- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 10 August 2017 16:30
- Hits: 1635
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
การหลีกหนีความเสี่ยงลดลง
คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้ในทิศทางเดียวกับหุ้นในภูมิภาค นักลงทุนยังคงจับตาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ แม้ความกังวลจะผ่อนคลายลงเล็กน้อยเห็นได้จากราคาสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำเริ่มคงตัว แต่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์กลับพุ่งขึ้นรวมทั้งน้ำมันน่าจะทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องขยับขึ้น ภายในประเทศรัฐบาลเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่อ ล่าสุดรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยง 3 สนามบินหลัก มูลค่า 2.8 แสนล้านบาท เริ่มประมูลได้ปลายปีนี้ อัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ลดลงมาอยู่แค่ 41.5% ในเดือน มิ.ย. บ่งชี้ว่ารัฐบาลยังจะก่อหนี้เพื่อการลงทุน และกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกมาก
หุ้นเด่นวันนี้ : MTLS (ราคาปิด 34.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 41.00 บาท)
บมจ. เมืองไทย ลิสซิ่ง เป็นหุ้นเด่นในวันนี้ จากการเติบโตในระดับสูงและรายได้ที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอและแข็งแกร่ง หนุนโดยความต้องการสินเชื่อที่ยังสูงในตลาดที่ไม่มีใครเข้าถึง (untapped market) ล่าสุด MTLS รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ที่ 571 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% QoQ และ 90.2% YoY หนุนโดยสินเชื่อที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งตามการขยายสาขาของบริษัท ณ สิ้นไตรมาส 2/60 จำนวนสาขาทั้งหมดอยู่ที่ 2,046 สาขา เริ่มเข้าใกล้เป้าหมายปี 60 ที่ 2,200 สาขา เราค่อนข้างมีมุมมองบวกต่อกลยุทธ์การขยายสาขาดังกล่าวเนื่องจากการเพิ่มจำนวนสาขาจะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงผู้ที่ยังไม่สามารถใช้บริการทางการเงินจากธนาคารพาณิชย์ได้ นอกจากนั้นแล้ว เราคาด MTLS จะยังแสดงกำไรสูงสุดรายไตรมาสใหม่ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี หนุนโดยช่วงไฮซีซั่น เราคาดสินเชื่อปี 60 จะเติบโตถึง 70% เราคาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโตต่อเนื่องที่ 64.0% ในปี 60 และ 45.3% ในปี 61 Price Pattern ของ MTLS แม้ว่าทั้งในระยะสั้นและระยะกลางยังคงอยู่ในช่วงของการพักฐาน จากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Sell Signal แต่ก็ยังคงมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิด Monthly Buy Signal อยู่ ซึ่งคาดว่าอาจต้องใช้ระยะเวลาอีกพักใหญ่กว่าที่ Price Pattern ของ MTLS จะกลับมาเกิดความแข็งแกร่งในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อีกครั้ง ด้วยการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ MTLS ยังคงมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 36.50 บาท โดยที่ผ่านมานั้น Price Pattern ของ MTLS ได้ขึ้นไปทดสอบเป้าหมายดังกล่าวในระหว่างวันไปแล้ว แต่ไม่สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 36.50 บาทได้สำเร็จ จึงเกิดแรงเทขายทำกำไรออกมา ซึ่งจะถือเป็นการสร้างฐานให้มั่นคงสำหรับการปรับตัวขึ้นอีกครั้งในระยะต่อไป (Resistance: 34.50, 35.25, 36.50; Support: 33.50, 32.75, 31.50)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
เตรียมเปิดประมูลรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน หลังจากที่การศึกษาความเป็นไปได้ล่าสุดของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบินดอนเมืองสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภามูลค่า 2.8 แสนล้านบาทเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น รัฐคาดเตรียมเปิดประมูลโครงการดังกล่าวได้ภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า โครงการดังกล่าวจะดำเนินในรูปแบบ PPP โดยที่บริษัทเอกชนจะลงทุนจำนวน 2 แสนล้านบาท ขณะที่รัฐลงทุน 8 หมื่นล้านบาท (บางกอกโพสต์)
หนี้สาธารณะเดือน มิ.ย.ลดลง 1.62 แสนล้านบาท อยู่ที่ 6.19 ล้านล้านบาท คิดเป็น 41.5% ของ GDP ประเทศ และลดลงจาก 42.9% ในเดือน พ.ค. เนื่องจากการกู้ยืมที่ลดลง (บางกอกโพสต์)
ททท. ชงลดหย่อนภาษีสูงสุด 5 หมื่นบาท นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมเสนอแผนโครงการ "เที่ยวทั่วไทย ไปถึงถิ่น" ระยะเวลาดำเนินการ ไตรมาส 4 ตั้งแต่เดือน ต.ค. - ธ.ค. 2560 โดยเสนอให้วงเงินลดหย่อนภาษีสูงกว่ามาตรการลดหย่อนที่เคยมีมา สูงถึง 50,000 บาท โดย ททท.จะได้นำประเด็นนี้ไปหารือในการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง วันพฤหัสบดีที่ 10 ส.ค.นี้ ในขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยยังไม่เห็นมาตรการลดภาษีท่องเที่ยว ชี้ต้องพิจารณางบประมาณประเทศเป็นสำคัญ (กรุงเทพธุรกิจ, Efinance.com)
