- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 August 2017 16:11
- Hits: 882
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไร 2Q17 แข็งแกร่งและจ่ายปันผลสูง
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,570-1,580 โดยวานนี้ปิดบวกได้นำโดยหุ้นในกลุ่มธนาคารหลังจากที่ปรับตัวในช่วงหลายวันก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้นเป็นวันที่ 10 ติดต่อกันอีกเกือบ 900 ลบ. แต่พลิกมาซื้อสุทธิในตลาดฟิวเจอร์สราว 1,100 ลบ. และไหลเข้าพันธบัตรอย่างหนาแน่นกว่า 2.1 หมื่นลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะยังแกว่ง Sideways Down อ่อนตัวลงมาทดสอบ 1,575-1,573 จุด โดยมีปัจจัยกดดันคือสถานการณ์ตึงเครียดจากการที่ทรัปม์ขู่โจมตีเกาหลีเหนือหลังมีรายงานว่าสามารถย้อขนาดหัวรบนิวเคลียร์ให้สามารถบรรจุในขีปนาวุธได้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงโดยตลาดเริ่มไม่มั่นใจว่า OPEC จะสามารถลดการผลิตน้ำมันได้ตามที่ตกลง ส่วนฝั่งบ้านเรายังคงอยู่ในช่วงการประกาศประกอบการ 2Q17 ของบริษัทจดทะเบียนอย่างหนาแน่น เชื่อว่าหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและจ่ายปันผลสูงยังน่าสนใจและเป็นแหล่งพักเงินที่ดี
กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไร 2Q17 แข็งแกร่งและจ่ายปันผลสูง
หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : EKH, EPG, ITEL, MTLS, SEAFCO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$20ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$66ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไทย US$27ล้าน และอินโดนีเซีย US$20ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค ตลาดกลับมากังวลต่อความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> TMB <<
คาดกำไร 2H17 ดีกว่า 1H17 จากสินเชื่อที่มีแนวโน้มเติบโต H-H และการตั้งสำรองที่ลดลงตามแผนควบคุม NPL รวมถึงสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น จากการรับรู้รายได้ต่อสัญญาความร่วมมือกับ FWD อีก 15 ปี ตกปีละ 1.3 พันลบ. หรือ 330 ลบ.ต่อไตรมาส
คาดกำไรสุทธิปีนี้ +17% Y-Y เป็น 9.6 พันลบ. แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.84 บาท
TMB ถือเป็นหุ้นที่ Outperform กลุ่มแบงก์ในรอบ 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถ้าอิงตาม Relative Strength ในอดีต เรามองว่ามีโอกาส Outperform กลุ่มได้ต่ออีก 5% เป็นอย่างน้อย
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) MTLS กำไรสุทธิ 2Q17 แข็งแกร่งตามคาดที่ 571 ลบ. +6.5% Q-Q, +90% Y-Y รายได้รวมโดยเฉพาะรายได้ดอกเบี้ยโตแข็งแกร่ง สอดคล้องกับยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ยังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ Loan spread และ Loan per branch กลับมาเติบโต หลังชะลอตัวลงในไตรมาสก่อน ส่วน NPL ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 1.18% แนวโน้มกำไร 2H17 ดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะเป็นฤดูกาลของสินเชื่อและคาดค่าใช้จ่ายเปิดสาขาชะลอลง แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2017 เท่ากับ 39 บาท
(-) KCE กำไรสุทธิ 2Q17 อยู่ที่ 672 ลบ. +1.5% Q-Q แต่ -17.2% Y-Y จากต้นทุนทองแดงที่ขึ้นแรง และต้องปรับลดราคาขายตามเงินบาทที่แข็งค่า รวมถึงมีเหตุไฟไหม้เครื่องอบสีเคลือบแผ่นบอร์ด กำไร 1H17 คิดเป็นเพียง 36% ของประมาณการทั้งปีที่ 3,420 ลบ. (+16.5% Y-Y) แม้คำสั่งซื้อจะเร่งตัวใน 3Q17 แต่ปัจจัยลบด้านต้นทุนและค่าเงินยังไม่หายไป เรามีแนวโน้มปรับประมาณการและราคาเป้าหมายลงจากเดิม 100 บาทหลังการประชุมบ่ายวันนี้
