- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 11 August 2017 16:14
- Hits: 7970
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ทดสอบแนวรับที่ 1560 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 1550-1554
SET Index: 1562.70 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเข้าใกล้แนวรับที่ 1560 จุด หลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับที่ 1568-1570 จุดลงไป พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ยืนยันการปรับตัวลดลงหลังจากไม่ผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1580-1585 จุด ทำให้แนวโน้มหลักกลับมามีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1540 และ 1530 จุด แต่ในระยะสั้นการปรับตัวลดลงทดสอบแนวรับที่ 1560 และ 1554 จุด น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้น
แนวต้าน : 1564 และ 1567
แนวรับ : 1560 และ 1555
AOT = 52.00 / 53.00, SCB = 141 / 143, TRUE = 5.40 / 5.50, ADVANC = 180 / 182, BDMS = 19.20 / 19.70
Banpu (BANPU TB; THB 17.10) – ซื้อ
แนวต้าน : 17.70 และ 18.00
แนวรับ : 17.10 และ 17.00
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงทดสอบระดับ 60
แนะนำซื้อ BANPU โดยมีแนวรับที่ 17.10 และ 17.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 17.70 และ 18.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 17.60 ลงไป
Tipco Foods (TIPCO TB; THB 16.10) – ซื้อ
แนวต้าน : 17.00 และ 17.60
แนวรับ : 16.00 และ 15.80
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง หลังจากปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ TIPCO โดยมีแนวรับที่ 16.00 และ 15.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 17.00 และ 17.60 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 15.50 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ผลน้ำหนักใน MSCI
การประกาศน้ำหนักการลงทุนของ MSCI ของตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรากฎว่า หุ้นที่ได้เข้าและถูกถอดออกในการคำนวณของ MSCI Thailand ทั้งsmall cap. และ Global standard ไม่มี ส่วนน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยและน้ำหนักหุ้นแต่ละตัวใน MSCI Thailand คาดหากมีการเปลี่ยนแปลงคงไม่มากและส่งผลต่อตลาดน้อย
จุดเด่นของตลาดหุ้นไทยในตอนนี้ นอกจากดัชนีตลาดขึ้นได้น้อยสุดในบรรดาหุ้นในอาเซียนแล้ว ตลาดหุ้นไทยยังเล่นที่ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าต่ำสุดในอาเซียนและเกือบต่ำสุดในเอเชีย ยกเว้น เกาหลีและไต้หวัน ดูจากรูปด้านซ้าย นอกจากนั้นการที่ MSCI ไม่มีการปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ถือเป็นจุดแข็ง เพียงแต่ตอนนี้ ตลาดยังรอปัจจัยหนุนใหม่ๆ ที่จะดันให้ดัชนีขึ้นต่อ หลัง Underperform กว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้านในเอเชียมาเกือบ 6 เดือนกว่าๆ
การที่ไม่มีหุ้นที่เข้าไปคำนวณทั้งใน Global standard และ Small cap. ไม่ถือเป็นจุดด้อยของตลาดหุ้นไทย ในทางกลับกัน น่าจะเป็นปัจจัยในเชิงบวกด้วยซ้ำ เพราะที่ผ่านมา งบ Q2/17 ของหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน ออกมาไม่ค่อยดี แต่ทาง MSCI ก็ไม่ได้ปรับลดน้ำหนักหุ้นในกลุ่มนี้ หากมีก็ถือว่าน้อยมากและไม่กระทบกับตลาดโดยรวมในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นแรงกดดันจากกังวลดังกล่าว น่าจะหายไป สำหรับน้ำหนักหุ้นใน MSCIThailand แต่ละตัว หากมีการปรับลดน้ำหนักมีความเป็นไปได้ (ดูจากงบ Q2/17 ) ว่าหุ้นกลุ่มธนาคารบางตัวอาจถูกลด ดูจากราคาหุ้นก่อนมีการประกาศนํ้าหนัก ได้ลงไปรับข่าวในเชิงลบไปถึงเกือบ -5% เราจึงมองว่าหลังจากนี้จะค่อยๆ มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เข้ามาโดยเฉพาะช่วงปลายเดือน
