- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 31 July 2017 18:34
- Hits: 2065
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> BCPG, JMT, TPIPP
Stock S R Comment
BCPG 15.30 15.70 เตรียมบุ๊คกำไรจากโรงไฟฟ้า Geothermal ในอินโดฯ หนุนกำไรโต
JMT 28.75 30.00 บุ๊ครายได้หนี้ Standard Chartered หนุนกำไร 2Q60 โตแรง
TPIPP 7.35 7.55 ผ่าน EIA เรียบร้อย พร้อม COD ไตรมาส 4 นี้
Sideways
Factors : ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่
1) ดัชนี PMI ภาคการผลิตของประเทศจีนประจำเดือนกรกฎาคม ซึ่งล่าสุดรายงานออกมาเช้าวันนี้ที่ 51.4 ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 51.5 และย่อตัวจากเดือนก่อนที่ 51.7 โดยการอ่อนตัวเกิดขึ้นในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นหลัก
2) ความบาดหมางระหว่างเกาหลีเหนือและชาติตะวันตก หลังจากการทดสอบขีปนาวุธเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งถูกตอบโต้จากนานาประเทศ และเป็นเหตุผลทำให้ล่าสุด นักลงทุนเริ่มมีการโยกเม็ดเงินเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe haven) อีกครั้ง อาทิ ทองคำ พันธบัตรสหรัฐฯ และค่าเงินเยน
3) ปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ของไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้เกษตรกรและการบริโภคของประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวได้ มองเหตุการณ์ดังกล่าวเป็น Sentiment เชิงลบต่อหุ้นในกลุ่ม Consumer discretionary ซึ่งเป็นกลุ่มที่เราแนะนำ Underweight อยู่แล้ว จาก Theme การลงทุน "Disinflation" ในทางกลับกันปัจจัยดังกล่าวอาจกลายเป็นปัจจัยบวกทางอ้อมสำหรับกลุ่ม Consumer finance อาทิ SAWAD, MTLS ที่อาจได้รับ Demand ต่อสินเชื่อมากขึ้น
4) การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ซึ่งหากยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ มองเป็นปัจจัยสะท้อนความอ่อนแอของอุปสงค์ภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง (ตลาดคาด 0.3%) ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯเตรียมรายงานตัวเลขเงินเฟ้อในวันเดียวกัน ซึ่งหากยังคงใกล้เคียงกับเดือนก่อนที่ 1.4% มองจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดยังคงผ่อนคลายต่อประเด็นการเข้มงวดนโยบายการเงินของ Fed และน่าจะทำให้ทิศทาง Fund flow ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี (ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติ Long สุทธิในตลาด Futures ถึง 25,000 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้กว่า 1 หมื่นล้านบาท)
กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET Index ปรับตัว Sideways ต่อไปในกรอบ 1540 - 1600 จุด โดยถึงแม้จะมีปัจจัยกดดันด้าน Sentiment บ้างจากปัญหาอุทกภัยในประเทศและประเด็นเกาหลีเหนือ แต่น่าจะถูกหักล้างได้บ้างจากทิศทาง Fund flow และราคาน้ำมันดิบที่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี แนะนำถือหุ้นในกลุ่มแนะนำต่อไป ได้แก่
1) กลุ่มสาธารณูปโภค เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความผันผวนต่ำและสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระดับสูง เลือก BCPG และ WHAUP เป็น Top pick ของกลุ่ม จากแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ ส่วนหุ้นที่มี Dividend Yield ในระดับสูงและคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลคือ GLOW, EGCO, RATCH
2) กลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็น ได้แก่ กลุ่ม Consumer staples (CPALL, BJC) และกลุ่ม Healthcare (BCH, CHG) ที่มีแนวโน้มทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อต่ำ
3) กลุ่มโรงกลั่น เนื่องจากค่าการกลั่นยังคงอยู่ในระดับสูง และมองว่าตลาดรับรู้ประเด็น Inventory loss ของกลุ่มในไตรมาส 2/60 ไปพอสมควรแล้ว เลือก BCP, SPRC, TOP เนื่องจากคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลในช่วงถัดไป
แนวรับ 1,575 แนวต้าน 1,588
บทวิเคราะห์วันนี้ :
CONS Sector : รฟท.เผยผลประมูลรถไฟทางคู่ หัวหิน-ประจวบฯ ต่ำกว่าราคากลาง
ADVANC (ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 189 บาท) ผลการดำเนินงานตรงตามคาด กำไร 7,215 ล้านบาท ปันผล 3.51 บาท
PTTEP (ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 96 บาท) ผลการดำเนินงานกำไรสุทธิ 7,536 ล้านบาท
Today's Event :
GLAND ลูกหุ้นเข้า 42,520,424 หุ้น
FOCUS-W2 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (31.6mn sh 1:1 @ Bt. 1.80)
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]