.2558)เนื่องจากเงินเฟ้อไทยยังต่ำ ล่าสุด 0.17%yoy และผลกระทบน้ำท่วมภาคอิสาน-เหนือในช่วงปลายเดือน ก.ค.-ต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้น่าจะยืนไปจนถึงปีหน้า ทำให้สภาพคล่องโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและน่าจะหนุนเม็ดเงินจากฝั่งนักลงทุนรายบุคคล และสถาบันเข้าตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้


ใกล้สิ้นสุดรายงานงบ 2Q60 แรงขายเริ่มเบาบาง ทั้งตลาดหดตัว 11.8%yoy
        บริษัทจดทะเบียนได้ทยอยประกาศงบฯ ราว 90% กำไรสุทธิรวม 2.10 แสนล้านบาท (คิดเป็น 89% ของ Market Cap ทั้งตลาดฯ) ลดลง 11.8% จากงวด 2Q59 (yoy) และลดลง 23.8% จากงวด 1Q60 (qoq) ทั้งนี้เป็นการลดลงของทุกกลุ่ม และหากไม่รวมกลุ่มธนาคารพาณิชย์ พบว่า ทำกำไรสุทธิรวมกันได้ 1.65 แสนนบาท ลดลง 12.5%yoy และลดลง 15.87%qoq โดยกลุ่มที่ลดลงมากสุดคือ ICT ลดลง 33.3%yoy และลดลง 34.8%qoq ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ลดลง 29%yoy และ qoq ปิโตรเคมีลดลง 9%yoy และ 44.8%qoq เป็นต้น
ตรงกันข้ามกลุ่มที่เพิ่มขึ้น สวนทางมีน้อยมาก โดยมีเพียงโรงพยาบาล เพิ่มขึ้น 70.6%yoy และเพิ่ม 46.1%qoq และพัฒนาอสังหาฯ เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 5.4%yoy และเพิ่ม 39.4%qoq จึงคาดว่าแรงขายรับงบจากนี้น่าจะเริ่มเบาบางลง ยกเว้นวันขึ้นเครื่องหมาย XD ของการประกาศจ่ายปันผลรายหุ้น
ทั้งนี้เมื่อรวมกับ 1Q60 ที่ทำกำไรสุทธิรวมกัน 2.85 แสนล้านบาท ในงวด 1H60 กำไรตลาดน่าจะทำได้ราว 4.95 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 50% ของประมาณการกำไรปี 2560 ที่ประเมินไว้ 9.9 แสนล้านบาท แม้จะต้องรวมผลกระทบของการปรับลดสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนลดลงจากเดิม 35 บาท เหลือ 34 บาทต่อเหรียญ ในหลายกลุ่มที่ทยอยปรับหลังประกาศงบงวดนี้ แต่คาดว่าจะกระทบกำไรตลาดไม่มาก (กำไรกลุ่มเกษตร-อาหารและ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ปรับลดลงเฉลี่ย 5% จากประมาณการเดิม แต่กำไรทั้ง 2 กลุ่มมีสัดส่วนน้อยราว 4%) กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้แนะนำหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง (KKP, TCAP, LH) หุ้นโดดเด่นตามฤดูกาลส่งออก/ท่องเที่ยวในงวด 3Q60-4Q60 (HANA, CPF, ERW) หุ้นที่มีการเติบโตเด่น (COM7, BEAUTY, MTLS, VGI) หุ้นอิงการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก (PTTGC, IVL, IRPC) และหุ้นธนาคารพาณิชย์ที่ราคาหุ้นลงลึกมากเกินไป จากความกังวลปัญหาหนี้เสียที่มีโอกาสเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกับ EARTH (SCB, BBL) เป็นต้น
หุ้น Top pick ยังชอบ VGI และ ERW รายละเอียดดังที่สรุปใน Market Talk วานนี้


ต่างชาติสลับมาซื้อสุทธิหุ้นในภูมิภาคทุกประเทศ
        แม้วานนี้ตลาดหุ้นเกาหลีใต้หยุดทำการแต่ตลาดหุ้นอื่นๆ ยังทำการปกติ โดยภาพรวมพบว่า นักลงทุนต่างชาติสลับมาซื้อสุทธิหุ้นในภูมิภาคราว 156 ล้านเหรียญ (หลังจากขายสุทธิ 4 วัน) ซึ่งเป็นการซื้อสุทธิทุกประเทศ คือ ไต้หวัน 111 ล้านเหรียญ (หลังจากขายสุทธิ 2 วัน) ,อินโดนิเซีย 4 ล้านเหรียญ (หลังจากขายสุทธิ 3 วัน), ฟิลิปปินส์ 3 ล้านเหรียญ (ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6) สำหรับตลาดหุ้นไทยวานนี้ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 37 ล้านเหรียญ หรือ 1.2 พันล้านบาท (ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4) เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่สลับมาซื้อสุทธิ 2 พันล้านบาท (หลังจากขายสุทธิเพียงวันเดียว)
ทางด้านตราสารหนี้สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 2.03 หมื่นล้านบาท ขณะที่ต่างชาติสลับมาขายสุทธิ 753 ล้านบาท (หลังจากซื้อสุทธิเพียงวันเดียว)

Derivative Team:
ภรณี ทองเย็น เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004146
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
พบชัย ภัทราวิชญ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 052647
ภราดร เตียรณปราโมทย์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 087636

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!