- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 10 August 2017 16:42
- Hits: 2248
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'ซื้อตามด้วยค่าบวกตลาด&ราคาหุ้น'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ SET ลดลง 5.93 จุด มาปิดที่ 1571.51 โดยมีการขายทำกำไร / Sell on fact หุ้นที่ปรับขึ้นมาหลายวัน เช่น AOT, MINT, MTLS, BH, BCPG, BEAUTY เป็นต้น นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ สถาบันในปท.&รายย่อยขายสุทธิ
ประเด็นสำคัญวันนี้ : ปัจจัยภายนอก – ความไม่สงบในคาบสมุทรเกาหลีและความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือที่เพิ่มขึ้น รวมถึงคำกล่าวของทรัมป์ว่าเกาหลีเหนือจะทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ทำให้ตลาดกังวล จึงลดการลงทุนในหุ้นลงและเพิ่มการลงทุนทองคำส่งผลให้ราคาทอง +1.3% เมื่อคืนนี้ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์เรื่องนี้ใกล้ชิดต่อไป ส่วนประเด็นอื่นที่รอดู คือ ตัวเลข PPI & CPI สหรัฐ และการประกาศ MSCI Quarterly Review รอบ 10 ส.ค.60 ว่าจะมีการเพิ่ม/ลดหุ้นไทยหรือไม่ อย่างไร
ปัจจัยในประเทศ – ที่มีน้ำหนักมากยังเป็นรายงานกำไร 2Q60 และปันผลระหว่างกาล ทิศทางราคาน้ำมันและค่าเงินบาท โดยหุ้นกลยุทธ์แนะนำรายสัปดาห์ ช่วงวันที่ 9-15 ส.ค.60 ประกอบด้วย AMATA, KBANK, WHAUP (ดู Theme ลงทุนในข่าวเช้าวันที่ 9 ส.ค.)
+ COM7 : กำไร 2Q60 ดีตามคาด +57%YoY, +7%QoQ เป็น 125 ลบ. มาจากยอดขายโทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้น GPM สูงขึ้นเป็น 14.4% จาก 13.9% ใน 1Q60 แนวโน้ม 2H60 ดี คาดกำไร 4Q60 จะโตสูงจากฐานปีก่อนต่ำ คาดกำไรปี 60-61 โต 44%/21% แนะซื้อ ให้ TP 13.50 บาท
• MINT : Core profit 2Q60 ตามคาด ที่ 737 ลบ. (+24%YoY) ธุรกิจโรงแรมดีขึ้น รายได้ (+8%YoY) และ GPM (RevPar สูงขึ้น) บริหารต้นทุนธุรกิจอาหารได้ดี คชจ.ปรับปรุงและเปิดตัวโรงแรมที่โปรตุเกส&ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่ม แต่มีการกลับรายการภาษีเป็นรายได้มาช่วยหนุน ถ้าดู EBT พบว่าโตเพียง 3%YoY แนวโน้ม 2H60 ยังไปได้ดีและฐานกำไร 4Q59 ก็ต่ำด้วย แนะนำซื้อ ให้ TP 46 บาท
- KCE : กำไรปี 60 สะดุดตัวเล็กน้อย เพราะอุปสงค์ที่โตต่ำกว่าคาดและ GPM ลดลงเพราะต้นทุนทองแดงปรับขึ้น & บาทแข็ง แต่แนวโน้มระยะยาวยังไปได้ดี คาดกำไรปี 60-61 จะ -2%/+18% เชิงกลยุทธ์ แนะซื้อจังหวะอ่อนตัว ทาง DBS ปรับลด TP ลงเป็น 104 บาท
วิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบ ซื้อใหม่เน้นค่าบวกเท่านั้น (ลบไม่เล่น) แนวต้าน 1580-1590 แนวรับ 1560-1550 จุด สำหรับการ SCAN หุ้นที่คาดว่าราคาจะทำ New High ได้ พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น SYNEX, ASIAN, IHL, VGI หุ้นยังอยู่ใน List คือ TAPAC, AH หุ้นหลุด List เป็น ITEL, STAR, SAMTEL, GCAP ส่วนหุ้นแนะนำที่ให้หาจังหวะขายทำกำไรคือ JMART, TOP, ECL
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
- สหรัฐ & เกาหลีเหนือ : ทรัมป์ทวีตว่าเกาหลีเหนือจะเป็นเหตุให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า มีโอกาสที่การใช้ระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 พร้อมกล่าวถึงแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐว่า คลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และมีอำนาจมากกว่าในอดีต
# ด้านวอชิงตันโพสต์ รายงานว่าเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ขนาดย่อส่วน ซึ่งออกแบบมาให้บรรจุเป็นหัวรบในขีปนาวุธได้ ซึ่งหลังข่าวเผยแพร่ออกไปไม่นาน ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาแสดงความเห็นอย่างเผ็ดร้อนว่า เกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับ "ไฟและความเดือดดาล" จากสหรัฐอย่างแน่นอน หากยังคงดึงดันทำสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐมากกว่านี้
# ด้านเกาหลีเหนือก็ยังยั่วยุสหรัฐต่อ ด้วยการกล่าวว่าจะชิงโจมตีสหรัฐก่อน โดยเริ่มจากเกาะกวมที่เป็นฐานทัพสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิค
+ สหรัฐ : สต็อกสินค้าส่งเดือนมิ.ย.เพิ่มดีกว่าคาด จับตาตัวเลข PPI & CPI ที่กำลังจะออกมา
# สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนมิ.ย.ว่า +0.7% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 เดือน และมากกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่รายงานว่าจะ +0.6% โดยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย.ได้แรงหนุนจากสต็อกรถยนต์ที่ +1.4%
# จับตาดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.ของสหรัฐที่จะรายงานออกมา
- ตลาดหุ้นสหรัฐ : กังวลปัญหาคาบสมุทรเกาหลี
ดัชนี DJIA ปิด -36.64 จุด หรือ -0.17% ดัชนี S&P500 ปิด -0.90 จุด หรือ -0.04% และดัชนี Nasdaq ปิด -18.13 จุด หรือ -0.28% เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือที่มากขึ้น
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาเพิ่มขึ้นหลังสต็อกน้ำมันสหรัฐลดลงเกินคาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 49.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 52.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยหนุนการรีบาวด์คือ EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงถึง 6.45 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 475.4 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ส.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.7 ล้านบาร์เรล
+ ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ราคาทองพุ่งแรงหลังมีความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีมากขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 16.7 ดอลลาร์ หรือ 1.32% ปิดที่ระดับ 1,279.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
• กลุ่มท่องเที่ยว : รมว.คลังกล่าวถึงแผนกระตุ้นททท.ว่าต้องดูเรื่องดุลงบประมาณด้วย
จากการที่ททท.จะเสนอให้มีการนำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวมาในประเทศตามโซนต่างๆ 3 โซนมาลดหย่อนภาษีในช่วง 1.5-5.0 หมื่นบาท/คนในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.60 นั้น ทางรมว.คลังกล่าวว่าขอศึกษารายละเอียดและผลกระทบก่อนเพราะต้องดูเรื่องดุลงบประมาณ (รายรับ & รายจ่าย) ของประเทศด้วย รวมไปถึงผลที่ได้จากการใช้มาตรการลักษณะนี้ในปีก่อนว่าประสบความสำเร็จแค่ไหน อย่างไร
• WICE (ราคาปิด 4.50 บาท) : กำไร 2Q60 โตดี YoY
# บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q60 เท่ากับ 26 ล้านบาท (+63%YoY) และงวด 6M60 กำไรสุทธิ +92% เป็น 50 ล้านบาท โดยหลักมาจากการทำงบการเงินรวมกับ SEL
# คาด 2H60 กำไรจะโต YoY น้อยลงเพราะฐานกำไร 2H59 รวม SEL เข้ามาแล้วตั้งแต่กลางส.ค.59 แต่ถ้ามีการเข้าซื้อกิจการเพิ่มก็จะเป็น Catalyst ราคาหุ้นได้
# ในทางเทคนิค การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกเท่านั้น แนวต้าน 4.6, 4.8-5 บาท Stop loss ถ้าหลุด 4.4 บาท
+ MONO (ราคาปิด 3.54 บาท) : กำไรไตรมาส 2/60 ฟื้นตัวต่อ
# ไตรมาส 2/60 มีกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดจาก 13 ล้านบาทในไตรมาส 2/59 ซึ่งเป็นผลจากรายได้ของทีวีดิจิตอลเพิ่มขึ้น หลังจากเรทติ้งสูงขึ้น ในไตรมาส 2/60 จึงปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาขึ้น 38% จากระดับเฉลี่ยในปี 59 เป็นประมาณ 2.8 หมื่นบาท/นาที และเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 126%QoQ นับว่าผลประกอบการมีการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง
# ปี 60 บริษัทจะพลิกเป็นกำไรสุทธิได้ จากขาดทุนสุทธิ 250 ล้านบาทในปี 59 อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 3.54 บาท มี P/E ปี 60 สูงถึง 50 กว่าเท่า แต่ก็มีโอกาสลดลงเป็น 30-35 เท่าในปี 62 ถ้าการเติบโตของกำไรในปี 61 และปี 62 อยู่ที่ 30%-38% ต่อปี
# ในทางเทคนิค การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกเท่านั้น (ลบไม่เล่น) แนวต้าน 3.80, 4.00 บาท Stop loss ถ้าหลุด 3.40 บาท
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]