- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 04 August 2017 12:01
- Hits: 2761
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (4/08/60)
ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้
SET INDEX เมื่อวานนี้สามารถรีบาวน์มาใกล้เคียงบริเวณที่เราคาดไว้ที่1586 จากนั้นมีแรงขายหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างออกมาโดยปิดตลาดที่ 1578.25 (-2.29 , -0.14%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.85 หมื่นล้านบาท
ภาพรวมตลาดหุ้นต่างประเทศเมื่อคืนนี้
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่พุ่งขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 7
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทค้าปลีกรายใหญ่อย่าง เน็กซ์ พีแอลซี และธนาคารยูนิเครดิต
DAX (-0.22%) , CAC-40 (+0.46%), FTSE100 (+0.85%)
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้น หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลงน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) โดยสัญญาทองคำปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 7 นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ในวันนี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้
กลยุทธ์การลงทุน 'Selective Buy'
คาดว่า SET INDEX แกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1571 - 1583 เนื่องจากตลาดยังคงขาดปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ๆ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐรายงานดัชนีภาคบริการ (ISM) ออกมาใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดกาณ์รวมถึงธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในประวัติการณ์และยังคงวงเงินในมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตามเดิม ที่ 4.35 ล้านปอนด์อย่างไรก็ดีตลาดยังคงจับตารอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non Farm Employment Change) ที่จะประกาศในคืนนี้ตัวเลขดังกล่าวอาจมีนัยต่อการเปลี่ยนมุมมองด้านนโยบายของ FED เป็นอย่างมากสำหรับปัจจัยภายในประเทศยังคงต้องจับตารอดูผลประกอบการ Real Sector ที่จะทยอยประกาศออกมาโดยเมื่อวานที่ผ่านมา IRPC รายงานกำไรสุทธิ 2Q17 ที่ระดับ 1.2 พันล้านบาท (-67% YoY, -48%QoQ) ต่ำกว่า Bloomberg consensus กว่า 36% จึงควรระวังความผันผวนของหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มโรงกลั่น (BCP, SPRC, TOP) กลยุทธ์ยังคงเน้นเก็งกำไรเป็นรายตัวโดยเฉพาะตัวที่มีปัจจัยเฉพาะ และ/หรือที่คาดผลประกอบการ 2Q17 จะออกมาดี
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
VIBHA (ไม่ได้ Coverage) คาดว่าผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นจากสัดส่วนผู้ป่วยที่กลับมาทั้งในโรงพยาบาลวิภารามและ CMR เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากฤดูฝนที่มาเร็วในปีนี้รวมถึงผลบวกของการปรับจ่ายเงินประกันสังคมในส่วนของ CMR , วิภาราม เนื่องจาก CMR และ วิภารามมีรายได้จากประกันสังคมในสัดส่วนราว 30% ของรายได้โรงพยาบาลโดยประเมินว่าการปรับขึ้นวงเงินประกันสังคมครั้งนี้ส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิช่วงครึ่งหลังของปี ทาง Bloomberg Consensus ให้ราคาเหมาะสมที่ 2.8 บาท
ทีมวิเคราะห์