- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 04 August 2017 11:59
- Hits: 2380
บล.บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดทรงตัวเท่ากับปิดวันก่อนหน้า แกว่งตัวผันผวนสลับขึ้นลงส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยมีจุดสูงสุดของวันที่ 1583.70 จุด เพิ่มขึ้น 3.16 จุด ก่อนที่ภาคบ่ายเผชิญแรงขายจากกลุ่มพลังงงาน และแบงก์กดดัชนีไหลลงเข้าสู่แดนลบ ลงทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1577.93 จุด ลดลง 2.61 จุด ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 5.77 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงของดัชนีได้แก่ PTT, KBANK, STEC, SCCC, KCE, BJC ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1578.25 จุด ลดลง 2.29 จุด (-0.14%) มูลค่าการซื้อขาย 38,579 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้ยังไม่ไปไหน แกว่งตัวแคบ ๆ ในกรอบเดิมที่ขยับ High ขึ้นเล็กน้อยที่ 1583 จุด ก่อนที่เผชิญแรงขายไหลลงมาทำปิดต่ำกว่าเปิดที่ 1578 จุด ส่งผลให้กราฟแท่งเทียนที่กลับมาเริ่มเตือนในชิงลบ แต่จากภาพที่ดัชนียังยืนเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยได้ เรายังให้น้ำหนักที่ยังแกว่งตัวออกข้าง โดยอาจจะดึง Low ลงเล็กน้อย ที่แนวรับ 1570-1575 จุด และมีแนวต้าน 1582-1584 จุด
แกว่งตัวผันผวน - แกว่งตัวออกข้าง มีโอกาสดึง Low เล็กน้อย
Support 1570 // 1560 จุด Resistance 1580 // 1590 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
" กลับมาเล่นต่ำกว่า 1580 อีกครั้ง "
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : นักลงทุนต่างประเทศชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นเอเซียมาตลอดทั้งสัปดาห์ .... วานนี้ SET Index ทำ high ได้เพียง 1583 จุด หุ้นที่ถูกขายหนักวันก่อนหลายตัวถูกซื้อกลับพยุงตลาดขึ้นมาได้เพียงช่วงสั้นๆ แต่ทั้งวันติดลบไป 2.2 จุด ลงมาต่ำกว่าระดับ 1580 อีกครั้งหนึ่ง .... ประเมินได้ว่า แรงซื้อในตลาดยังอ่อนแอ นักลงทุนต่างประเทศลดพอร์ตหุ้นลง และหุ้นกลุ่มนำตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุนต่อ วันนี้ ประเมินทิศทางดัชนีฯยังมีโอกาสปิดลบ ก่อนเข้าวันหยุด และนักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯคืนนี้
กลยุทธ์การลงทุน : ในภาพรวม ดัชนียังไม่ไปไหนไกลนัก การลงทุนในช่วงนี้ จึงเน้นเล่นสั้นๆ โดยเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวก หรือหุ้นที่เก็งงบ 2Q ว่าจะออกมาดี
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ BBL, MEGA*, BCH , CPF
หุ้นแนะนำเชิงเทคนิค : TPCH, ASIAN , TCMC-W1
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
(+) มอง BBL ได้รับประโยชน์สูงสุดจากสินเชื่อรายใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการภาครัฐ
(+) CHG คาดกำไรสุทธิ 2Q17 โต 33% YoY จากจำนวนผู้ประกันตนและผู้ป่วยเงินสดเพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 22,026.10 จุด เพิ่มขึ้น 9.86 จุด หรือ +0.04% ยังคงปรับตัวทำ New High อย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน สาเหตุหลักๆยังมาจากปัจจัยเฉพาะตัวจากการรายงานผลประกอบการของหุ้นขนาดใหญ่ที่ออกมาดี และตัวเลขเศรษฐกิจวานนี้ยังออกมาดีกว่าคาดการณ์อีกด้วย ด้าน Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น +0.1% ปิดที่ 378.93 จุด
ความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯเป็นปัจจัยเสี่ยง ประเด็นที่นักลงทุนจับตามองในช่วงนี้คือเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ โดยโพลล์สำรวจความนิยมทรัมป์ร่วงลงต่ำสุดตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง คาดว่ามาจากนโยบายต่างๆที่กล่าวไว้ในช่วงหาเสียงยังไม่สามารถนำมาใช้จริงได้.... ด้านตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดีกว่าคาด โดยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 3.0% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2016 ซึ่งนักลงทุนกำลังรอดูตัวเลขการจ้างงานซึ่งจะประกาศในเย็นวันนี้ .... นอกจากนี้ยังมีประเด็นการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่อรัสเซียซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงใหม่อีกด้วย เรามองประเด็นดังกล่าวยังคงส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าอยู่ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับส่งออก (ของไทย) จึงยังมีความเสี่ยงจากการแข็งค่าของเงินบาท(ต่อดอลล่าร์)