ต่างประเทศ :
เกาหลีเหนือมีแผนจะยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง 4 ลูกภายในกลางเดือนส.ค. ไปที่เกาะกวม ก่อนจะนำเสนอต่อนายคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่ จากการเปิดเผยของสื่อรัฐของเกาหลีเหนือในวันนี้ (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันพุธ จากความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ ทำให้นักลงทุนต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลงอยู่ที่ 2.237% จากที่แตะระดับ 2.212% ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์และลดลงจากระดับ 2.261% เมื่อวันอังคาร (Reuters)
เงินสวิสฟรังก์และเงินเยนแข็งค่าเทียบกับเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันพุธดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลง 0.12% สู่ระดับ 93.53 หลังจากปรับตัวขึ้นถึงระดับ 93.888 ในระหว่างการซื้อขายก่อนหน้านี้ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเมื่อวันพุธ เนื่องจากความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์จากการแลกเปลี่ยนคำพูดกันอย่างเผ็ดร้อนระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคาร นักลงทุนหันไปให้ความสนใจความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลกและกำไรของบริษัทจดทะเบียน (Reuters)
การสืบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐทวีความเข้มข้น มีการบุกตรวจค้นบ้านพักของนายพอล มานาฟอร์ต อดีตประธานแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ ซึ่งการตรวจค้นดังกล่าวแสดงว่าการตรวจสอบความเป็นไปได้ที่อาจมีการสมคบคิดกันระหว่างทีมหาเสียงของทรัมป์กับรัสเซียทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปปรับตัวลงวานนี้ จากเหตุการณ์ในปารีสและความตึงเครียดของการเมืองระหว่างประเทศ โดยวานนี้มีเหตุรถยนต์พุ่งชนทหารกลุ่มหนึ่งในกรุงปารีส ซึ่งคาดว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีการวางแผนมาก่อน (Reuters)
ผลกำไรไตรมาส 2/60 โดยรวมค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 ของบริษัท MSCl ยูโรโซนที่ได้รายงานไปแล้วเติบโต 15.7% (Reuters)
เอเชีย :
ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย. ลดลง 1.9% MoM โดยลดลงติดต่อกัน 3 เดือน ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งเป็นตัวชีวัดการใช้จ่ายเงินทุนในอีก 6-9 เดือนข้างหน้า ลดลงสวนกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.7% จากผลสำรวจของ Cabinet Office มีการคาดการณ์ว่าคำสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 7.0% ในไตรมาส 3/60 (Reuters)
กลต. สหรัฐระงับการตัดสินใจที่จะขายตลาดหลักทรัพย์ชิคาโก (CHX) ให้กับนักลงทุนที่มีถิ่นฐานอยู่ในจีนเป็นการชั่วคราว เนื่องจากข้อเสนอในการขายตลาดหลักทรัพย์ชิคาโกให้กับกลุ่ม Chongqing Casin Enterprise Group ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ออกกฎหมายสหรัฐ (Reuters)
ราคาเหล็กจีนคาดว่าจะอยู่ในระดับสูงตลอดปีนี้เนื่องจากการใช้จ่ายเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานจีนกระตุ้นให้เกิดความต้องการด้านการก่อสร้างในประเทศ จากข้อมูลของ Nippon Steel & Sumitomo Metal Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเหล็ก Rebar ปรับตัวขึ้นสูงสุดนับแต่เดือนมี.ค. 2556 ในสัปดาห์นี้ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น 1% เมื่อวันพุธ หลังจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐดิ่งลงเกินความคาดหมาย โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันของสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วง 6.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลง 2.7 ล้านบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 56 เซนต์ (+1.1%) อยู่ที่ 52.70 ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 39 เซนต์ (+0.8%) อยู่ที่ 49.56 ดอลลาร์ (Reuters)
ทองปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากความตึงเครียดของเกาหลีเหนือ ราคาทองคำตลาดจรปรับตัวขึ้น 1.3% อยู่ที่ 1,275.98 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่แตะจุดไฮในเดือน มิ.ย.ที่ 1,276.10 ดอลลาร์ ราคาทองล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1.3% อยู่ที่ 1,279.30 ดอลลาร์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
MISS. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042