- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 20 July 2017 16:09
- Hits: 16574
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (20/07/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'แกว่งในกรอบ...เก็งกำไรประกาศงบช่วง 2Q60'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งแคบต่อเนื่องด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบาง หลังชะลอติดตามปัจจัยต่างประเทศได้แก่ ผลประชุม BOJ และ ECB โดยการลงทุนวานนี้ยังคงเน้นไปที่กลุ่มพลังงานหลังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นและสื่อสารจากการเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัว ขณะที่กลุ่มธนาคารเริ่มเข้าสู่โค้งสุดท้ายการประกาศงบช่วง 2Q60 (สิ้นสุด 21 ก.ค. 60) ขณะที่สัปดาห์หน้าติดตามการประกาศงบกลุ่ม Real Sector ทั้งนี้สิ้นวัน SET Index ปิดตลาดที่1,575.85 จุด (+0.28%DoD) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 36,282.82 ลบ.
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้น DJIA +66.02 จุด (+0.31%) ได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของธนาคารมอแกน สแตนลีย์ที่มีกำไรสุทธิสูงกว่าคาด รวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 8.3%MoM
(+)ราคาน้ำมันดิบ WTI +1.6% มาอยุ่ที่ 47.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ลดลง 4.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันและมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล แต่ในรายงานฉบับเดียวกันบอกว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 32,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับสูงกว่า 9.4 ล้านบาร์เรล/วัน
(+) BDI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 7 อีก 1.72% มาอยู่ที่ 948 จุด
(+) ราคาน้ำตาลดิบเบอร์ 11 +3.3%DoD มาอยู่ที่ 14.58 Cents/Pound
(+) หุ้นยุโรป DAX +0.17% CAC40 +0.83% และ FTSE100 +0.55%
(+) ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ JP ยอดส่งออกเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 9.7%YoY ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 9.5%YoY ตัวเลขนำเข้าเพิ่มขึ้น 15.5%YoY (คาด +14.6%)
(-) ราคาทองคำตลาด COMEX +0.01% มาอยู่ที่ 1,242 ดอลลาร์/ออนซ์
(-) ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือน พ.ค. อยู่ที่ 85.5 จุดลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
(-) ตัวเลขการผลิตรถยนต์เดือนมิ.ย.ลดลง 2%YoY และทางสภาอุตสาหกรรมมีแนวโน้มปรับเป้าการผลิตลงจากเดิมที่คาดไว้ที่ 2 ล้านคัน (รายละเอียดติดตามได้ในบทวิเคราะห์รายอุตสาหกรรม)
(-) KTB รายงานผลประกอบการ 2Q60 มีกำไรสุทธิ 3,222 ล้านบาทลดลง 62%QoQ และ 63%YoY (ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ที่ 7,866 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญในลูกค้ากลุ่มเกษตรและเหมืองแร่ โดยมีการตั้งสำรองรวมเข้ามากว่า 13,878 ล้านบาท)
(-) KBANK รายงานผลประกอบการ 2Q60 มีกำไรสุทธิ 8,986 ล้านบาทลดลง 12%QoQ และ 5%YoY (ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ที่ 9,528 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้น 16%QoQ)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประกาศผลประกอบการงวด 2Q60 ของกลุ่มธนาคาร / ICT
การประชุมธนาคารกลางของ ECB (20 ก.ค.) BOJ (19-20 ก.ค.)
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญประจำสัปดาห์: US ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ (20 ก.ค.) EU ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค.(20 ก.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน “หนีกลุ่มแบงก์ใหญ่”
เราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยมีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่หลัง KTB กับ KBANK รายงานผลประกอบการออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ แต่ด้วยราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องคาดว่าจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานได้ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนวันนี้เราจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงหุ้นธนาคารขนาดใหญ่และเลือกเก็งกำไรในกลุ่มที่คาดว่าจะรายงานผลประกอบการเติบโตใน 2Q60 หรือหุ้นที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัวอย่างกลุ่มพลังงานหรือกลุ่มท่องเที่ยวที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์หลังจำนวนนักท่องเทียวเดือนมิ.ย.ขยายตัว 11%YoY โดยมองแนวรับแนวต้านที่ 1565-1585
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
CK เก็งกำไร
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากว่า 8% จากจุดสูงสุดในช่วงเดือนมิ.ย. (มากกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ลดลงไป 5% เป็นตัวเก็งที่จะชนะงานประมูลรถไฟทางคู่เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขัน (วงเงิน 7,340 ล้านบาท) ที่จะประมูลในสัปดาห์หน้า (27 ก.ค.)
ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 33.45 บาท 2.5xPBV
AH เก็งกำไร
ได้รับผลดีจากการตลาดในประเทศที่มียอดขายเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 6%YoY
เตรียมรับรู้ผลดีจากการเข้าลงทุนใน SGAH ในช่วง 3Q60 เป็นต้นไป
ประเมินราคาเป้าหมายอยู่ที่ 30.50 บาท อิง 12xPER
ทีมวิเคราะห์