- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Saturday, 22 July 2017 04:22
- Hits: 8482
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1560 แนวต้านสำคัญ 1580-1585
SET Index: 1577.27 เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่ำกว่าระดับ 1580 จุดต่อเนื่อง แต่มูลค่าการซื้อขายยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องซึ่งเราคาดว่า โครงสร้างในระยะยาวยังคงเคลื่อนไหวภายใต้อิทธิพลของแนวโน้มขาลงในระยะยาว และมีแนวรับที่ 1570 จุดเป็นจุดสังเกต ถ้าหลุดจะมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1560 และ 1540 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น
แนวต้าน : 1578 และ 1580
แนวรับ : 1575 และ 1574
BBL = 180 / 182, BANPU = 16.40 / 16.70, AOT = 50.50 / 51.00, KBANK = 196 / 198, SCB = 151 / 152
TMB Bank (TMB TB; THB 2.38) -ซื้อ
แนวต้าน : 2.50 และ 2.60
แนวรับ : 2.38 และ 2.34
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TMB โดยมีแนวรับที่ 2.38 และ 2.34 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.50 และ 2.60 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.24 ลงไป
Esso (Thailand) (ESSO TB; THB 9.90) -ซื้อ
แนวต้าน : 10.30 และ 10.50 / แนวต้านสำคัญ 10.70
แนวรับ : 9.90 และ 9.80
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 50
แนะนำซื้อ ESSO โดยมีแนวรับที่ 9.90 และ 9.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 10.30 และ 10.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 9.60 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…งบแบงก์ใหญ่ออกมาแย่กว่าคาด ส่งผลต่อราคาหุ้นช่วงสั้น
หลังงบ Q2/17 ของหุ้นธนาคารใหญ่ 2 บริษัทคือ KTB และ KBANK ออกมาต่ำกว่าคาด (Mean) ที่ประมาณ 56.3% และ 9.5% แต่ดูเหมือนราคาหุ้นจะตอบสนองในเชิงลบไม่มาก โดยในส่วนของ KTB มาจากการตั้งสำรองหนี้ของ EARTH เหตุที่ราคาหุ้นตอบสนองในเชิงลบไม่มาก ก็มาจาก 1. ราคาหุ้นปรับตัวลงก่อนประกาศงบ อย่าง KBANK ลงจากสูงสุดที่ 207 บาทและ KTB ที่ 19.1 บาท 2. ดูจากสถิติในอดีต เมื่องบออกมาแย่กว่าคาด หลังจากนั้น 7 วัน ส่วนใหญ่ราคาหุ้นมักจะไม่ลง หากลงจะลงไม่มาก
รูปด้านซ้าย คือสถิติงบรายไตรมาสของหุ้น KTB ในรอบ 8 ไตรมาส โดยช่องแรกจะบอก % ของงบรายไตรมาสที่ออกมามากกว่าคาดหรือต่ำกว่าคาด ส่วนช่องสุดท้ายจะบอกปฎิกริยาการตอบสนองของราคาหุ้นหลังการประกาศงบรายไตรมาสในรอบ 7 วัน จะพบว่าเมื่อไรที่ตามที่งบออกมาแย่กว่าคาดมากๆ ราคาหุ้นในรอบ 7 วันมักจะลงไม่มากแต่มักจะขึ้น แต่หากออกมาใกล้เคียงกับคาดหรือมากกว่าน้อยกว่าเล็กน้อย ราคาหุ้นมักจะปรับตัวลง อย่าง Q3/15 งบออกมาแย่กว่าคาด -9.6% แต่ราคาหุ้นลงไปแค่ -3.4% หรือใน Q4/16 งบออกมาแย่กว่าคาด -13.2% แต่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 3.2% หลังงบออก 7 วัน ส่วนรูปด้านขวา เป็นของ KBANK พบว่าเมื่องบรายไตรมาสออกมาแย่กว่าคาดมากๆ ราคาหุ้นใน 7 วันต่อมามักจะดีดตัวขึ้น เช่นใน Q2/16 งบออกมาแย่กว่าคาด -7.5% แต่ราคาหุ้นหลังการประกาศงบ 7 วัน ปรับตัวขึ้นถึง 8.5% หรือใน Q1/17 งบออกมาแย่กว่าคาด -4.7% แต่ราคาหุ้นลงเพียง -0.5% เท่านั้น