ราคาน้ำมันดิบแกว่งในกรอบประมาณ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบ ลดลง 56 เซนต์ หรือ -1.1% ปิดที่ 49.03 ดอลลาร์/บาร์เรล.... แม้ในวันก่อนหน้านี้ EIA จะรายงานว่า Demand การใช้น้ำมันเบนซินสูงขึ้น แต่รายงานกลุ่มโอเปกมีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลงน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ .... ซึ่งเรายังคงมุมมองต่อราคาน้ำมันดิบเหมือนเดิม โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ที่ราว 50 ดอลลาร์/บาร์เรล จากภาวะ oversupply ที่ยังมีอยู่
ประเด็นในประเทศ สถานการณ์น้ำท่วมมีความเบาบางลง, การเก็งกำไรสำหรับงบ Q2 จะเข้ามามาก ประเด็นด้านเหตุการณ์น้ำท่วมเริ่มเบาบางลงเนื่องจากยังไม่มีรายงานสถานการณ์ที่บานปลายออกไป .... คาดว่าการเก็งกำไรสำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 จะมีเข้ามามากขึ้น หลังสัปดาห์หน้าจะมีหุ้นประกาศผลการดำเนินงานออกมาจำนวนมาก
Fund Flow Analysis & Sector Rotation
Fund Flow …… นักลงทุนต่างประเทศชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นเอเซียมาตลอดทั้งสัปดาห์ วันที่ผ่านมา มีขายที่ตลาดไต้หวันและสลับไปซื้อที่ตลาดอินเดีย และเงินลงทุนส่วนใหญ่ยังไหลเข้าตลาดพันธบัตรต่อเนื่อง คาดมาจากทั้งการเข้ามาเก็งค่าเงินว่าดอลล่าร์อาจอ่อนตัวลงมากกว่านี้ Fed จะไม่ได้เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือ ลด QE เร็วนัก ... ผลต่อตลาดไทย จะมีความเห็นเช่นเดียวกับวันก่อน คือเป็นลบ แต่จะเป็นการเลือกขายหุ้นบางตัว
ตลาดต่างประเทศ ... ดัชนี Dow Jones เดินหน้าอีกเล็กน้อย ด้วยหุ้น 2 กลุ่มคือ Health และ Industrial แต่ดัชนีฯ S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวลดลง บ่งชี้ว่าตลาดเริ่มไปไม่ไหว แต่ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากรอตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯที่จะรายงานคืนนี้(04) ........ การไหลเข้าของเงินลงทุนสู่ตลาดพันธบัตร การอ่อนค่าของเงินดอลล่าร์ เรามองเป็นสัญญาณลบของตลาดอื่นๆ ความกังวลดังกล่าว อาจเป็นเรื่องเสถียรภาพของประธานาธิบดี Trump หรือความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซียในช่วงนี้ และช่วงนี้ ตลาดหุ้นแต่ละประเทศ เป็นช่วงของการรายงานผลประกอบการ ซึ่งเป็นปัจจัยเฉพาะตลาด ...... ภาพเหล่านี้ เรามองว่า ไม่ได้มีผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย
SET Index วานนี้ ทำ high ได้เพียง 1583 จุด หุ้นที่ถูกขายหนักวันก่อนหลายตัวถูกซื้อกลับพยุงตลาดขึ้นมาได้เพียงช่วงสั้นๆ แต่ทั้งวันติดลบไป 2.2 จุด ลงมาต่ำกว่าระดับ 1580 อีกครั้งหนึ่ง .... ประเมินได้ว่า แรงซื้อในตลาดยังอ่อนแอ นักลงทุนต่างประเทศลดพอร์ตหุ้นลง และหุ้นกลุ่มนำตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุนต่อ วันนี้ ประเมินทิศทางดัชนีฯยังมีโอกาสปิดลบ ก่อนเข้าวันหยุด และนักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯคืนนี้..... หุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ไม่เป็นตัวหนุนดัชนีฯ เพราะเริ่มถูกขายทำกำไร นักลงทุนหันไปหาหุ้นกลุ่มใหม่ อย่างเช่นหุ่นกลุ่มโรงพยาบาล
กลยุทธ์ลงทุน ในภาพรวม ดัชนียังไม่ไปไหนไกลนัก การลงทุนในช่วงนี้ จึงเน้นเล่นสั้นๆ โดยเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวก หรือหุ้นที่เก็งงบ 2Q ว่าจะออกมาดี
#คำแนะนำหรือมุมมองของหุ้นแต่ละกลุ่ม สำหรับวันนี้#
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันดิบ กลับมาต่ำกว่า $50 เหรียญ ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไร หุ้นหลักๆ ที่ขึ้นมา PTTGC TOP IVL SPRC เราแนะนำเป็นชะลอ หรือขายทำกำไรตามตลาด..... หุ้นที่ยังแนะนำ hold ต่อ เพราะคาดราคาน้ำมัน น่าจะกลับขึ้นไปที่ $50 เหรียญได้อีกครั้ง จะเป็น PTTEP และ BANPU ที่ราคาหุ้นถือว่าขึ้นมาไม่มาก ความเสี่ยงที่จะถูกมีน้อย ยกเว้นราคาน้ำมัน จะถูกกดลงไปหา $45 เหรียญ อีกครั้ง
หุ้นในกลุ่มสินค้าเกษตรหรือเกษตรแปร รูป ราคาหุ้นที่เริ่มฟื้นตัวหลังลงมามาก จะเป็น LST จากราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดมาเลเซีย ที่ปรับตัวขึ้นมา 2% จากปลายสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 2624 ริงกิต/ตัน (ประมาณ 3.3 บาท/กก.)
