- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 02 August 2017 18:05
- Hits: 882
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
เทรดไซด์เวย์ต่อ ยังไม่มีปัจจัยเปลี่ยนทิศทางตลาด
KGI คาด SET วันพุธยังคงไซด์เวย์ต่อ ยังไม่มีปัจจัยที่มีนัยสำคัญมาเปลี่ยนภาพรวมดัชนีฯ และตลาดยังคงเน้นเก็งกำไรรายตัวในหุ้นงบไตรมาส 2/60 เด่น + หุ้นมีปันผลระหว่างกาลเด่น (วานนี้ดัชนีฯ ผันผวนก่อนปิดเกือบไม่เปลี่ยนแปลง ใกล้เคียงที่คาด) ด้านปัจจัยภายนอกยังเป็นบวก (แต่มีผลบวกมายังหุ้นไทยค่อนข้างจำกัด) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งขึ้นโดยดาวโจนส์ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง หลังภาพรวมผลประกอบการของ บ.สหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง รวมทั้ง บ.แอปเปิลซึ่งรายงานกำไรหลังตลาดหุ้นปิดทำการ แข็งแกร่งตามที่ตลาดคาดและให้มุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มยอดขายไอโฟนรุ่นใหม่ในช่วงปลายปีนี้ ด้านตลาดน้ำมันปรับฐานหลังขึ้นแรง รับข่าวว่าโอเปกยังคงเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือน ก.ค. 2560 จากการเพิ่มปริมาณผลิตของลิเบีย ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่ลดลงน่าจะลดความโดดเด่นของหุ้นกลุ่มพลังงานไปบ้าง (ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีฯ ทรงตัวแคบ) ในส่วนของค่าเงินบาทยังอยู่ในเชิงแข็งค่า หลังค่าเงินดอลล่าร์ฯ และบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ลดลงตามการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่า consensus คาดเล็กน้อย และเงินเฟ้อ core PCE ทรงตัวในระดับต่ำที่ 1.5% YoY เทียบกับเป้าหมายของเฟดที่ 2.0%
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร TAPAC, SGF, MOONG
TAPAC (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินแกว่งตัวทดสอบแนวต้าน 22.8 บาท หากทะลุผ่านได้ แนะนำ “Follow buy” ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 24.3 บาท และ 25 บาท ตามลำดับ แนวรับ 21.9 บาท (Stop loss 21.7 บาท) 2) คาดผลการดำเนินงาน Bottom out ใน 2Q60 (ปิดงบฯ เม.ย. รายงานงบฯ ไปแล้ว) จะเริ่มเห็นภาพ Earnings momentum ที่โตเด่นในไตรมาสถัดไป ต่อเนื่อง 2 ไตรมาสติดๆ หลังการรับรู้รายได้จากธุรกิจ อสังหาฯที่ประเทศสวีเดน ใน 3Q60 (พ.ค.-ก.ค.) – 4Q60 (ส.ค.-ต.ค.) มูลค่ารวมราว 1.5 – 2.0 พันล้านบาท (จากที่ใน 1H60 มีกำไร 82 ล้านบาท มาจากธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกเพียงอย่างเดียว)
SGF (เป้าพื้นฐาน 0.43 บาท) 1) วานนี้เกิดแรงขายจากการพ้น Silent period (พื้นฐานยังไม่เปลี่ยน) เราประเมินแรงขายจากประเด็นนี้จบแล้ว (ปลดล๊อก Overhang ที่ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอ) และทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นตามปัจจัยพื้นฐานได้ 2) โดยประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q60 เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (คาดพอร์ตสินเชื่อใหม่ 2Q60 รวม = 200 ล้านบาท) และจะเริ่มเพิ่มต่อเนื่องใน 3Q60 อย่างไรก็ดีเราคาดผลการดำเนินงาน 2Q60 จะทรงตัว QoQ แม้จะมีสินเชื่อใหม่เข้ามาก็ตามเนื่องจากมีต้นทุนรายจ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน (ธุรกิจใหม่เพียง Break-even ในไตรมาสนี้) 3) แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินแนวรับ 0.29 บาท แนวต้าน 0.31 บาท และถัดไป 0.35 บาท (Stop loss 0.27 บาท)
MOONG (เป้าพื้นฐาน 9.1 บาท) 1) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานเริ่มสู่ขาขึ้นตั้งแต่ 2Q60 เป็นต้นไป โดยเราประเมินยอดขายเฉลี่ย 1 – 2 ปีนี้ จะเติบโต 20% YoY CAGR เป็นผลจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งภายใต้แบรนด์ “พีเจ้นท์” และแบรนด์ของตัวเอง (เช่น วีแคร์) + ช่องทางขายใหม่อย่าง E-commerce ... เป็นช่องทางที่คาดโตเด่นกว่าธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม 2) PE 2560 ต่ำเพียง 13 เท่า ทั้งที่มีมูลค่าซ่อนในเรื่องของสิทธิขายสินค้า แบรนด์ “พีเจ้นท์” ใน ไทยและลาว ขณะที่ค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภค ทั่วไปจะมี PE เฉลี่ย >20 เท่า 3) ประเมินรูปแบบราคายังคงเกาะกลุ่มเส้นค้าเฉลี่ย 3 – 60 วันที่ ±7 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินแนวรับ 6.85 บาท แนวต้านแรก 7.3 บาท หากผ่านได้จะเป็นการ Breakout ขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 8.65 บาท (Stop loss 6.6 บาท)
