- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 26 July 2017 17:48
- Hits: 1977
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตัวยืนบวก แกว่งตัวผันผวนสลับขึ้นลงที่อยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยแรงซื้อหลักจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน สื่อสาร และขนส่ง มีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1577.32-1581.35 หรือ 4.03 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนีได้แก่ PTT, ADVANC, PTTGC, PTTEP ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1581.42 เพิ่มขึ้น 4.69 จุด (+0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 46,194 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้แสดงทิศทางที่ดี แกว่งตัวฉีกกรอบการเคลื่อนที่เดิมที่เป็น Sideway แคบ ๆ ระหว่าง 1572-1580 จุด หรือเบรกกรอบสามเหลี่ยม สามารถขึ้นยืนเหนือเส้นแนวโน้มย่อยที่เป็นขาลงกดอยู่ และยืนเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ย พร้อมกับขึ้นทำ High 1581.96 จุด อีกทั้งทำปิดใกล้จุดสูงสุดของวัน มาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลแนวโน้มของดัชนีมีโอกาสไปต่อ มองแนวต้าน 1584-1588 จุด แนวรับ 1575-1578 จุด
แกว่งตัวผันผวน - มีโอกาสไปต่อ ขึ้นทดสอบใกล้ 1590
Support 1570 // 1560 จุด Resistance 1580 // 1590 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
'เดินหน้า เก็งงบ 2Q'
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : ตลาดหุ้นไทย ยังมีแนวโน้มเดินหน้าต่อแบบ sideway up โดยจะมีเรื่องของการเก็งกำไรในผลประกอบการ 2Q เข้ามาเล่นกัน ราคาน้ำมันกลับมาเป็นบวกต่อตลาด และบางส่วนกลับเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ราคาลงมามาก วันนี้ ถ้าผ่าน 1584 ขึ้นไปได้ โอกาสเห็นก็ 1590 จุด ก็มีค่อนข้างมาก ... แม้วันนี้ ตลาดต่างประเทศจะคึกคักน้อยลง เพราะ บางส่วนจะรอดูผลประชุม Fed คืนนี้(26) อีกทั้ง กฎหมายสุขภาพของสหรัฐฯที่ยังไม่ลงตัว
กลยุทธ์การลงทุน : ตลาดสั้นๆ ยังเป็นบวก แต่ความไม่แน่นอนจากผลประชุม FOMC ที่จะออกมาได้ทั้งบวกและลบต่อตลาด การเข้าลงทุนจึงความเน้นหุ้นที่มีความปลอดภัยหรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกสนับสนุนไว้ก่อน ไม่ว่า จะเป็นเรื่องผลประกอบการ 2Q หุ้น Defensive หรือหุ้นที่จ่ายปันผลสูง เพราะใกล้ถึงเทศกาลของการจ่ายเงินปันผลกลางปี … โดยเราแนะนำให้เริ่มขายทำกำไรช่วงสั้น ถ้าดัชนีฯ เกิน 1584 ขึ้นไป เพราะเชื่อว่ารอบนี้ จะยังไม่ผ่าน 1590 จุด
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน: สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ BBL, WICE, MTLS, CK, JWD*, VNT*, SIS
หุ้นแนะนำเชิงเทคนิค : CBG, TFG, APURE
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
(+) Construction Services : ครม. อนุมัติรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ 1 แสนล้านบาท
(-) BA คาด 2Q17 จะขาดทุนหนัก แต่น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี
(+) BCH : คาดกำไรสุทธิ 2Q17 เติบโตดี 3Q17 เตรียมรับรายได้จาก สปส. ก้อนโต
(+) BR : ได้ฐานการตลาดของคู่แข่งและผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่ม
