- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 31 July 2017 18:00
- Hits: 2605
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: สัญญาณขายหลังทดสอบ 1580 แนวรับ 1560
SET Index: 1571.65 ปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิค พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1585 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญของเส้นแนวโน้มขาลงในระยะยาว การปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1575 จุดลงไป ทำให้ความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงเพิ่มสูงขึ้น โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1560 จุด และมีแนวต้านถัดไปที่ 1540 จุดเป็นแนวรับสำคัญ
แนวต้าน : 1575 และ 1577
แนวรับ : 1570 และ 1567
ADVANC = 184 / 186, PTT = 384 / 388, SCB = 147 / 148, AOT = 51.00 / 52.00, CPALL = 61.00 / 62.00
Glow Energy (GLOW TB; THB 80.75) -ซื้อ
แนวต้าน : 83.00 และ 84.00
แนวรับ : 80.50 และ 80.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานจากแรงขายทำกำไรที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ GLOW โดยมีแนวรับที่ 80.50 และ 80.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 83.00 และ 84.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 79.00 ลงไป
Esso (Thailand) (ESSO TB; THB 9.90) -ซื้อ
แนวต้าน : 10.20 และ 10.50 / แนวต้านสำคัญ 11.00
แนวรับ : 9.90 และ 9.80
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานจากการฟื้นตัวที่บริเวณจุดต่ำสุดเดิม โดยมีแนวต้านที่ 10.20 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะสิ้นสุดการปรับฐาน
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเข้าใกล้ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัด แนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 50
แนะนำซื้อ ESSO โดยมีแนวรับที่ 9.90 และ 9.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไป ทดสอบแนวต้านที่ 10.20 และ 10.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 9.70 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…sideway รอดูผลประกอบการไตรมาส 2/60
เมื่อวันศุกร์กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผย ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ของการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ปี 2560 อยู่ที่ระดับ 2.6% ซึ่งสูงกว่าที่ขยายตัว 1.2% ในไตรมาสแรก ขณะที่สอดคล้องกับมุมมองของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2 ของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นกว่า 2.5% รายงานระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐที่ขยายตัวเร็วขึ้นในช่วงไตรมาส 2 นั้น ได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภค และการลงทุนของภาคธุรกิจในด้านเครื่องมืออุปกรณ์ โดยการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักและมีสัดส่วนขนาดใหญ่ในเศรษฐกิจสหรัฐ ขยายตัว 2.8% หลังจากที่ขยายตัว 1.9% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนการลงทุนของภาคธุรกิจในเครื่องมืออุปกรณ์เช่น คอมพิวเตอร์ เพิ่มขึ้น 8.2% ด้านการค้ากับต่างประเทศก็มีส่วนช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้ดีดตัวขึ้นเช่นกัน เนื่องจากการส่งออกขยายตัวสูงกว่าการนำเข้าถึงเท่าตัว โดยการส่งออกขยายตัว 4.1% และนำเข้าปรับตัวขึ้น 2.1% ปัจจัยดังกล่าวคาดว่าจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มอิเล็คโทรนิคส์ของไทย (KCE HANA DELTA) เนื่องจากมีการส่งออก (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) ไปยังสหรัฐเป็นส่วนใหญ่
นอกจากนั้นสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI)ตลาดนิวยอร์กยังปิดบวกเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การผลิตน้ำมันก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 49.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบWTI ทะยาน 8.6% โดยสัญญาน้ำมันดิบยังคงได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลง 7.