- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 04 August 2017 12:00
- Hits: 2693
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งดี และไม่ดี การเมืองสหรัฐเป็นปัญหาอีก
คาดหุ้นไทยวันนี้ขยับลงจากการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในตลาดหุ้นทั่วโลกหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจจากสหรัฐ ยุโรป จีน และญี่ปุ่น มีทั้งดีและไม่ดี คละเคล้ากัน ก่อนการประกาศตัวเลขการว่าจ้างงาน ภาคเกษตรสหรัฐวันนี้ การสอบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐงวดนี้จะทำให้การเมืองกลับมากดดันหุ้นสหรัฐอีกรอบ อย่างไรก็ตามผลประกอบการเงินแข็งแกร่งจากสหรัฐ และยุโรปจะช่วยพยุงหนุนหุ้นอยู่ได้ ปัจจัยภายในประเทศวันนี้เป้นลบ จำนวนผู้ใช้สนามบินเติบโต 8.15% ใน 6 เดือนแรก ชะลอลงจาก 6 เดือนแรกของปีที่แล้ว แต่ถือว่าสูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ธนาคารกรุงเทพ แถลงว่า NPLs ยังเพิ่มอีก แต่ไม่มองว่าจะเป้นปัญาด้วยให้น้ำหนักการขยายตัวของเศรษฐกิจ และสภาพคล่องที่จะมาทาให้ NPLs ลดลง
หุ้นเด่นวันนี้ : CHG (ราคาปิด 2.68 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 3.40 บาท)
บมจ. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ เป็นหุ้นเด่นในวันนี้ หนุนโดยการคาดการณ์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 ที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มในอนาคตที่สดใส เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ของ CHG จะอยู่ที่ 148 ล้านบาท ลดลง 3% QoQ ตามฤดูกาล แต่เพิ่มขึ้น 28% YoY การปรับตัวขึ้น YoY ของกำไรจะมาจากฤดูฝนที่เริ่มเร็วกว่าปกติในปีนี้ รวมถึงฐานที่ต่ำในปีก่อนเนื่องจากกำไรไตรมาส 2/59 ถูกกดดันโดยค่าใช้จ่ายจากการเพิ่มส่วนต่อขยายโรงพยาบาล นอกจากนั้นแล้ว เรามองว่ากำไรของ CHG จะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี หนุนโดยช่วงไฮซีซั่น อีกทั้ง การปรับขึ้นของค่าเหมาจ่ายโดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ซึ่งมีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 60 ที่ผ่านมา จะเป็นอีกปัจจัยบวกเช่นกัน ณ สิ้นไตรมาส 1/60 บริษัทมีจำนวนผู้ประกันตนอยู่ที่ 401,609 ราย และเราคาดตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 450,000 รายในสิ้นปีนี้ เราคาดการณ์กำไรจะเติบโต 19.5% ในปี 60 และ 18.9% ในปี 61 Price Pattern ของ CHG ยังมีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง จากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal แต่ยังคงมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิด Monthly Sell Signal อย่างไรก็ตามด้วยความแข็งแกร่งของ Price Pattern ของ CHG ทั้งในรายวันและรายสัปดาห์ บ่งบอกว่า Price Pattern ของ CHG มีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 2.72 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 2.86 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ CHG มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 2.56 บาท (Resistance: 2.70, 2.74, 2.78; Support: 2.64, 2.60, 2.56)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
จำนวนโรงงานขอใบอนุญาตในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.4% YoY อยู่ที่ 3.99 หมื่นล้านบาท โดยมีจำนวนโรงงานขอทั้งสิ้น 404 โรงงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรมเชื่อว่าการเติบโตดังกล่าวบ่งบอกว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้กระตุ้นให้มีการเริ่มต้นธุรกิจและขยายตัวมากขึ้น (บางกอกโพสต์/ไทยโพสต์)
จำนวนผู้โดยสารที่สนามบินหลักเติบโตลดลง แต่ยังถือว่าดีอยู่ จำนวนผู้โดยสารผ่านสนามบินหลักทั้ง 6 แห่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีเพิ่มขึ้น 8.15% อยู่ที่ 66.1 ล้านคน ชะลอตัวจากที่เติบโต 12.5% ในครึ่งปีแรกของปี 59 สาเหตุของการเติบโตที่ชะลอลงมาจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญของรัฐและการปิดชั่วคราวของบางรันเวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิ อย่างไรก็ตาม ระดับการเติบโตดังกล่าวยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล (บางกอกโพสต์)
สภาหอการค้าฯ กังวลการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว ซึ่งมีกำหนดถึงวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยที่ผ่านมา รัฐได้เปิดศูนย์รับขึ้นทะเบียน 100 แห่งทั่วประเทศ และแต่ละที่สามารถรับการขึ้นทะเบียนได้ 2,000 คนต่อวัน แต่ที่ผ่านมามีจำนวนแรงงานมาขึ้นทะเบียนเพียง 700-800 คนต่อวัน (บางกอกโพสต์)
ต่างประเทศ :
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันพฤหัส จากข่าวการตั้งคณะลูกขุนเพื่อสอบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งปธน.สหรัฐในปี 59 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีทรงตัวอยู่ที่ 2.219% ลดลง 4 bps จากวันพุธ (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจาก lSM ได้รายงานว่าภาคบริการสหรัฐชะลอตัวและมีข่าวการตั้งคณะลูกขุนเพื่อสอบสวนข้อกล่าวหากรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลงเล็กน้อยอยู่ที่ 92.783 (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดผสมผสานเมื่อวันพฤหัส โดยดัชนีแนสแดค และ S&P500 ปิดลบจากหุ้นเทคโนโลยีตัวใหญ่ ๆ ที่ปรับตัวลง ส่วนดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกัน 7 วัน หุ้นปรับตัวลงเล็กน้อยเนื่องจากข่าวการตั้งคณะลูกขุนเพื่อตรวจสอบกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้ว (Reuters)