(+) DELTA : รายงานยอดขายและกำไรปกติเพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (25 ก.ค.) ปิดที่ระดับ 1,581.42 จุด เพิ่มขึ้น 4.69 จุด (+0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 46,193.66 ล้านบาท ตลาดปรับตัวขึ้นได้จากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ที่ช่วยพยุงตลาดไว้ คาดมีแรงซื้อเข้าเก็งกำไรของหุ้นที่จะประกาศผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 2
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 21,613.43 จุด พุ่งขึ้น 100.26 จุด หรือ +0.47% จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นสูง และแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ได้แก่ แคทเธอร์พิลลาร์และแมคโดนัลด์ ที่ผลการดำเนินงานออกมาดี ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น +0.4% ปิดที่ 380.77 จุด หลังเยอรมันประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาดี
ราคาน้ำมันดิบเป็นบวกต่อเนื่องตามที่คาดไว้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ +3.3% ปิดที่ 47.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบสามารถปรับตัวขึ้นได้ตามที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นผลมาจากผลการประชุมระหว่าง OPEC และรัสเซียที่มีผลสรุปออกมาที่เป็นบวก ประเทศไนจีเรียซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการยกเว้นการปรับลดการผลิต จะเข้าร่วมการปรับลดกำลังการผลิต
จับตาการประชุม FOMC จะทราบผลเช้าวันพฤหัส (27) ตามเวลาในประเทศไทย ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนส่วนใหญ่จับตามอง ตลาดยังมองโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเป็น 0% แต่คาดเฟดอาจส่งสัญญาณลดขนาดงบดุล .... ด้านตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯวันนี้ออกมาเป็นบวก โดยดัชนีความเชื่อมั่นสหรัฐฯออกมาสูงกว่าคาดในเดือน มิ.ย. .... ตลาดยังคงมีความกังวลในด้านนโยบายของทรัมป์จากมาตรการเฮลท์แคร์ สะท้อนจากมีอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภทอายุ 3 เดือน และ 6 เดือนในวันนี้ที่มีระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2008
การอนุมัติรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นสัญญาณของการกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดที่ ครม. อนุมัติในปีนี้ เรามองประเด็นดังกล่าวส่งผลบวกในเชิง sentiment ต่อกลุ่มรับเหมาฯ และบรรยากาศการลงทุนโดยรวม ...... คาดวันนี้จะมีการประกาศงบการเงินไตรมาส 2 ของหุ้นขนาดใหญ่ คือ SCC (Bloomberg consensus คาด 13,591 ล้านบาท -11% YoY -21% QoQ) แลคาดหุ้น ADVANC และ PTTEP จะประกาศงบการเงินไตรมาส 2 ในวันพรุ่งนี้
Fund Flow Analysis & Sector Rotation
Fund flow………. ปริมาณ Net Position ของนักลงทุนต่างประเทศ สลับบวก/ลบ ด้วยตัวเลขที่ไม่สูง มี net sell 3ตลาด คือ เกาหลีไต้ ไทย และอินโดนีเซีย สำหรับ Flow ในตลาดพันธบัตร เป็น net buy มีเพียงไทยที่ net sell ..... Flow ในตลาดหุ้นไทยมีกระจายไปในหลายๆกลุ่ม เป็นสัญญาณที่ดีของตลาด อาจเป็นดัชนีฯค่อนข้างเบา คือขึ้นง่ายๆ เพราะคนขายกันไปเยอะแล้ว และมีเรื่องให้เก็งในช่วงนี้ คือ กำไร 2Q