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.6 ล้านบาร์เรล และเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันสัปดาห์ที่ 4 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่ซาอุดิอาระเบียระบุว่าจะลดการส่งออกน้ำมันสู่ระดับ 6.6 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการลดการส่งออกลงเกือบ 1 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับระดับในช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน ไนจีเรียก็จะเข้าร่วมการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน หลังจากที่ได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมัน จากผลดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลบวกกับหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีของไทยอย่าง PTT PTTEP PTTGC TOP IVL IRPC SPRC BCP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร
สำหรับผลการดำเนินงานที่ออกมาในวันพฤหัสที่แล้วอย่าง PTTEP ADVANC และ GLOW ปรากฎว่าออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดทั้งหมดโดยPTTEP รายงานกำไรออกมา 7,535 ล้านบาท (+183% yoy, -39% qoq) ดีกว่าที่ตลาดคาด 1% ส่วน ADVANC ก็รายงานกำไรออกมา 7,215ล้านบาท (-25% yoy, -6% qoq) ดีกว่าที่ตลาดคาด 2% ในขณะที่ GLOW ประกาศผลการดำเนินงานออกมามีกำไรสุทธิ 2,829 ล้านบาท (+2.5%yoy, +96% qoq) ดีกว่าที่ตลาดคาด 11% แต่หากตัดรายการพิเศษออกกำไรจะออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย แม้ว่ากำไรจะออกมาดีกว่าคาดแต่ไม่มากนักดังนั้นเราคาดว่าตลาดจะไม่ตอบสนองเชิงบวกกับผลประกอบการของหุ้นทั้ง 3 บริษัทเท่าไรนัก
อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดจะกลับมาให้ความสนใจกับผลประกอบการของบริษัทที่คาดว่าจะออกมาในสัปดาห์นี้มากกว่าโดย คาดว่า PSL BHJASIF จะประกาศผลการดำเนินงานออกมาในวันที่ 1 ส.ค., IRPC และ VGI ในวันที่ 3 ส.ค. และ PLANB LPN SF และ GPSC ในวันที่ 4 ส.ค.โดยหุ้นที่ตลาดให้ความสนใจว่ากำไรอาจมีโอกาสออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดรวมไปถึงแนวโน้มของผลประกอบการน่าจะมีการฟื้นตัวต่อเนื่องในครึ่งปีหลังได้แก่ IRPC PLANB และ GPSC ซึ่งน่าสนใจที่จะซื้อเก็งกำไรในสัปดาห์นี้ได้
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เราคาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี (PTT PTTEP PTTGC TOP IVL IRPC SPRCและ BCP) จากการที่ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นมาต่อเนื่อง 5 วันทำการติดต่อกันในสัปดาห์ที่แล้วรวมเป็นการปรับขึ้น +8.6% มายืนที่ 49.71 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนและกลุ่มอิเล็คโทรนิคส์ (KCE HANA DELTA) จากการที่สหรัฐฯ ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2/60ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้, ราคาทองแดงเริ่มมีการปรับฐานลงเล็กน้อยในวันศุกร์และค่าเงินบาทเริ่มชะลอการแข็งค่าไว้ที่ระดับ 33.3 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เราให้แนวรับที่ 1575-1578 จุดและแนวต้านที่ 1585-1590 จุด หุ้นแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ประกอบด้วย KCE MAJOR TPIPP และSAT
Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,571.65 จุด ลดลง 9.41 จุด (-0.60%) มูลค่าการซื้อขาย 22,988.06 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลง โดยมีแรงขายจากกลุ่มธนาคารและสื่อสารเป็นหลัก หลังการรายงานผลประกอบการ Q2/60 ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ขณะที่นักลงทุนกังวลสถานการณ์การเมืองต่างประเทศจากเหตุการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย มีโอกาสรีบาวน์บริเวณ 1570 จุด ระยะสั้นมีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคารและสื่อสารออกมาต่อเนื่อง ซึ่งเรามองว่าเป็นแรงขายตามปกติ และมักจะเกิดหลังจากการรายงานผลการดำเนินงานผ่านไป แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือยังมีความไม่แน่นอน ภาพรวม SET Index ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่เข้ามา เรามองเป็นแนวรับหลัก SET อยู่ที่บริเวณ 1567-1570 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1575 จุด ระยะสั้นเน้นเก็งกำไรรายตัวและกลุ่มที่ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงๆ แนะนำ KCE IRPC SAWAD
Technical Pick (PM) ...
Glow Energy (GLOW TB; THB 80.75) - ซื้อ
Esso(Thailand) (ESSO TB; THB 9.90) - ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 - [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 - [email protected]