- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 19 July 2017 15:40
- Hits: 7421
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Smart Pick
1. สะสม WHAUP : ราคาปิด 6.10 บาท ราคาเหมาะสม 6.90 บาท
a) Yuanta คาดว่าหุ้น WHAUP จะได้ Momentum เชิงบวกจากการเข้าซื้อขายของหุ้น BGRIM ในวันนี้ เนื่องจาก WHAUP มี Valuation ที่ถูกกว่ามาก ที่ระดับ PER2560 เพียง 13.7 เท่า เทียบกับ BGRIM ที่ 18.6 เท่า และ PER2561 ที่ 10.6 เท่า เทียบกับ BGRIM ที่ 14.5 เท่า
b) ทิศทางกำไรสุทธิ 2Q60 เติบโตเด่น +74.8% YoY เป็น 476 ล้านบาท จากการกลับมาเดินเครื่องเต็มผลิตไฟฟ้าเต็มไตรมาสของ Gheco One เทียบกับ 1Q60 ที่มีการปิดซ่อมบำรุง 1 เดือน รวมทั้งแรงหนุนของโรงไฟฟ้าใหม่อีก 32.5MW ที่เริ่มจ่ายไฟตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโตสูงถึง +47.4% YoY เป็น 1,706 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าใหม่ 4 แห่ง รวม 125MW และรับรู้เต็มที่ในปี 2561 หนุนกำไรให้ขยายตัวต่ออีก +29.2% YoY เป็น 2,204 ล้านบาท
2. สะสม PSH : ราคาปิด 22.70 บาท ราคาเหมาะสม 28.00 บาท
a) Yuanta ประเมินว่า PSH เป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนเพื่อคาดหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูง แทนที่ SPALI ที่ประกาศงดจ่ายเงินปันผลปี 2560
b) คาดกำไรปกติ 2Q60 เติบโต +109% QoQ เป็น 1.4 พันล้านบาท จากการโอนคอนโด 3 โครงการ ได้แก่ The Tree Rio บางอ้อ, Chapter One Midtown ลาดพร้าว และ Plum Condo แจ้งวัฒนะ เฟส 1
c) Valuation ยังถูก ที่ระดับ PER2560 เพียง 7.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ 9.0 เท่า และค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 9.5 เท่า และให้เงินปันผลสูงถึงปีละ 6.5% โดยคาดการณ์เงินปันผล 1H60 หุ้นละ 0.48 บาท คิดเป็น Dividend Yield 2.1% และทั้งปี 2560 หุ้นละ 1.47 บาท
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลงราว 2.57 จุด ปิดที่ 1571.52 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 3.8 หมื่นล้านบาท โดยหลักโดนกดดันจากแรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคาร (-1.41%) อาทิ TMB(-2.56%), SCB(-2.22%), KTB(-1.6%) และ BBL(-1.33%) ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิราว 2.3 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิราว 5.3 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 1.5 พันสัญญา เช่นเดียวกันกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิราว 2.8 พันสัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
Moody คาดการเจรจา Brexit ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้
สว. Republican 2 ราย ปฎิเสธที่จะสนับสนุนร่าง American Healthcare
Goldman Sachs รายงานผลประกอบการ 2Q60 ดีกว่าตลาดคาดราว 14.2% แต่รายได้จากการซื้อขายตราสารหนี้ลดลงราว 40%
อังกฤษรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ขยายตัวที่ 2.6% แย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.9% YoY
EU รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ขยายตัวที่ 1.3%YoY ตามตลาดคาด
หุ้น IPO BGRIM เข้าซื้อขายวันแรกใน SET ราคา IPO 16 บาท พาร์ 2 บาท
ติดตามการประชุม BOJ และ ECB วันที่ 20 ก.ค.
