WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CSGบล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'เคลื่อนไหวกรอบแคบคล้ายตลาดหุ้นภูมิภาค'
  ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้เคลื่อนไหวคล้ายๆตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ ไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนยังคงรอผลการประชุม BOJ และ ECB ส่วนปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามงบกลุ่มธนาคาร โดยธนาคารขนาดใหญ่จะประกาศวันที่ 20 ก.ค. โดยกลุ่มที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดคือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ -1.4%DoD ทำให้ SET Index ปิดตลาดที่ 1,571.52 จุด (-0.2%DoD) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38,185.56 ลบ.


ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
  (+)ราคาน้ำมันดิบ WTI +0.8% มาอยุ่ที่ 46.40 ดอลลาร์/บาร์เรล มีแรงหนุนเข้ามาจากข่าวที่ทางซาอุฯกำลังพิจารณาลดการส่งออกน้ำมันอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน หลังจากเตรียมลดการส่งออกน้ำมัน 600,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค. นี้ ซึ่งจะทำให้การส่งออกน้ำมันในเดือนดังกล่าวต่ำสุดในรอบปีที่ระดับ 6.6 ล้านบาร์เรล/วัน
  (+) BDI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 6 อีก 2.19% มาอยู่ที่ 932 จุด
  (+) สนข.เตรียมฟังความเห็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) ในวันที่ 26 ก.ค. นี้ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหารถติดถนนวิภาวดีฯ-เกษตรนวมินทร์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือน พ.ย.นี้ (เป็นบวกกับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง)
  (-) ตลาดหุ้น DJIA -54.99 จุด (-0.25%) ตลาดปรับตัวลดลงแม้ว่าผลประกอบการของกลุ่มธนาคารอย่างโกลด์แมน แซคส์ และ แบงก์ ออฟ อเมริกาจะออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ รวมถึงความไม่แน่นอนของกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ที่ถูกเลื่อนการลงมติจากทางวุฒิสภาที่ทำให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มประกันสุขภาพออกมา
  (-) ราคาทองคำตลาด COMEX +0.7% มาอยู่ที่ 1,241.90 ดอลลาร์/ออนซ์
  (-) ราคาน้ำตาลดิบเบอร์ 11 -0.07%DoD มาอยู่ที่ 14.11 Cents/Pound
  (-) หุ้นยุโรป DAX -1.25% CAC40 -1.09% และ FTSE100 -0.19%
  (+/-) ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ US ราคาสินค้านำเข้าเดือนมิ.ย. ลดลง 0.2%MoM แต่เพิ่มขึ้น 1.5%YoY ส่วนราคาสินค้าส่งออกลดลง 0.2%MoM แต่เพิ่มขึ้น 0.6% ด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนก.ค. อยู่ที่ 64 จุด ลดลง 2 จุดจากเดือน มิ.ย.
  (+/-) ครม.อนุมัติเกณฑ์ตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจใหม่โดยพิจารณาจากความรู้ที่จำเป็นเหมาะสมกับรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง และห้ามแต่งตั้งสนช. ข้าราชการการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจเพิ่มเติม
  (+/-) หุ้น IPO BGRIM ประกอบธุรกิจถือหุ้นในบริษัทผลิตไฟฟ้ามีกำลังการผลิต 920 เมกะวัตต์ ทุนจดทะเบียน 2541.8 ล้านหุ้น (หุ้นเดิม 1890 ล้านหุ้นและหุ้นเพิ่มทุน 651.8 ล้านหุ้น) ราคา IPO 16 บาท/หุ้น


ปัจจัยที่ต้องติดตาม
  การประกาศผลประกอบการงวด 2Q60 ของกลุ่มธนาคาร / ICT
  การประชุมธนาคารกลางของ ECB (20 ก.ค.) BOJ (19-20 ก.ค.)
  ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญประจำสัปดาห์: US ตัวเลขการอนุมัติให้ก่อสร้างเดือนมิ.ย. สต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของ EIA (19
ก.ค.) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ (20 ก.ค.) EU ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค.(20 ก.ค.)


กลยุทธ์การลงทุน 'เก็งกำไรรายตัว'
  เราคาดว่า SET Index จะปรับตัวลดลง เราประเมินว่าระยะสั้นไม่น่าจะมีการกระตุ้นเพิ่มเติมจากธนาคารกลาง ECB BOJ และรัฐบาลจีน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเริ่มชะลอตัวจากความกังวลต่ออุปทานในสหรัฐ และความไม่มั่นใจต่อเสถียรภาพของการดำเนินนโยบายของทรัมป์ หลังทรัมป์แคร์ ถูกเลื่อนการลงมติ เรามองตลาดยังมีปัจจัยใหม่ๆจำกัด เน้นเก็งกำไรสั้นในกลุ่มที่คาดว่าจะรายงานผลประกอบการเติบโตใน 2H60 หรือกลุ่มโรงไฟฟ้าได้โมเมนตัมบวกจากการเข้าตลาดของ BGRIM มองแนวรับสำคัญที่ 1565 มองแนวต้านที่ 1574


หุ้นเด่นประเด็นร้อน
TCAP เก็งกำไร
  กำไรสุทธิ 2Q17 เพิ่มขึ้น 14% YoY และ 5% QoQ ตามที่เราคาดไว้
  สินเชื่อพลิกกลับมาเติบโตได้ 0.9% YTD จากสินเชื่อเช่าซื้อ ขณะที่ NPL ยังเป็นแนวโน้มขาลง
  ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสมที่ 53 บาท อิง 1.02xPBV


TMB เก็งกำไร
  ผลจากการเป็นช่องทางการขายประกันให้ FWD ทำให้ TMB มีรายได้เข้ามาเพิ่มปีละ 1.3 พันล้านบาทตลอด 15 ปี เริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 60
  เราปรับกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในปี 60-61 ที่ 3-11%
  ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 2.64 บาท อิง 1.28xPBV

ทีมวิเคราะห์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!