วันนี้ ตลาดต่างประเทศจะคึกคักน้อย บางส่วนจะรอดูผลประชุม Fed คืนนี้(26) อีกทั้ง กฎหมายสุขภาพของสหรัฐฯที่ยังไม่ลงตัว และการประมูลพันธบัตรวานนี้ของสหรัฐฯ ที่ yield ค่อนข้างสูง บ่งชี้ถึงความเสี่ยงของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม
แต่ตลาดหุ้นไทย ยังมีแนวโน้มเดินหน้าต่อแบบ sideway up โดยจะมีเรื่องของการเก็งกำไรในผลประกอบการ 2Q เข้ามาเล่นกัน ราคาน้ำมันกลับมาเป็นบวกต่อตลาด และบางส่วนกลับเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ราคาลงมามาก วันนี้ ถ้าผ่าน 1584 ขึ้นไปได้ โอกาสเห็นก็ 1590 จุด ก็มีค่อนข้างมาก ...... แต่เราแนะนำให้เริ่มขายทำกำไรช่วงสั้น ถ้าดัชนีฯ เกิน 1584 ขึ้นไป เพราะเชื่อว่ารอบนี้ จะยังไม่ผ่าน 1590 จุด แต่คงต้องรอดูผลการประชุม FOMC คืนนี้ เพื่อประเมินอีกครั้งหนึ่ง
กลุ่มหลักๆ ของชุดที่จะดันดัชนีฯ หรือกลุ่มที่นักลงทุนจะให้ความสนใจ นอกจากจะเป็น defensive หรือมีปัจจัยบวกเสริม เช่น CPALL , BPP , BCPG นักลงทุนน่าจะให้ความสนใจกับหุ้นโทรศัพท์บางตัว คือ ADVANC จากปัจจัยลบที่สะท้อนมาในตลาดมาก และยังคงความเป็นเบอร์หนึ่งของกลุ่มนี้อยู่ต่อไป
สำหรับหุ้นกลุ่มธนาคาร อาจผิดคาด ที่นักลงทุนให้ความสนใจน้อย ราคาอาจมาช้ากว่ากลุ่มอื่น ที่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้ด้วยเช่นกัน โดยเรายังมองว่ามีโอกาสที่จะ switch เข้ามาเล่น BBL ที่ราคายัง laggard
หุ้นกลุ่มอีเล็คทรอนิกส์ ตัวที่เป็นโรงงานผลิต (KCE, HANA, SVI, SMT) ยังคงถูกกดดันจากเงินบาทที่แข็งค่า เพราะมีผลต่อกำไรไปอีก 1-2 ไตรมาสข้างหน้าเป็นอย่างน้อย และราคาทองแดงที่พุ่งต่อ ($6197 +4.5% จากเดือนก่อน) เรามองว่าหุ้นกลุ่มนี้ คงต้องรอซื้อเมื่อเงินบาทเริ่มนิ่งกว่านี้ ..... กำไร 2Q ของ DELTA 843 ลบ. -36% YoY และ -37% QoQ ตามที่เราคาด จากการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายทางภาษีที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว ....... หุ้นกลุ่มส่งออกที่น่าลงทุนในเวลานี้เพื่อรับกับตัวเลขส่งออกของไทยที่ออกมาดี อาจขยับไปเป็นกลุ่มที่ support industry อาทิ WICE JWD และ HTECH
หุ้นกลุ่มน้ำมัน-ปิโตรเคมี จากที่ ซาอุฯประกาศจะลดการส่งออกน้ำมัน เดือน ส.ค. และแผนระยะยาวกลุ่ม OPEC และ Non OPEC อาจยืนเวลาการลดกำลังการผลิตออกไปอีก จากเดิมสิ้นสุด มี.ค.61 เรามองเป็นบวกสั้นๆต่อ PTTEP และขณะที่ราคาปิโตรเคมีต้นน้ำที่สูงขึ้น เป็นบวกต่อ PTTGC , IVL ,SPRC และ ESSO
สำหรับกลุ่มการเงิน ธปท.จะประกาศกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับธุรกิจบัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคล ถ้าเป็นไปตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ก็จะไม่มีผลอะไรอีก หุ้นที่เกี่ยวข้อง KTC(-) , MTLS(+), SAWAD(+)
หุ้นจ่ายปันผลในอัตราสูง เราคาดว่า นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนในหุ้นที่ประกาศจ่ายเงินปันผลกลางปี จะเป็น LH และ KKP ที่ Bloomberg survey ระบุ Dividend Yield เกิน 6% อัตราการจ่ายเงินปันผลคาดปีนี้ @0.66 และ @5.0 บาท ตามลำดับ... โดยทั้งสองตัว ปกติมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (มากกว่า 1 ครั้งต่อปี)