(0) PCSGH กำไรสุทธิ 2Q17 อยู่ที่ 161 ลบ. +227% Y-Y, +5% Q-Q จากฐานที่ต่ำในปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นตามการบริหารต้นทุนและ Economy of scale คาดว่ากำไรจะเร่งตัวใน 3Q17 จากการส่งมอบชิ้นส่วนให้บิ๊กไบค์และรถบรรทุก ก่อนจะอ่อนลงใน 4Q17 ตามฤดูกาล เรายังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์ ถ้าให้กำไร 2H17 ดีเหมือน 1H17 กำไรปีนี้จะโต 64% Y-Y อยู่ที่ 625 ลบ. อิง PE ในอดีตที่ 20 เท่า จะได้ราคาเหมาะสม 8 บาท Upside ยังจำกัด แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว
(0) MGT กำไรสุทธิ 2Q17 ออกมาตามคาดที่ 10 ลบ. ลดลง 14% Q-Q ตามปัจจัยฤดูกาลที่เป็น Low Season ส่วนเมื่อเทียบ Y-Y เพิ่มขึ้น 34% จากฐานที่ต่ำเพราะมีการปรับโครงสร้างองค์กรก่อนเข้า MAI ในปีก่อน แนวโน้ม 2H17 แม้ยังสดใสต่อเนื่อง แต่ไม่ได้เหนือจากคาดการณ์ของเรา ขณะที่ เราเริ่มเห็นสัญญาณลบในรายได้ที่ชะลอทั้งที่มีการเพิ่มทีมขายอีกเท่าตัว ซึ่งเมื่อผนวกกับราคาที่ขึ้นแรงจนเกินราคาเป้าหมายของเราที่ 3.30 บาท จึงแนะนำขายชั่วคราว จนกว่าประเด็น M&A จะมีความชัดเจน
(0) PDG กำไรสุทธิ 2Q17 อยู่ที่ 18 ลบ. -19% Q-Q, -17% Y-Y จากรายได้ที่ลดลงและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตามการดีดตัวของ PET ราว 10% YTD คาดกำไรกลับมาฟื้นใน 3Q17 เพราะต้นทุน PET กลับสู่ระดับปกติ แต่เราปรับกำไรปี 2017-2018 ลง 5-9% เพื่อสะท้อนลูกค้าที่หายไปและยอดสั่งซื้อจากกลุ่มน้ำดื่มที่ชะลอจากฤดูฝนที่มาเร็ว ราคาเป้าหมายลดเหลือ 5.20 บาท จาก 5.50 บาท ยังแนะนำซื้อ โดยปันผลงวด 1H17 อยู่ที่ 0.08 บาท/หุ้น XD 21 ส.ค. 17
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
9 ส.ค. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
- สหรัฐฯ: รายงานสต็อกน้ำมันดิบของ EIA
10 ส.ค. - ไทย: ประมูลรถไฟทางคู่ นครปฐม-หัวหิน (1.58 หมื่นลบ.)
- ฟิลิปปินส์: ดุลการค้า (มิ.ย.), ประชุมธนาคารกลาง
- สหรัฐฯ: ดัชนีราคาผู้ผลิต (ก.ค.), ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
11 ส.ค. - สหรัฐฯ: ดัชนีราคาผู้บริโภค (ก.ค.)
- ฮ่องกง: 2Q17 GDP
- สิงคโปร์: 2Q17 GDP
14 ส.ค. - จีน: ยอดค้าปลีก (ก.ค.),ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ก.ค.)
- ญี่ปุ่น: 2Q17 GDP
16 ส.ค. - ไทย: กนง. ประชุม (คาดคงดอกเบี้ย)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบ จากความกังวลด้านการเมืองหลังทรัมป์ระบุจะตอบโต้เกาหลีเหนือด้วยความรุนแรงหากเห็นว่าเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐ ทั้งนี้ รายงานตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาสูงสุดในรอบ 17 ปีช่วยเป็นปัจจัยหนุนตลาดได้บ้าง
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย โดยแม้มีปัจจัยบวกจากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก แต่ถูกชดชเยจากตัวเลขเศรษฐกิจเยอรมนี และ จีนที่ออกมาต่ำกว่าคาด
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดลบจากความกังวลระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ ขณะที่นักลงทุนเฝ้าติดตามตัวเลขเงินเฟ้อจีนวันนี้
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางอ่อนค่าเล็กน้อย โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆแถว 33.26-33.28 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดลบ 0.22 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 49.17 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลอุปทานของลิเบีย และ ไนจีเรีย ซึ่งบดบังข่าวบวกจากการลดการส่งออกน้ำมันของซาอุเดือนหน้า 0.52 ล้านบาร์เรล/วัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 2.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,262.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research