หุ้นในกระแส
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รับกระแส E-sport (SYNEX, COM7*): การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้การรับรองกีฬา อี-สปอร์ต เป็นชนิดกีฬา และเตรียมจัดตั้งสมาคมกีฬาอีสปอร์ต เราประเมินว่าจะเป็นการจุดกระแสการเล่มเกมส์คอมพิวเตอร์ และเพิ่มดีมานด์คอมพิวเตอร์ + อุปกรณ์สำหรับการเล่มเกมส์ โดยหุ้นที่คาดจะได้ อานิสงส์ ได้แก่ SYNEX (ค้าส่ง), COM7* (ค้าปลีก) แนะนำ “เก็งกำไร”
i) SYNEX แนวรับ 12.6 บาท แนวต้าน 13.4 บาท หากพ้นแนวต้านดังกล่าวได้ ประเมินทดสอบ 14 บาท (Stop loss 12.5 บาท)
ii) COM7* แนวรับ 12 บาท แนวต้าน 12.3 บาท หากพ้นแนวต้านดังกล่าวได้ ประเมินทดสอบ 13.2 บาท (Stop loss 11.2 บาท)
หุ้นมีข่าว
(0) CPI เดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 0.17% YoY กระทรวงพาณิชย์เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น +0.17% YoY ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น +0.55% YoY ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังเพิ่มขึ้น +0.60% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น +0.55% (กระทรวงพาณิชย์) อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุจากฐานเงินเฟ้อต่ำลง และ ราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่อาหารสดลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนทั้งจากฐานของภัยแล้งในปีที่แล้วและฤดูฝนของปีนี้ที่มีปริมาณน้ำฝนดีกว่าปีที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อที่ติดลบหรือบวกไม่ได้เกี่ยวกับกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจที่ถดถอยแต่อย่างไร ในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงภาวะที่ไม่มีเงินเฟ้อ (Disinflation) เป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศในช่วงที่ภาระหนี้ภาคครัวเรือนจากโครงการรถยนต์คันแรกค่อยๆหมดลง และจะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินเนื่องจากทั้งรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญต่ออัตราการขยายตัวเศรษฐกิจเป็นสำคัญ คาดว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาบไว้ที่ 1.5% ไปจนถึงกลางปีหน้า
(+) '4 ค่ายยักษ์สื่อสาร' แบ่งเค้กเน็ตชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน (กรุงเทพธุรกิจ) "ทรูฯ-ทีโอที-เอไอเอส-อินเตอร์ลิงค์" แบ่งเค้กประมูลเน็ตชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน โครงการบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต 4 สัญญา รอส่งชื่อผู้ชนะเข้าบอร์ดกสทช. 9 ส.ค.นี้ เปิดประมูลเพิ่มอีก 4 สัญญา "โมบาย เซอร์วิส" วันนี้ เริ่มเปิดบริการ ธ.ค.นี้ไม่ต่ำกว่า 15% หมู่บ้านเป้าหมาย คาดครบ 3,920 หมู่บ้าน ภายในก.ค. ปีหน้า
(0) ERW* น้ำท่วมไม่กระทบกำไร (โพสต์ทูเดย์) ERW* รับโรงแรมสกลนครน้ำท่วม คาดจะเปิดอีก 2-4 สัปดาห์ข้างหน้า ยันไม่กระทบผลดำเนินงาน น.ส.กันยะรัตน์ กฤษณเทวินทร์ รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) เปิดเผยว่า ERW มีโรงแรมให้บริการที่ จ.สกลนคร จำนวน 1 แห่ง คือ โรงแรมฮ็อป อินน์ สกลนคร ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์น้ำท่วม คาดว่าจะกลับมาให้บริการได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ข้างหน้าและจะไม่กระทบต่อผลการดำเนินงาน ซึ่งได้จัดทำประกันภัยทรัพย์สินและประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก ซึ่งคุ้มครองความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม
(+) BIG* ตั้งบริษัทลูกอิมเมจโซลูชั่นฯ รุกตลาดธุรกิจปริ๊นติ้งเต็มกำลัง (ข่าวหุ้น) BIG* รุกธุรกิจปริ๊นติ้งเต็มสูบ ตั้งบริษัทย่อย “อิมเมจ โซลูชั่น พลัส” ต่อยอดธุรกิจถ่ายภาพ หวังขึ้นเป็นผู้นำตลาดภาพพิมพ์แบบครบวงจร
(+) LIT ออกหุ้นกู้ 300ล. อายุ 2.5 ปีดอก 6% รับปล่อยกู้หมื่นล. (ข่าวหุ้น) LIT ออกหุ้นกู้ 300 ล้านบาท อายุ 2.5 ปี ดอกเบี้ย 6% จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ ขายให้นักลงทุนสถาบัน-รายใหญ่ ระหว่างวันที่ 16–21 สิงหาคมนี้ รองรับแผนปล่อยสินเชื่อ 10,000 ล้านบาทภายในปีนี้ หนุนรายได้-กำไรทำสถิติสูงสุดใหม่
(+) ครม.เคาะงบมอเตอร์เวย์ จับตา UNIQ*-STEC* มีเอี่ยว (ทันหุ้น) คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบกลางปี 2560 เพิ่มวงเงิน 5.1 พันล้านบาท หวังรองรับโครงการมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-สายบางใหญ่ ขณะที่โบรกเกอร์ชี้หุ้นกลุ่มรับเหมาได้ประโยชน์เต็มๆ ประเมิน UNIQ*-STEC* มีลุ้นรับงาน ดัน Backlog กระฉูด
(+) TCMC สัญญาณดียอดขายพรมเพิ่มเล็งเป้าซื้อกิจการ (ทันหุ้น) TCMC คำสั่งซื้อพรมโรงแรมหรูภายในประเทศเพิ่มขึ้น เล็งขยายตลาดต่างประเทศเต็มสูบมีแผนเจรจาซื้อกิจการเกี่ยวเนื่องธุรกิจพรม และสิ่งทอใหม่ต่อ มั่นใจรายได้สิ้นปีนี้ เข้าเป้าแตะ 5 พันล้านบาท
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ECL (เป้าพื้นฐาน 3.64 บาท) ราคาหุ้นรีบาวด์ต่อเนื่องและสามารถยืนเหนือแนวราคา 3.0 บาทได้ แนะนำพิจารณาแนวราคา 3.46 บาท (Count Back Line) หากปิดเหนือแนวราคาดังกล่าวได้ ประเมินแรงขายชะลอแล้ว ... เชิงพื้นฐาน ประเมินกำไร 2Q60 +30 ล้านบาท Turnaround YoY (2Q59 มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการขายหุ้น PP ต่ำกว่าราคาตลาดฯ) และยังคงคาด 2H60 โตกว่า 1H60 จากการสะสมของพอร์ตสินเชื่อใหม่ต่อเนื่อง โดย 1H60 ยอดสินเชื่อใหม่ = 1.35 พันล้านบาท (+160% YoY) ขณะที่ PE ปี 2560 – 61 = 19.8 เท่า และ 15.1 เท่า ตามลำดับ ขณะที่ค่าเฉลี่ยกลุ่ม ±30 เท่า
MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 38 บาท) ยืนเหนือแนวราคา 31 บาทได้ แนะนำ “Let profit run” ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±33 บาท กำหนดจุด Trailing stop 31 บาท ... ประเมินแนวโน้มกำไร 2Q60 = 603 ล้านบาท (+130% QoQ และ +11% YoY)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
SAMART แนะนำ 'ถือ' เป้าพื้นฐาน 14.9 บาท คาดจะรายงานผลขาดทุนสุทธิ 105 ล้านบาทใน 2Q60 จากที่มีผลกำไรสุทธิ 88 ล้านบาทใน 2Q59 และ 35 ล้านบาทใน 1Q60 ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการปี 2560-2561 ของ SAMART ลงสะท้อนแนวโน้มผลการดำเนินงานที่อ่อนแอกว่าคาด โดยประเมินปี 2560 จะมีผลขาดทุนสุทธิ 119 ล้านบาท (เดิมคาดว่าจะมีกำไร 344 ล้านบาท) และประเมินปี 2561 จะมีกำไรสุทธิ 160 ล้านบาทในปี 2561 (เดิมคาดว่าจะมีกำไร 371 ล้านบาท)
HMPRO* แนะนำ 'ซื้อ' เป้าพื้นฐาน 11.8 บาท มุมมองจากการประชุมนักวิเคราะห์ เป็นกลาง โดยแม้ฝ่ายวิจัยฯจะประเมิน Same Stores Sales Growth (SSSG) ปีนี้จะติดลบ -1% แต่เชื่อว่าสินค้า House brand จะช่วยหนุนอัตรากำไรได้ รวมทั้งรายได้จากค่าเช่าและรายได้บริการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
KTC* แนะนำ 'ซื้อ' เป้าพื้นฐาน 118 บาท ราคาหุ้นปรับลงแรงจากการประกาศมาตรการคุมสินเชื่อฯของทาง ธปท. ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯปี 2560 – 61 ลง 4% และ 14% ตามลำดับ แม้จะปรับลดประมาณการฯลงแล้วก็ตาม Valuation ขณะนี้อยู่ในระดับที่น่าสนใจ (PE < 10 เท่าแล้ว) โดยมี Upside จากราคาเป้าหมายใหม่ 16.8%
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘ค่าเฉลี่ยสิบแปดวันที่นัยรับ 1575 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1575 จุดได้นั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1575-1586 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1575 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบราคา 1575-1560 จุด
แนวรับวันนี้: 1573/1569/1561 แนวต้านวันนี้: 1580/1584
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]