หุ้นเก็งผลประกอบการ 2Q จาก Bloomberg Survey ที่กำไรขยายตัวดี อาทิ BDMS (2,451 ลบ. ; +46% YoY ; +24% QoQ) ….. WICE (28 ลบ. ; 77% YoY ; +16% QoQ) และ CHG (148 ลบ. ; +28% YoY ; +3% QoQ)
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
BBL(ราคาปิด 180) เรามองว่า หุ้นกลุ่มธนาคารจะล้อไปตามภาวะเศรษฐกิจ และบวกจากดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขยับขึ้นในช่วงปลายปีนี้ กำไรปีนี้เราคาดโตตามเป้า 3.48 หมื่นลบ. +9.6% และลูกค้าเป็น Corporate มาก ความเสี่ยงเรื่องหนี้จะไม่สูงมาก บริษัทรายงานกำไรสุทธิช่วง 2Q17 ที่ 8,047 ล้านบาท (+12.2%YoY -3.1%QoQ) ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 8,168 ล้านบาท …. (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 203 บาท)
WICE(ราคาดปิด 4.50) เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เป็น support Industry ของผู้ส่งออก ..... WICE มีสัดส่วนรายได้ไปยังจีน ถึง 25% ที่น่าจะได้ประโยชน์จาก GDP ของจีนที่ยังขยายตัวดี (2Q=6.9%) …… WICE เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้ประโยชน์จาก EEC โดยตรง เนื่องจากฐานลูกค้าและ warehouse อยู่ในนิคมแหลมฉบัง WICE ได้รับผลประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตของหลายๆบริษัทในประเทศจีนมาตั้งโรงงานที่ไทย........... ในอนาคตยังมีแผนที่จะไป M&A กับบริษัทอื่นๆ ใน Asia เพื่อขยายฐานลูกค้า และเส้นทางขนส่ง ….. (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 5.30 บาท)
MTLS(ราคาปิด 35.50) การออกกฎเกณฑ์ด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลใหม่ของ ธปท. เป็นบวกต่อธุรกิจของ MTLS มากกว่า เพราะลูกค้าที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ อาจหันมาพึ่งการกู้จากผู้ให้บริการปล่อยเงินกู้รายย่อยมากขึ้น .… คาดกำไรปี 2017 ที่ 2,340 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง +59.8% YoY ….. (ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 40.00 บาท)
CK(ราคาปิด 28.25) มองการอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงมูลค่า 1 แสนล้านบาท CK ได้รับผลบวกในเชิง sentiment มากที่สุด เนื่องจาก CK มีบริษัทลูกอย่าง BEM ซึ่งดำเนินการควบคุมระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วงเดิม อีกทั้ง CK ยังมีความพร้อมในการเข้าประมูลโครงการดังกล่าวสูง .… คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 1,783 ล้านบาท (-10.9% YoY) แต่หากไม่นับกำไรพิเศษจากการขายหน่วยลงทุนในปี 2016 กำไรจากการดำเนินงานปกติจะเติบโต +3.0% YoY ….. (ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 36.00 บาท)
JWD*(ราคาปิด 9.55) มองการขยายตัวของกลุ่มยานยนต์จะเป็นบวกต่อ JWD คาดผลการดำเนินในครึ่งปีหลัง (2H/2560) จะปรับตัวดีขึ้นค่อนข้างมากจากครึ่งปีแรก (1H/2560) จากการขยายตัวของทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นและรถยนต์ .... คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 33% จาก 30% ในปี 2016 เนื่องจากทุกๆธุรกิจของ JWD ผ่านจุดคุ้มทุนมาแล้ว .... (ราคาที่เหมาะสม โดย Bloomberg Consensus ที่ 10.50 บาท)
