- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 02 August 2017 17:49
- Hits: 1129
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
Bottom Fishing/Defensive
Smart Pick
1. สะสม JWD : ราคาปิด 9.50 บาท ราคาเหมาะสม 13.40 บาท
a) จะรายงานผลประกอบการ 2Q60 ในวันที่ 10 ส.ค. คาดการณ์กำไรสุทธิที่ 45 ล้านบาท +490% YoY และ +14% QoQ จากการฟื้นตัวของธุรกิจห้องเย็น และธุรกิจคลังสินค้ามีลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง
b) ทิศทางผลประกอบการจะเติบโต YoY และ QoQ ไปอีกอย่างน้อย 3-4 ไตรมาสข้างหน้า จากการใช้ Utilization Rate ของธุรกิจห้องเย็นที่เพิ่มขึ้น และธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์จะเข้าสู่จุดคุ้มทุนใน 3Q60 และเริ่มสร้างกำไรตั้งแต่ 4Q60 เป็นต้นไป
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโต +67% YoY เป็น 183 ล้านบาท และก้าวกระโดด +93% YoY เป็น 354 ล้านบาทในปี 2561 และมี Upside Risk จากการจัดตั้งกองทุน REIT ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ ซึ่งคาดว่าอาจส่งผลให้ JWD จ่ายเงินปันผลพิเศษได้สูงถึงหุ้นละ 1.20 บาท คิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 12.6%
2. สะสม LH : ราคาปิด 10.00 บาท ราคาเหมาะสม 11.30 บาท
a) จะรายงานผลประกอบการ 2Q60 ในวันที่ 11 ส.ค. คาดการณ์กำไรปกติที่ 2.16 พันล้านบาท +52% YoY และ +19% QoQ จากการรับรู้รายได้โครงการคอนโด 333 Riverside และ Bangkok สาทร หนุนรายได้ 2Q60 ให้เติบโต +15% YoY และ +26% QoQ เป็น 8,980 ล้านบาท
b) ขณะที่การรับรู้กำไรพิเศษอีก 1 พันล้านบาท จากการขายโรงแรม Grande Centre Point ราชดำริ ให้กับ LHHOTEL จะส่งผลให้กำไรสุทธิ 2Q60 เติบโต +20% YoY และ +78% QoQ เป็น 3,159 ล้านบาท
c) ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูง โดยคาดการณ์เงินปันผล 1H60 หุ้นละ 0.35 บาทคิดเป็น Dividend Yield 3.5% และทั้งปี 2560 หุ้นละ 0.65 บาท คิดเป็น Dividend Yield 6.5%
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.37 จุด ปิดที่ 1576.45 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 3.9 หมื่นล้านบาท โดยหุ้นใน SET50 (-1.19 จุด) กดดัน SET INDEX ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 5 อีกราว 470 ล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิ 612 ล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิ เป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีก 3.3 พันสัญญา เช่นเดียวกันกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 3.4 พันสัญญา
กลยุทธ์วันนี้
SET INDEX คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1570-1580 จุดเช่นเดิม และเราประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยจะยังแกว่งตัวออกข้าง (Sideways) ไปอีกสักระยะ หากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนใน 2Q60 ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ โอกาสปรับประมาณการมีจำกัด ย่อมส่งผลให้ Upside ของ SET INDEX จำกัดเช่นกัน
เราเริ่มเห็นสัญญาณการหมุนกลุ่มหุ้น (Sector rotation) จากกลุ่มธนาคาร (SETBANK -1.8% เทียบกับ SET INDEX -0.3% ตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้) เพราะขาดประเด็นความน่าสนใจในระยะสั้น หลังจบการรายงานผลประกอบการ 2Q60 กอปรกับ การบริโภคที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ เป็นปัจจัยเหนี่ยวรั้งภาพเศรษฐกิจโดยรวม และการเติบโตของสินเชื่อ แต่กลับกลายเป็นแรงกดดันต่อภาวะหนี้เสียของธนาคารมากขึ้น
กลยุทธ์หลัก เลือกหุ้นรายตัวแบบ Bottom Fishing เน้นหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว แต่ราคาหุ้นยังขยับขึ้นไม่มาก มี Upside สูง ผสมผสานกับการสะสมหุ้นปันผลเด่น (Dividend plays) ในกลุ่มโรงไฟฟ้า/ อสังหาฯ/ กองทุน REIT-กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะทยอยขึ้นเครื่องหมาย XD ตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค.นี้ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในช่วงที่ SET INDEX ยังไม่ไปไหนไกล
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กระทรวงพาณิชย์ รายงานเงินเฟ้อไทยเดือน ก.ค. ขยายตัว 0.17% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 0.3% YoY
EU รายงาน GDP 2Q60 เป็นไปตามที่ตลาดคาดคือขยายตัว 0.6%
Bloomberg คาดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC เดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นอีก 2.1 แสนบาร์เรล/วัน
API รายงานปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.78 ล้านบาร์เรล
ติดตามการรายงานผลประกอบการ IRPC (3 ส.ค.) THCOM (4 ส.ค.)
ติดตามการประชุม BOE วันที่ 3 ส.ค.
ติดตามการรายงานภาวการณ์จ้างงานสหรัฐฯ วันที่ 4 ส.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran
Head of Research
662-009-8050
Padon Vannarat
Strategist
662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol
Strategist
662-009-8062
Nutt Treepoonsuk
Assistant Strategist