WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRINIบล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

Today Selection >> BCPG, GLOBAL, LH

 

Stock S R Comment
BCPG 15.30 15.90 เตรียมบุ๊คกำไรจากโรงไฟฟ้า Geothermal ในอินโดฯ หนุนกำไรโต
GLOBAL 13.50 13.90 อานิสงส์น้ำท่วม ซ่อมบ้าน
LH 9.90 10.20 ขายโรงแรมเข้ากองทุน บันทึกกำไรพิเศษ 2Q60

 

August market outlook
August : มองภาพ SET Index เดือนสิงหาคมแกว่งตัว Sideways ต่อไปในกรอบ 1540 - 1600 จุด เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยผลักดันดัชนีไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน มองปัจจัยที่น่าสนใจประจำเดือนนี้ได้แก่

ปัจจัยประคับประคองดัชนีที่สำคัญได้แก่
1) Fund flow ที่ยังคงมีสัญญาณอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดตราสารหนี้ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิไปกว่า 1 หมื่นล้านบาท และเมื่อวานนี้ยังซื้อสุทธิต่อเนื่องอีกกว่า 16,000 ล้านบาท คาดเป็นแรงหนุนสำคัญต่อค่าเงินบาทในระยะสั้นต่อไป
2) แนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลกที่น่าจะมีต่อไป ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงประเด็นที่นักลงทุนกำลังหมดความเชื่อมั่นในตัวปธน.โดนัลด์ ทรัมป์และสภา Congress สหรัฐฯ หลังจากที่การลงมติร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ยังคงมีความล่าช้า ซึ่งอาจส่งผลให้ร่างกฎหมายเศรษฐกิจอื่นที่มีความสำคัญกว่า เช่น มาตรการปฎิรูปภาษีและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมีความล่าช้าเช่นกัน มองเงินดอลลาร์สหรัฐฯมีโอกาสทรงตัวอ่อนค่าต่อไปในระยะสั้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่


3) ราคาน้ำมันดิบที่ยังคงทรงตัวได้ในระดับสูง หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียประกาศจำกัดการส่งออกน้ำมันของตนเอง รวมไปถึงการเข้าร่วมข้อตกลงลดกำลังการผลิตของประเทศไนจีเรีย หลังจากที่ได้รับการยกเว้นมาก่อนหน้านี้ มองปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงหนุนสำคัญต่อกลุ่มพลังงาน ซึ่งยังคงปรับตัว Outperform SET Index อย่างต่อเนื่อง

สำหรับปัจจัยจำกัด Upside ของดัชนีที่สำคัญได้แก่
1) Valuation ของตลาดหุ้นไทยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง (Forward PE ที่ 15.6 และ 14.1 เท่าสำหรับปี 2017 และ 2018 ตามลำดับ) เนื่องจากภายหลังจากที่หลายบจ.ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/60 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประมาณการ EPS ของดัชนีไม่ได้มีการถูกปรับขึ้นแต่อย่างใด
2) อุปสงค์และสภาพคล่องภายในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ สะท้อนจากเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำมาก และระดับการเติบโตของ M2 ที่ใกล้เคียงจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2008 นอกจากนั้นล่าสุดยังได้รับ Sentiment เชิงลบจากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่หลายจังหวัด ซึ่งอาจส่งผลกดดันต่อรายได้เกษตรกรและการบริโภคในพื้นที่ภูมิภาคได้
3) Noise รบกวนบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือและชาติมหาอำนาจทวีความรุนแรงขึ้น จากประเด็นการทดสอบขีปนาวุธต่างๆ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลทำให้นักลงทุนโยกย้ายเงินลงทุนเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe haven) ได้

  กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET Index ปรับตัว Sideways ต่อไปในกรอบ 1540 - 1600 จุด แนะนำถือหุ้นในกลุ่มแนะนำต่อไป ได้แก่
1) กลุ่มสาธารณูปโภค เลือก BCPG และ WHAUP เป็น Top pick ของกลุ่ม จากแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ ส่วนหุ้นที่มี Dividend Yield ในระดับสูงและคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลคือ GLOW, EGCO, RATCH
2) กลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็น ได้แก่ กลุ่ม Consumer staples (CPALL, BJC) และกลุ่ม Healthcare (BCH, CHG) ที่มีแนวโน้มทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อต่ำ
3) กลุ่มโรงกลั่น เนื่องจากค่าการกลั่นยังคงอยู่ในระดับสูง และมองว่าตลาดรับรู้ประเด็น Inventory loss ของกลุ่มในไตรมาส 2/60 ไปพอสมควรแล้ว เลือก BCP, SPRC, TOP เนื่องจากคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลในช่วงถัดไป

แนวรับ 1,563 แนวต้าน 1,589


Today's Event :
BTS XD 0.175 บาท

นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!