- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 10 August 2017 16:18
- Hits: 1036
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายนำโดย AOT, MINT และกลุ่มโรงพยาบาลอย่าง BH, BDMS, CHG, BCH ในขณะที่มีแรงซื้อเก็งกำไรต่อเนื่องใน CPF อีกทั้ง WORK และ SPALI เกิด Techical rebound โดย ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,571 จุด (-5.9) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.4 หมื่นล้านบาท
โดยนักลงทุนชาติ กลับมาซื้อหุ้นไทยที่ 861 ลบ.แต่กลับมา Short สุทธิ SET50 Index Future อีกครั้ง ที่ 12,089 สัญญา
Investment theme
เริ่มเห็นแรงขายของต่างชาติในตลาดเกิดใหม่ : ภายหลังจากสหรัฐรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจออกมาดี ทั้งการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราว่างงาน(%) และค่าแรง นอกเหนือจากส่งผลให้ Dollar Index ฟื้นตัวกลับมายังบริเวณ 93.6 แล้ว ยังเห็นการฟื้นตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐที่ 2.25% ล่าสุดนักลงทุนต่างประเทศเริ่มทยอยขายหุ้นในตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะ ประเทศเกาหลีใต้,ไทย,อินเดีย,อินโดเนเซีย และไต้หวัน รวม 7 วันทำการสูงถึง 3.9หมื่นล้านบาท (ขายตลาดหุ้นไทยสูงถึง 7.7พันล้านบาท) ถือเป็นส่วนหนึ่งของการส่งสัญญาณความพร้อมของแผนการลดขนาดงบ US-Balance sheet และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในช่วงครึ่งปีหลังที่ 1.25 -1.50% ซึ่งเราคาดจะเห็นเม็ดเงินไหลกลับฝั่งตะวันตก ส่งผลให้เราแนะนำนักลงทุนให้ปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นและหันมาถือเงินสดมากขึ้นที่ 60:40 (จากเดิม 50:50) โดยภายหลังการประกาศงบการเงินไตรมาส2 เราเริ่มเห็นสัญญาณการอ่อนตัวของกำไรและ Margin(%) และมองว่าต่อเนื่องมายังไตรมาส3
Investment theme: สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวตามการรายงานผลประกอบการ 2Q60 ซึ่งเรามอง Downside บริเวณ 1,560 ในขณะที่ Upside บริเวณ 1,583 โดยคงคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกลุ่มค้าปลีก, กลุ่มก่อสร้าง, อสังหา และถือหุ้นกลุ่ม 4 โรงต่อ
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา จีนรายงานตัวเลข CPI เดือนก.ค.ต่ำกว่าคาดที่ 1.4% / จีนรายงานจัดการปัญหาเหล็กคุณภาพต่ำกว่า 120 ล้านตัน คาดส่งผลให้ Cocking coal, Iron Ore ฟื้นตัวต่อเนื่อง / ค่าเงินวอนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสหรัฐที่ 1,140 / กทพ.เผยเตรียมปรับขึ้นค่าทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 ในปีหน้า / สหรัฐรายงานน้ำมันคงคลังดิบลดลงสูงกว่าคาดที่ 6.4 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้ Brent ปรับขึ้นต่อที่ 52.7 เหรียญ/บาร์เรล
เรื่องเด่นวันนี้
IVL , PTTGC, TOP เท่ากับคาด , EGCO สูงกว่าคาด / TASCO ต่ำกว่าคาด
Stock pick : BEM
BEM : ซื้อสะสม @ THB8.50 (ประกาศงบวันนี้)
คาดผลประกอบการไตรมาส2 ที่จะประกาศเย็นวันนี้จะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งรายได้ของธุรกิจทางด่วนและรถไฟฟ้าเติบโตดี และในทางบัญชีมีโอกาสตัดค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายรฟม.ลดลงจากการขยายสัมปทานน้ำเงินต่อขยายเมื่อเดือนเมษายน
ในวันพรุ่งนี้ นายกประยุทธ์จะเดินทางไปเปิด1สถานีเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและม่วง ที่สถานีบางซื่อ-เตาปูน โดยเราคาดว่าจะมีผู้โดยสารจากสายสีม่วงหันมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น 40% จากปัจจุบัน
คาดกำไรปี 2560 เติบโต 22% ที่ 3,179 ล้านบาท โดยล่าสุดกทพ.ออกมาระบุจะปรับขึ้นค่าทางด่วนในปี 2561 ของทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 ซึ่งจะเป็นบวกต่อ BEM
Trading idea – ทยอยขาย TOP , SPRC และ AOT / เก็งกำไร BKD / ถือ CPF / ทยอยสะสม CKP ภายหลังงบไตรมาส2 ประกาศ /ทยอยสะสม TASCO คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้ว / ยังไม่ใช้จังหวะซื้อ KCE /
รอดูแนวโน้มที่แนวรับ 1566 กราฟรายชั่วโมง ดัชนีปรับตัวลงหลุดแนวรับกรอบสามเหลี่ยมบริเวณ 1573+/- ทำให้เสียทรงการแกว่งในกรอบดังกล่าว ระยะสั้นจึงคาดกลับมาแกว่งในกรอบ Sideway คาดแนวรับบริเวณ 1566 +/- Modified Stochastic จะกลับเข้าไปอยู่ในเขต Oversold จึงมองว่ามีโอกาส Rebound ระยะสั้นจากแนวรับดังกล่าวไปที่แนวต้านที่ 1575 และมองเป็นแนวทำกำไรเพื่อเล่นรอบ หากผิดคาดดัชนีหลุดแนว Low ที่ 1564 แนะนำ Stop Loss (1) รอซื้อกลับบริเวณแนวรับ 1566 เพื่อ Trading ในกรอบไปที่แนวต้าน 1575 (2) หลุด Low 1564 Stop Loss ทันที
แนวรับ : 1570, 1566, 1564 แนวต้าน : 1575, 1578
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : คืนวันนี้จับตาสหรัฐรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต / จับตาประธาน FED แต่ละสาขาให้มุมมองของการขึ้นดอกเบี้ยและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ปัจจัยในประเทศ : กระทรวงเกษตรเตรียมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมคนละ 3,000 บาท
หุ้นเทคนิค:
AOT (B 52.00, Tp 54.00, Cut 52.00)
HANA (B 44.50, Tp 46.50//48.00, Cut 44.00)
นักวิเคราะห์ : สุกิจ อุดมศิริกุล / สรพล วีระเมธีกุล / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000