VNT*(ราคาปิด 21.80) เป็นหุ้นที่ผลการดำเนินงานออกมาดีติดต่อกันถึงสองไตรมาสที่ผ่านมา กำไรอยู่ที่ 800 และ 770 ล้านบาท ใน 4Q-16 และ 1Q-17 ตามลำดับ ..... เหตุผลหลักๆ มาจาก spread ของ PVC ที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเดือน มิ.ย. ที่กลับมาเกิน $1000 เหรียญ อีกครั้งหลัง peak ไปใน 4Q-16 ที่ $1150 เหรียญ/ตัน
SIS(ราคาปิด 7.50) SIS เป็น 1 ใน 3 บริษัท IT Distribution ขนาดใหญ่ของประเทศไทย โดยมี Market Share ที่ 25% เราคาดกำไรสุทธิปี 2017 ของบริษัทจะเติบโต +30% YoY มาอยู่ที่ 295 ล้านบาท จากการขายสินค้าที่มีอัตรามาร์จินที่สูงและบริษัทลูก "วิโกโมบาย" ผ่านจุดขาดทุนไปแล้ว ส่งผลให้คาดอัตรากำไรสุทธิปรับตัวสูงขึ้นจาก 1.2% เป็น 1.6% ในระยะยาวคาดบริษัทจะเติบโตได้จากธุรกิจ Cloud Service นอกจากนี้ เรายังคาดอัตราปันผลปี 2017 ที่สูงถึง 7.0% และ SIS ยังซื้อขายบนอัตรา Forward P/E ปี 2017 ที่ต่ำเพียง 8.9 เท่า เทียบกับ SYNEX ที่ซื่อขายบนอัตรา Forward P/E ปี 2017 (Bloomberg Consensus) ที่ประมาณ 25 เท่า ........ (KTBST แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเหมาะสม 8.60 บาท)
Source: KTBST Research
ประเด็นสำคัญ : ข่าวและหุ้น
เศรษฐกิจสหรัฐ - ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 โดยพุ่งขึ้นสู่ระดับ 121.5 ในเดือนมิ.ย. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 116.5 หลังจากแตะระดับ 117 ในเดือนพ.ค.
เศรษฐกิจอังกฤษ - สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) เปิดเผยว่า ผลสำรวจพบว่าคำสั่งซื้อภาคการผลิตร่วงลงสู่ระดับ 10 ในเดือนก.ค. หลังจากแตะระดับ 16 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1988
เศรษฐกิจไทย - นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ผลการใช้จ่ายงบประมาณปี 2560 กระทรวงอุตสาหกรรมได้รับงบประมาณ 5,661 ล้านบาท หน่วยงานในสังกัด 7 กรม มีผลการเบิกจ่ายแล้ว 3,831 ล้านบาท คงเหลือ 1,830 ล้านบาท การเบิกจ่ายคิดเป็นร้อยละ 68 สำหรับภาพรวมผลการเบิกจ่าย จัดอยู่ในอันดับที่ 18 จาก 24 หน่วยงานที่เป็นหน่วยงานระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ซึ่งจะเร่งรัดการเบิกจ่ายและการทำงานของทุกหน่วยงานในสังกัด เพื่อช่วยผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจ
คมนาคม - นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้) ระยะทาง 23.6 กม. กรอบวงเงินลงทุนโครงการ 1.01 แสนล้านบาท ประกอบด้วย ค่างานที่เกี่ยวข้องกับการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน วงเงิน 15,945 ล้านบาท, ค่างานก่อสร้างงานโยธา วงเงิน 77,385 ล้านบาท, ค่าสิ่งก่อสร้างทดแทนหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฯ วงเงิน 1,335 ล้านบาท, ค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างงาน วงเงิน 2,865 ล้านบาท และค่า Provisional Sum ของงานโยธา วงเงิน 3,582 ล้านบาท โดยแต่ละรายการจะแบ่งเป็นหลายสัญญาตามความเหมาะสมทางเทคนิค โดยให้ รฟม.ดำเนินการประกวดราคางานก่อสร้างงานโยธาได้ แต่จะลงนามสัญญาจ้างผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาได้เมื่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้รับทราบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว
การบิน - นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติขยายกรอบวงเงินลงทุนเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารเรียน ศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านการบิน อาคารฝ่ายอำนวยการและสิ่งก่อสร้างประกอบ พร้อมครุภัณฑ์ของสถาบันการบินพลเรือน วงเงิน 1,402.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ ครม.ได้เคยมีมติอนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.59 วงเงิน 1,255.48 ล้านบาท
สนามบินอู่ตะเภา - นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 760.77 ล้านบาท ให้กองทัพเรือเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและท่าเรือพาณิชย์สัตหีบจำนวน 690.77 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเขตส่งเสริมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) จำนวน 70 ล้านบาท เพื่อรองรับโครงการสำคัญภายใต้แผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ปี 2560-2564
SCC - วันนี้ SCC ประกาศงบไตรมาส 2/60 โบรกฯคาดมีกำไรสุทธิ 14,444 ล้านบาท หนุนครึ่งปีแรกโชว์กำไรสุทธิพุ่ง 31,000 ล้านบาท พร้อมลุ้นจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 10.50 บาท ดิวิเดนด์ยีลด์ 2% เชียร์ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 620 บาท(ข่าวหุ้น)
FSMART - ส่งซิกงบไตรมาส 2/60 โตนิวไฮ รับอานิสงส์ครึ่งปีแรกขยายตู้บุญเติมพุ่ง 110,000 ตู้ทั่วประเทศ และมียอดเติมเงินสูง 16,000 ล้านบาท คิดเป็น 50% ของเป้าทั้งปี มั่นใจสิ้นปีนี้ขยายตู้บุญเติมได้ครบตามแผน 122,000 ตู้(ข่าวหุ้น)
GUNKUL - ยืนยันพื้นฐานแน่น ฐานะการเงินแกร่ง ลั่นไม่มีปัญหาคืนหนี้ตั๋วบี/อี ย้ำในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าไม่มีแผนเพิ่มทุน โชว์ PPA ในมือกว่า 489 MW แจ้ง COD แล้ว 178 MW หนุนผลงานโตต่อเนื่อง มึน! หุ้นร่วงสวนทางธุรกิจ มองเป็นโอกาสสะสมเข้าพอร์ต(ข่าวหุ้น)
HMPRO - โชว์ไตรมาส 2/60 โกยกำไรสุทธิ 1,131 ล้านบาท พุ่ง 14.19% ดันงวดครึ่งปีแรก ฟันกำไรสุทธิ 2,177 ล้านบาท โต 17.26% อวดเพิ่มสาขาในไทย 2 สาขา และมาเลเซีย 1 สาขา ฟากโบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 11.40 บาท(ข่าวหุ้น)
ALLA - ราศีจับ!! โครงการเรียงคิวบุ๊กเพียบ หนุน Q3/2560 ฟอร์มเด่นพร้อมปักธงปี 2560 รายได้ทะยาน 10% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว แถมซุ่มเจรจาพาร์ตเนอร์อินโด ปูทางโกยเงินระยะยาว ฟากโบรกเกอร์ แนะ "ซื้อ" เคาะเป้าหมาย 3.00 บาท(ข่าวหุ้น)
RJH - แย้มผลประกอบการไตรมาส 2/2560 เติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน หลังผู้ป่วยเพิ่ม ปรับแผนยุทธศาสตร์ มั่นใจทั้งปีโกยรายได้ตามเป้าไม่ต่ำกว่า 10% เดินตามแผนดันสัดส่วนลูกค้าเงินสด เชื่อปี 2563 แตะ 60% จาก ปัจจุบันกว่า 55% พร้อมขยายฐานลูกค้าญี่ปุ่น ด้านแผนสร้างอาคาร 9 ชั้น อยู่ระหว่างขอ EIA เผยกองทุนในประเทศให้ความสนใจธุรกิจจำนวนมาก(ทันหุ้น)
TKS - เป๋าตุง! รับเข้าช่วยไฮซีซันหนุนครึ่งหลังปี 2560 ฟอร์มแจ่ม พร้อมการันตีปีนี้รายได้ทะยาน 8% จากปีก่อน แถมยิ้มรับงานพิมพ์แสตมป์เซเว่นล็อตใหม่ หนุนรายรับพุ่ง โบรกเกอร์ แนะนำทยอยซื้อ(ทันหุ้น)
Analyst : Mongkol Puangpetra
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
+662 648 1127
[email protected]