เราเชื่อว่าหลังการประกาศน้ำหนักของ MSCI ดัชนี SET จะค่อยๆยืน หลังรับข่าว แต่จะผันผวนบ้าง ตามดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศและข่าวความคืบหน้าในคาบสมุทรเกาหลี หากยังไม่มีอะไรทวีความร้อนแรงขึ้น คาดในสัปดาห์หน้าดัชนี SET จะค่อยดีดตัวกลับขึ้นมา นำโดยหุ้นในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี อาหารและธนาคารพาณิชย์ โดยดัชนีกลุ่มหุ้นธนาคาร หลังการประกาศงบตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. เป็นต้นมา ปรับตัวลงไปแล้วประมาณ 5 % โดย SCB ลงหนักสุดที่ -8.5% (ดูรูปด้านขวา)
ทิศทางดัชนี SET ช่วงก่อนหยุดยาว น่าจะผันผวนแรงขึ้นในวันนี้ หลังตลาดหุ้นหลักๆต่างปรับตัวลงแรง จากความกังวลกับปัญหาในคาบสมุทรเกาหลี อย่างไรก็ตามการที่ราคาน้ำมันยังประคับประคองตัว ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียได้ตอบสนองในเชิงลบไปก่อนหน้านี้แล้วพอสมควร น่าจะเป็นแรงพยุงดัชนีไม่ให้ลงได้แรงๆ ส่งผลให้วันนี้ดัชนี SET เปิดในแดนลบแต่ไม่มากแล้วค่อยๆ ปรับตัวขึ้น โดยวันนี้ให้ดูทิศทางการเคลื่อนไหวของ Dow Jones future หากลบไม่มากหรือปรับตัวเป็นบวก ตลาดหุ้นในเอเชียก็ไม่น่าผันผวนได้มาก วันนี้มองแนวต้านที่ 1575-1578 และแนวรับที่ 1566-1562 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้นที่ผลดำเนินงาน Q2/17 ออกมาสูงกว่าคาด BEM ERW CPALL และ BDMS
Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,562.70 จุด ลดลง 8.94 จุด (-0.57%) มูลค่าการซื้อขาย20,907.63 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก จากความกังวลสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ขณะเดียวกันนักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนช่วงวันหยุดยาว
AP รายงานผลประกอบ 2Q17 มีกำไรสุทธิ 613 ล้านบาท (+17% YoY, +12% QoQ) ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 2% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 8.60 บาท(Buy/Hold/Sell : 22/2/1)
CPN รายงานผลประกอบ 2Q17 มีกำไรสุทธิ 2,483 ล้านบาท (+8% YoY, -11% QoQ)ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 1% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 71.97 บาท(Buy/Hold/Sell : 17/6/1)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย จากความกังวลเรื่องความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีกดดันตลาดหุ้นทำให้นักลงทุนบางส่วนลดพอร์ตลงเพื่อเก็บเงินสดไว้รอจังหวะเข้าซื้อหากเกิดเหตุการณ์รุนแรง อย่างไรก็ตามในกรณีที่เกิดความรุนแรง เรามองว่าจะกระทบกับราคาหุ้นในระยะสั้นเท่านั้นและน่าจะฟื้นตัวกลับอย่างรวดเร็วหลังเกิดเหตุการณ์ เราแนะนำให้ถือเงินสดไว้บางส่วนและรอเข้าซื้อเช่นกัน มองแนวต้าน 1575 จุด แนวรับ 1555 จุด โดยมองว่ากลุ่มที่พื้นฐานแข็งแกร่งอย่างกลุ่มท่องเที่ยว ค้าปลีก และสื่อสาร หากราคาปรับตัวลดลงจะน่าสนใจในการเข้าซื้อ แนะนำ CPALL CENTEL ADVANC
Technical Pick (PM) ...
Banpu (BANPU TB; THB 17.10) – ซื้อ
Tipco Foods (TIPCO TB; THB 16.10) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]