- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 08 August 2017 19:51
- Hits: 1546
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> MINT, TPIPP, VNT
Stock S R Comment
MINT 40.50 41.75 กระตุ้นท่องเที่ยวลดหย่อนภาษี
TPIPP 7.45 7.60 ผ่าน EIA เรียบร้อย พร้อม COD ไตรมาส 4 นี้
VNT 21.30 21.90 Spread PVC สูง หนุนกำไรดี
Tactical rotate from ENERG to Hire Purchase BANK
Earnings : บริษัทที่ประกาศผลการดำเนินงานเมื่อวานนี้ดีกว่าที่ตลาดคาดได้แก่ ANAN (หากตัดกำไรพิเศษออกไปจะตรงกับที่เราคาดการณ์ไว้), GPSC, TU
ANAN : ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ที่ 279 ล้านบาท สูงกว่าที่เราคาดการณ์ที่ 193 ล้านบาท เนื่องจากมีรายการพิเศษจากการขายที่ดิน 82 ล้านบาท ในขณะที่ยอด Presales ในไตรมาสนี้ทำได้สูงกว่าเป้าถึง 50% ทั้งนี้บริษัทจะมีการโอนโครงการใหม่อีก 10 โครงการใน 2H60 จึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิที่ 1.98 พันล้านบาท แนะนำซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 5.70 บาท เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรที่โดดเด่น
TU : ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ที่ 1,491 ล้านบาท โดยหากคิดเป็นกำไรปกติจะฟื้นตัวได้ดี QoQ เนื่องจากบริษัทมีการควบคุมค่าใช้จ่าย และยอดขายรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากผ่านพ้น Low Season ไปแล้ว ทั้งนี้ปัจจัยด้านต้นทุนวัตถุดิบทูน่าที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องยังเป็นปัจจัยกดดันอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ ซึ่งเรามองว่าในครึ่งปีหลังธุรกิจทูน่าจะยังอ่อนตัว แต่การควบคุมค่าใช้จ่ายของบริษัทจะเป็นปัจจัยที่ช่วยชดเชยได้ จึงยังคงประมาณการกำไรปกติของปี 60 ไว้ที่ 5,619 ล้านบาท และยังคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 24 บาท แนะนำ "ซื้อ"
BANK vs. ENERG : เราเคยแนะนำให้นักลงทุน Switch การลงทุนออกจากกลุ่มธนาคารฯ (BANK) เข้าสู่กลุ่มพลังงาน (ENERG) เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจาก ณ ขณะนั้นอัตราส่วนระหว่างดัชนี SETBANK / SETENERG อยู่ในระดับที่สูงมาก จนนับตั้งแต่วันนั้นกลุ่มพลังงานปรับตัว Outperform กลุ่มธนาคารฯไปได้ถึง 8% แล้ว ล่าสุดอัตราส่วนดัชนีดังกล่าวปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วจนมาอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่นักลงทุนเป็นกังวลกับปัญหา NPL ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ประเมินว่า ณ ระดับปัจจุบัน ราคาหุ้นของกลุ่มธนาคารฯได้สะท้อนข่าวร้ายไปในระดับหนึ่ง จนทำให้ Downside risk เริ่มมีจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มพลังงานที่ระดับราคาน้ำมันและค่าการกลั่นเริ่มอยู่ในระดับสูงแล้ว จนอาจทำให้ Upside เริ่มจำกัดในช่วงถัดไป จึงอาจเป็นจังหวะเริ่มต้นที่ดีที่นักลงทุนจะทยอยโยกย้ายเม็ดเงินจากกลุ่มพลังงานฯเข้าสู่กลุ่มธนาคารฯอีกครั้ง โดยเริ่มจากธนาคารในกลุ่มเช่าซื้อที่มีปัญหา NPL ในระดับต่ำ และมี Dividend yield เป็นปัจจัยประคับประคองที่สำคัญ (KKP, TCAP, TISCO)
กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET Index ปรับตัว Sideways ต่อไปในกรอบ 1540 - 1600 จุด แนะนำถือหุ้นในกลุ่มแนะนำต่อไป ได้แก่
1) กลุ่มสาธารณูปโภค เลือก BCPG และ WHAUP เป็น Top pick ของกลุ่ม จากแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ ส่วนหุ้นที่มี Dividend Yield ในระดับสูงและคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลคือ GLOW, EGCO, RATCH
2) กลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็น ได้แก่ กลุ่ม Consumer staples (CPALL, BJC) และกลุ่ม Healthcare (BCH, CHG) ที่มีแนวโน้มทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อต่ำ
3) กลุ่มโรงกลั่น เนื่องจากค่าการกลั่นยังคงอยู่ในระดับสูง และมองว่าตลาดรับรู้ประเด็น Inventory loss ของกลุ่มในไตรมาส 2/60 ไปพอสมควรแล้ว เลือก BCP, SPRC, TOP เนื่องจากคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลในช่วงถัดไป และ IRPC ที่ราคายังคง Laggard กลุ่ม
4) กลุ่มหุ้นปันผลสูงที่เริ่มมี Downside จำกัดเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม และยังมีโอกาสได้ Sentiment เชิงบวกหากกนง.ตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16 สิงหาคมนี้ได้แก่ KKP, GLOW, QH, TVO, SIRI
แนวรับ 1,569 แนวต้าน 1,583
บทวิเคราะห์วันนี้ :
ANAN (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.70 บาท) 2Q60 Earnings Result : กำไรสูงกว่าคาดการณ์
TU (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 24 บาท) คชจ. ลด ช่วยหนุนกำไร 2Q60 ดีกว่าคาด
Today's Event :
PTTEP XD 1.50 บาท
IVL ลูกหุ้นเข้า 331,380,109 หุ้น
PSTC ลูกหุ้นเข้า 8,400 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]