ส่วนงบตัวอื่นๆ อย่าง SCB BBL ปรากฏว่าออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย โดย SCB ต่ำกว่าคาด -1.2% ขณะที่ BBL -0.5% นอกจากนั้นยังต้องติดตามรายละเอียดของงบที่ออกมาแล้วทั้งตัวเลขการขยายตัวของสินเชื่อ การตั้งสำรอง ตัวเลขการเกิด NPL ของรายธนาคารและของกลุ่ม โดยความชัดเจนดังกล่าวน่าจะเกิดในสัปดาห์หน้า เรามองว่าในสัปดาห์หน้าแรงซื้อและขายหุ้นกลุ่มธนาคารใหญ่ น่าจะมากขึ้น หลังพิจารณารายละเอียดของงบเสร็จ กลยุทธ์การเล่นในกลุ่มนี้ เรามองว่าหากหุ้นใหญ่ลงมามากๆ น่าจะเป็นจังหวะที่ดีในการซื้อเล่นเก็งกำไร
ในสัปดาห์หน้า หุ้นในกลุ่มพลังงานใหญ่ ปิโตรเคมี และสื่อสารใหญ่ จะเริ่มทยอยประกาศ จึงมองว่าในอาทิตย์หน้าทิศทางดัชนี SET จะปรับตัวขึ้น แม้หุ้นใหญ่กลุ่มธนาคารงบจะออกมาไม่ดีก็ตาม ซึ่งในส่วนของ KTB มาจากการตั้งสำรองหนี้ของ EARTH ที่ส่วนใหญ่ตลาดคาดไว้แล้ว โดยสภาพรวมๆ งบแบงก์ใน Q2/17 เทียบ Q1/17 ยังประคับประคองตัวหรือลดลงเล็กน้อย ส่วนตัวเลข NPL รวมยังเพิ่มขึ้นแต่เพิ่มในสัดส่วนที่ลดลง
ภาพตลาดวันนี้ ยังมีปัจจัยหนุนต่อเนื่องจากการขยายตัวของการส่งออกเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันและมากกว่าคาด ดัชนีในต่างประเทศ ราคาน้ำมันและผลการประชุม ECB ที่ยังไม่ส่งสัญญาณการลด QE จนกว่าจะถึงปลายปี นอกจากนั้นแรงกดจากหุ้นธนาคารใหญ่คาดจะลดลง สลับมีแรงซื้อคืนในหุ้นที่ผลการดำเนินงานออกมาดีอย่าง BBL วันนี้มองแนวต้านที่ 1580-1584 จุดและแนวรับที่ 1572-1568 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้น IVL BBL AOT และ TPIPP
Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,577.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.99 จุด (+0.13%) มูลค่าการซื้อขาย20,982.61 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งบวกในกรอบแคบ โดยมีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มพลังงานโดยเฉพาะโรงกลั่น ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ มาหนุน ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่แกว่งลบ ติดตามการประชุมโอเปก (24 ก.ค.) และการายงานผลประกอบการของบจ.ในสัปดาห์หน้า
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งแคบ มอง SET ยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1574 -1580 จุดตลาดยังรอปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามาหนุน ภาพรวมยังเป็นการซื้อเก็งกำไรกลุ่มที่ผลประกอบการ Q2/60 จะออกมาดี มองกลุ่มโรงกลั่น IRPC SPRC TOP
Technical Pick (PM) ...
TMB Bank (TMB TB; THB 2.38) – ซื้อ
Esso (Thailand) (ESSO TB; THB 9.90) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]