หุ้นกลุ่มธนาคาร เรามองว่าอาจถูกเล่นแทนกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมา อาจมีแรงซื้อหุ้นกลับ ดีต่อ หุ้น top pick ของเราคือ BBL , TCAP และ SCB … วันนี้ เรามีบทวิเคราะห์หุ้น BBL ราคาที่เหมาะสม 200 บาท
หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล มีแรงซื้อกลับเข้ามาเกือบทั้งกลุ่ม ที่ถูกจุดพลุ โดย โรงพยาบาลที่ไม่เน้นประกันสังคม คือ BH และ BDMS และโรงพยาบาลประกันสังคมถูกเล่นตามมา ความแรงของหุ้น BH ที่วิ่งเกินราคาที่เหมาะสมของเราที่ 184 บาทไปแล้ว แต่ด้วยที่เรา ให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มประกันสังคม ที่ได้อานิสงค์จากคนไข้ที่เพิ่มขึ้นและสิทธิประโยชน์จาก สนง.ประกันสังคม หุ้น top pick ของเราคือ BCH (ราคาที่เหมะสมคือ 16.40 บาท)
หุ้นที่ให้บริการขนส่งทางเรือ (ที่มีเรือเป็นของตัวเอง) การสูงขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ปริมาณการค้าระหว่างประเทศที่สูงขึ้น และ ดัชนี Baltic Dry Index ล่าสุด อยู่ที่ 1023 จุด ยังหนุนราคาหุ้นกลุ่มเรือเทกอง ที่ตลาดหุ้นไทย มี PSL เป็นตัวหลักของกลุ่ม
หุ้นขนาดเล็ก หุ้นนอกสายตา ที่ราคาหุ้นลงมามากหรือผลการดำเนินงานเป็นที่น่าจูงใจ ให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรช่วงสั้นๆ อาทิ TNR , LEE , ANAN, MEGA และ GUNKUL
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
BBL(ราคาปิด 182.00) เรามองว่า หุ้นกลุ่มธนาคารจะล้อไปตามภาวะเศรษฐกิจและได้แรงบวกจากดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขยับขึ้นในช่วงปลายปีนี้ กำไรปีนี้เราคาดโตตามเป้า3.48 หมื่นลบ. +9.6% และลูกค้าเป็น Corporate มากความเสี่ยงเรื่องหนี้เสียจะไม่สูงมาก บริษัทรายงานกำไรสุทธิช่วง 2Q17 ที่8,047 ล้านบาท (+12.2%YoY -3.1%QoQ) ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่8,168 ล้านบาท …. (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่200 บาท)
MEGA(ราคาปิด 28.25) มองเป็นอีกหุ้นที่ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง …. โดย Bloomberg คาดกำไรสำหรับช่วง 2Q17 ไว้ที่ 246 ล้านบาท (+12.8% YoY, +28.8% QoQ) และคาดทั้งปีที่ที่ 981 ล้านบาท (+12.5% YoY).... นอกจากนี้เทรนด์การรักสุขภาพยังเป็นปัจจัยหนุนให้ MEGA เติบโตในระยะยาวอีกด้วย .... (ราคาที่เหมาะสม โดย Bloomberg ที่ 31.59 บาท)
BCH(ราคาปิด 14.40) BCH เป็นอีกหนึ่งหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ราคาหุ้นยัง laggard ..... คาดยอดผู้ป่วย 2Q17 จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากฤดูฝนที่มาเร็วกว่าปกติในทุกปี และยังได้รับอานิสงส์จากโครงการตรวจสุขภาพฟรีตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับใน 2Q16 มีเลื่อนการรับรู้รายได้จากประกันสังคมทำให้มีฐานที่ต่ำ เราจึงคาดว่า BCH จะสามารถเติบโตได้YoY .... สำหรับแผนงานต่างๆ ของ BCH ยังคงตามกำหนดการเดิมที่ตั้งไว้ ประกอบด้วย Greenfield Project 5 โครงการ และ Renovation อีก 6 โครงการ ซึ่งจะค่อยๆ ทยอยแล้วเสร็จในช่วงปี2017 - 2020 ..... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 16.40 บาท)
CPF(ราคาปิด 24.80) เรามองราคาได้ที่ยังอยู่ในระดับสูงเป็นผลบวกให้ CPF ราคาไก่ในประเทศได้ปรับตัวสูงขึ้นจาก 38-39 บาท/กก.ใน1Q17 มาอยู่ที่ 40-42 บาท/กก.ใน 2Q17 ..... อีกทั้งราคาหมูที่สูงกว่าไตรมาสแรกและภาวะธุรกิจกุ้งที่ดี ทำให้คาดว่ากำไรปกติเพิ่มขึ้น 46% QoQ ..... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 31.00 บาท)
Source: KTBST Research
ประเด็นสำคัญ : ข่าวและหุ้น
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 3.0% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2016 หลังปรับตัวลง 2 เดือนติดต่อกัน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.9%