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐมีจำนวนลดลงในสัปดาห์ก่อน ชี้ว่าตลาดแรงงานที่กำลังตึงตัวนั้นน่าจะส่งผลให้เฟดประกาศแผนที่จะลดการถือครองพันธบัตรในเดือนหน้า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานฯ ลดลง 5,000 รายอยู่ที่ 240,000 รายในสัปดาห์ก่อน โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะลดลงอยู่ที่ 242,000 ราย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย ติดต่อกัน 126 สัปดาห์ ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่พ.ศ. 2513 (Reuters)
ภาคบริการสหรัฐในเดือนก.ค. ขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 เดือน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMl) ภาคบริกาiของมาร์กิตอยู่ที่ระดับ 54.7 ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นจากที่ระดับ 54.2 ในเดือนมิ.ย. ตัวเลขดังกล่าวเป็นสัญญาณการขยายตัวของธุรกิจมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และเป็นการเร่งขยายตัวติดต่อกัน 4 เดือน (lHS Markit)
ภาคบริการสหรัฐชะลอตัวในเดือนก.ค. สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (lSM) เผยว่าดัชนีภาคบริการของ lSM ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.9 ในเดือนก.ค. จากระดับ 57.4 ในเดือนมิ.ย. (lSM)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นวานนี้ หนุนโดยผลการดำเนินงานของบริษัทที่แข็งแกร่ง แม้จะมีปัจจัยฉุดจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลง และ Siemens เลื่อนการนำบริษัทการแพทย์เข้าตลาด (Reuters)
กำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ของบริษัท MSCI ยุโรป มีแนวโน้มเติบโตมากกว่า 22% YoY หลังจากที่มี 64% ของบริษัททั้งหมดได้รายงานผลการดำเนินงานไปแล้ว และกว่า 2 ใน 3 ของบริษัทเหล่านี้แสดงกำไรสุทธิที่ดีกว่าคาดหรือเป็นไปตามคาด (Thomson Reuters lBES)
เศรษฐกิจยูโรโซนไตรมาส 3/60 เติบโตช้าลง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (final Markit Eurozone Composite PMl) เดือน ก.ค.อยู่ที่ 55.7 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ลดลงจาก 56.3 ในเดือน มิ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 55.8 แต่ดัชนีดังกล่าวส่งสัญญาณถึงการขยายตัวมาตลอดในช่วง 49 เดือนที่ผ่านมา (lHS Markit)
เอเชีย :
อัตราการว่างงานในญี่ปุ่นลดลงในเดือนมิ.ย. และจำนวนตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 เดือนสู่ระดับสูงสุดนับแต่ปีพ.ศ. 2517 อัตราการว่างงานลดลงอยู่ที่ 2.8% จาก 3.1% ในเดือนพ.ค. เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 3.0% อัตราส่วนของการจ้างงานต่อจำนวนแรงงานเพิ่มขึ้นที่ระดับ 1.51 จาก 1.49 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนก.พ. 2517 (Reuters)
ภาคบริการญี่ปุ่นเติบโตชะลอตัวในเดือนก.ค. ดัชนี PMl ภาคบริการของญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับ 52.0 ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 10 เดือน แต่ลดลงจากที่ระดับ 53.3 ในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ดัชนี Nikkei Composite PMl อยู่ที่ระดับ 51.8 ในเดือนก.ค. ลดลงจากที่ระดับ 52.9 ในเดือนมิ.ย. และเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 59 (lHS Markit)
ธุรกิจของจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. ดัชนี Caixin China Composite PMl อยู่ที่ระดับ 51.9 ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นจากที่ระดับ 51.1 ในเดือนมิ.ย. และเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือน (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันลดลงวานนี้ เนื่องจากคำสั่งซื้อปรับตัวลงหลังจากราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับขึ้นเข้าใกล้ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รวมถึงความกังวลเรื่องปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของโอเปกที่ยังอยู่ในระดับสูง ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลง 35 เซนต์ อยู่ที่ 52.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 56 เซนต์อยู่ที่ 49.03 ดอลลาร์ (Reuters)
ดอกเบี้ย ราคาทองคำตลาดจรปรับเพิ่มขึ้น 0.15% อยู่ที่ 1,268.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองล่วงหน้าลดลง 0.3% ราคาทองทรงตัววานนี้ เนื่องจากนักลงทุนรอดูข้อมูลตัวเลขแรงงานสหรัฐ เพื่อใช้ในการคาดการณ์แนวโน้มอัตราอยู่ที่ 1,274.40 ดอลลาร์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 0-2680-5056
MISS. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042