- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 August 2017 16:46
- Hits: 2211
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,568-1,590
SET ปิดตลาด +0.24% ที่ 1,577.44 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ ปริมาณการซื้อขาย 3.6 หมื่นล้าน ต่างชาติขายต่อ 878 ล้านบาท
เรามองอย่างไร:
ตลาดหุ้นโลกกังวลปัญหาความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือที่ กดดัน Dow Jones -0.15% ขณะที่ภาพรวม SET ยังมอง sideways ในกรอบ 1,572-1,584 จุด เหมือนเดิม เน้นกลุ่มหุ้นที่คาดการณ์กำไรเติบโตดี (BEAUTY SEAFCO SAWAD MTLS EA) และจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูง (KKP SPRC CPNRF DIF) ขณะที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคในกลุ่มธนาคาร (KBANK)
ทำอะไรดี:
1.'ซื้อ' BEAUTY (TP 15 บาท) คาดกำไร 2Q17 ทำจุดสูงสุดใหม่จากยอดขายในประเทศ และต่างประเทศที่เติบโตแข็งแกร่ง รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วง 2Q17 เป็นอีกปัจจัยหนุน SSSG
2.'ซื้อ' SEAFCO (TP 17.5 บาท) การประมูลรถไฟทางคู่ช่วง 1-2 เดือนนี้, กำไร 2Q17 คาดเติบโตแข็งแกร่ง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู ที่จะเริ่มการก่อสร้างปลายปีนี้-ต้นปีหน้า เป็นปัจจัยหนุนกำไรทั้งปีเติบโต 50% ช่วง 2017-18 มอง PE18 ที่ 13x ต่ำสุดในกลุ่มรับเหมาฯ
3.'ซื้อ' MTLS (TP 38 บาท) กำไร 2Q17 เติบโต +90% y-y ที่ 571 ล้านบาท จากยอดปล่อยสินเชื่อเติบโต 61% คาดกำไรปี 2017 ที่ 2.4 พันล้านบาท +64% y-y มองดอกเบี้ยต่ำเป็นผลดีต่อต้นทุนการเงินของ MTLS
Tactical Portfolio (1-3 months):
'ถือ' BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI และ WORK (ไม่เปลี่ยน)
Fundamental:
ผลการดำเนินงาน 2Q17 : SPALI แม้กำไร 2Q17 หดตัวลง 7% y-y ที่ 1.3 พันล้านบาท แต่ดีกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ขณะที่ MAKRO และ QH กำไรใกล้เคียงกับที่คาดไว้ สำหรับ KCE กำไรอ่อนแอ -17% y-y ที่ 672 ล้านบาท เนื่องจากแรงกดดันของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และราคา copper foil ที่เป็นวัตถุดิบปรับสูงขึ้น โดยกำไร 1H17 คิดเป็นเพียง 36% ของประมาณการกำไรทั้งปี
Today's News:
ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค.: ต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ 62.2 ซึ่งเป็นการปรับลดลง 3 เดือนติดต่อกัน กังวลการขยายตัวเศรษฐกิจ น้ำท่วมภาคตัววันออกเฉียงเหนือ และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
KFC: กลุ่มไทยเบฟฯ ซื้อกิจการ KFC 240 สาขา จากกลุ่ม ยัม เรสเทอรองตส์ มูลค่า 1.13 หมื่นล้านบาท คิดเป็นประมาณ 47 ล้านบาท/สาขา อาจมีความกังวลต่อการแข่งขันระหว่างกลุ่มไทยเบฟฯ กับ CENTEL ที่มีสาขา KFC อยู่ 220 สาขา
Technical Story: Technical SET range: 1,570-1,586
ธนาคารเริ่มตังหลัก: (รายงาน The Technical Story)
SET เริ่มตั้งหลักแต่ยัง Sideways ในกรอบ วันนี้มีด่านที่ 1,578 จุดและ 1,581 จุด ทะลุได้อาจไปทดสอบ 1,583 หรือ 1,586 จุด ส่วนแนวรับมีที่ 1,576 ถ้ายืนไม่อยู่อาจลงไปทดสอบ 1,573 และ/หรือ 1,570 จุด
หุ้นแนะนำ:
CPF เข้าซื้อเมื่อทะลุ 25.75 บาท เป้าหมาย 27 บาท
RCL เข้าซื้อเพิ่มที่ 8.45 หรือเมื่อทะลุ 8.65 บาท เป้าหมาย 9.60 บาท
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
'ถือ' Long S50U17 เป้าหมาย 1,005 จุด...Trailing Stop 994 จุด
"Long" Block Trade MTLS เป้าหมาย 36.25/38.50...Leverage 10x
TradeCode: Buy >CPF, ERW, RCI
(ดูรายงาน Trade Code)
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : Tactical portfolio ปรับสูงขึ้น +0.6% ดีกว่า SET -0.2% เล็กน้อย โดย THANI และ BEUATY ให้ผลตอบแทนสูงสุดในพอร์ต +9.8% และ +6% y-y ขณะที่แรงขายกลุ่มรับเหมาฯ ทั้งกลุ่มกดดัน STEC ปรับลดลงแรง 7.7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมไปถึง KBANK ปรับลดลงแรง -4.6%...อย่างไรก็ดีเราแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 10 ตัว ต่อเนื่อง BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI WORK
'ซื้อ' THANI (TP 6.8).ความต้องการรถบรรทุกเพิ่มหนุนสินเชื่อเติบโตดี 18% ปีนี้ ขณะที่ต้นทุนการเงินต่ำต่อเนื่องจาก credit rating ที่ดีขึ้น หนุนผลการดำเนินงานเติบโต 18% ปีนี้ และ 22% ปีหน้า มองราคาหุ้นปรับสูงขึ้นแกร่ง แต่ยังมีแนวโน้ม outperform ตลาดต่อไป แนวต้านระยะสั้นที่ 6.15 บาท และถัดไปตามกรอบ uptrend channel ที่ 6.8-6.85 บาท ใกล้เคียงเป้าหมายพื้นฐาน
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA : ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
BEAUTY : เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
DELTA : เรามองภาพ turnaround ปีนี้จากธุรกิจยานยนต์ที่จะเติบโตโดดเด่น และธุรกิจเก่าที่ชะลอตัวเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น
DTAC : มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA : เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KCE : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
KKP : หุ้นปันผลสูง เติบโตมั่นคง ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำ
MINT : ธุรกิจโรงแรมและอาหารมีการฟื้นตัวและขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
STEC : ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
WORK : ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล, CFA , [email protected], +66 2617 4991
วิชนันท์ ธรรมบำรุง [email protected], 02-617 4979