การเมืองสหรัฐฯ - ผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยควินนิเปียกพบว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับคะแนนนิยมต่ำเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ที่เขาเข้ารับตำแหน่ง นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้รับคะแนนความไม่พึงพอใจจากผู้ถูกสำรวจสูงเป็นประวัติการณ์
สถานการณ์สหรัญฯ-รัสเซีย - นายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียไม่มีแผนการตอบโต้การคว่ำบาตรครั้งใหม่จากสหรัฐ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามผ่านร่างกฎหมายคว่ำบาตรรัสเซียฉบับใหม่เมื่อวานนี้
เศรษฐกิจยุโรป - Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนเพิ่มขึ้น 8.8 จุด สู่ระดับ 35.2 ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2000
เศรษฐกิจไทย - หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (เจซีซี) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจแนวโน้มเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2560 บริษัทสมาชิกหอการค้าญี่ปุ่นต่างระบุว่า ดัชนีแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 26 ถือว่าสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา (โพสต์ทูเดย์ 03/08/2017)
เศรษฐกิจไทย - ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า กคช.อยู่ระหว่างการผลักดันให้เกิดกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยของตนเองในรูปแบบซอฟต์โลน กองทุนที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ มูลค่า 5,000 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยครอบคลุม 1.2 แสนครัวเรือน(โพสต์ทูเดย์ 04/08/2017)
เศรษฐกิจไทย - รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ได้แจ้งให้ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีแรงงานของกลุ่มซีแอลเอ็มวีทุกประเทศทราบว่าหลังเปิดศูนย์เฉพาะกิจรับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว 10 วัน ยังมียอดแจ้งน้อย จากที่กรมการจัดหางานได้ประเมินไว้ 8 แสนคน (โพสต์ทูเดย์ 04/08/2017)
ITEL - บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) แจ้งว่า บริษัทชนะการประกวดราคาโครงการจัดให้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ กลุ่มที่ 4 (ภาคกลาง-ภาคใต้) มูลค่างานรวม 1.89 พันล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
BGRIM- บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) แจ้งว่าโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซน้ำน้อย 2 และเซกะตัม 1 ของบริษัท เซน้ำน้อย และ เซกะตำไฮโดรเพาเวอร์ จำกัด (XXHP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าลาว (Electricite Du Laos :EDL) ในวันที่ 30 ก.ค.60 ที่ผ่านมา
KSL - บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาหลักเกณฑ์การเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก แบบ SPP Hybrid Firm ที่รัฐบาลเตรียมจะเปิดรับซื้อจำนวน 300 เมกะวัตต์ เบื้องต้นจะนำกำลังการผลิตไฟฟ้าเหลือใช้ในโรงงานน้ำตาล เสนอขายไฟฟ้าตามโครงการดังกล่าว รวม 40-45 เมกะวัตต์ (MW) จากโรงไฟฟ้าใน จ.ขอนแก่น และจ.เลย
COL - ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีโอแอล (COL) กล่าวว่า ธุรกิจออฟฟิศเมทได้จับมือกับบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด เข้ามาเปิดจุดให้บริการ OfficeMate x Kerry Express ส่งพัสดุด่วนในร้านออฟฟิศเมท
Analyst : Mongkol Puangpetra
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
+662 648 1127
[email protected]