กลยุทธ์วันนี้
วันนี้ SET INDEX จะแกว่งตัวซึมในกรอบ 1570-1580 จุด ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือ ค่าเงินและกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย หลังจากวานนี้ Dollar index อ่อนค่า 0.5% แตะระดับ 94.67 อ่อนค่าสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค.59 หลังความเชื่อมั่นต่อการเมืองสหรัฐฯ ลดลง จากความล้มเหลวในการผลักดันร่างกฎหมายสาธารณสุขของสมาชิกวุฒิสภาของพรรครีพับลิกัน เราเชื่อว่า เงินลงทุนต่างชาติ มีโอกาสไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging markets) รวมถึง ตลาดหุ้นไทย โดยน่าจะเล็งหุ้นปันผล (Yield hunting) เป็นลำดับแรกๆ
วันนี้ มีหุ้น IPO คือ BGRIM เข้าซื้อขายใน SET เป็นวันแรก ราคา IPO 16 บาท เรามองว่า เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นโรงไฟฟ้าอื่นที่มี Valuation ถูกกว่า เพราะ BGRIM ซื้อขายที่ P/E ratio ณ สิ้นปี 2560-61 ราว 18.7 และ 14.5 เท่า ตามลำดับ ขณะที่ WHAUP ซื้อขายที่ 13.7 และ 10.6 เท่า ณ สิ้นปี 2560-61 เท่านั้น
กลยุทธ์ ยังคงแนะนำซื้อสะสมหุ้นปันผลเด่น (Dividend plays) ธีมการลงทุนที่น่าสนใจ คือ การหมุนตัวหุ้น (Stock rotation) ในกลุ่มอสังหาฯ จาก SPALI ซึ่งงดจ่ายปันผลจากผลประกอบการปีนี้ เรามองว่า PSH เป็นตัวเลือกที่เด่นจาก Dividend yield สูงถึง 6-7% ต่อปี และซื้อขายที่ P/E ratio ณ สิ้นปีนี้ ไม่แพงที่ 7.7 เท่า
Fund Flow Analysis
Foreign Investors Action in Thailand
ต่างชาติเลือกสะสมหุ้นเด่นอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง หนาแน่นถึง 2,335 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิขยับขึ้นเป็น 18,617 ล้านบาท
SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ 1,473 สัญญา เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 34,165 สัญญา และทำให้ QTD กลับมา Short สุทธิเล็กน้อย 1,297 สัญญา เมื่อ S50U17 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือ 3.95 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 4.86 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยเป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการ เพียง 474 ล้านบาท เทียบกับ 8 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 16,567 ล้านบาท เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าทะลุ 34 บาท/US$ ต่อเนื่อง โดย YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ไทยขยับเล็กน้อยเป็น 139,133 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ฟื้นตัวเป็นวันที่ 5 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรดังกล่าวลดลงอีก 0.89bps จากวันก่อนหน้าลดลง 0.43bps ปิดที่ 2.54%
NVDR Movement
NVDR สะสมเป็นวันที่ 15 ยังคงเน้นสะสมกลุ่มธนาคารและพลังงาน
การซื้อขายผ่าน NVDR คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 15 มากถึง 3,327 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,372 ล้านบาท รวม 15 วันทำการซื้อสุทธิ 20,514 ล้านบาท โดยเลือกสะสมกลุ่มธนาคารเด่นต่อเนื่องอีก 1,286 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน 922 ล้านบาท แต่เลือกลดน้ำหนักกลุ่มปิโตรเคมีสูงสุด 196 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงิน - การลงทุน
การเจรจา Brexit ได้เริ่มขึ้นแล้ว ประเด็นสำคัญของการเจรจา: ตัวแทนจากอียูมีทั้งสิ้น 45 ท่าน ส่วนตัวแทนจากอังกฤษมี 98 ท่าน โดยนาย David Davis เป็นตัวแทนฝั่งอังกฤษ ในการเจรจากับอียู ประเด็นการเจรจาจะเน้นถึงสิทธิของชาวอียูที่อยู่ในอังกฤษ, เงื่อนไขทางการเงิน, ความร่วมมือด้านนิวเคลียร์, เขตแดนไอร์แลนด์, การเข้าถึงตลาดของทั้ง 2 ก่อน Brexit จะเริ่มขึ้น และขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ
กรีซเตรียมกลับเข้าตลาดตราสารหนี้ภายในสัปดาห์หน้า: รัฐบาลกรีซเตรียมที่จะกลับเข้าตลาดตราสารหนี้ภายในสัปดาห์หน้า ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2557 ที่ประเทศต้องพึ่งการช่วยเหลือจากอียู และเป็นการสะท้อนถึงการปฎิรูปภายใต้โครงการช่วยเหลือของเจ้าหนี้ ทั้งนี้กรีซต้องรอผลการประชุมของ IMF Executive Board ในวันที่ 20 ก.ค. เพื่อพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ และการประกาศอันดับความน่าเชื่อถือจาก S&P ในวันที่ 21 ก.ค.
ร่างงบประมาณสหรัฐฯ จากฝั่ง Republican เสนอแนวทางการลดภาษี: House of Representative ของพรรค Republican เสนอร่างงบประมาณปี 2561 ซึ่งจะเป็นการทดสอบทางการเมืองของประธานาธิบดี Trump รอบนี้ เพราะเป็นร่างที่รวมเอาแผนการปฎิรูปภาษีเข้าไว้ในในร่างพร้อมกับการลดการใช้จ่าย ด้วยวงเงิน US$4.0 ล้านล้าน ที่รวมถึงการปฎิรูปโครงสร้างภาษี การปรับกฎหมาย Dodd-Frank และการประหยัดเงินช่วยเหลือสาธารณะราว US$2.03 แสนล้านในช่วง 10 ปีข้างหน้า ภายใต้ประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 2.6% ต่อปีระหว่างปี 2560-2570 ขณะที่ประมาณการของสำนักงบประมาณคาดการณ์เศรษฐกิจเติบโต 1.9% ต่อปเท่านั้น
การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร 1H60 เพิ่มขึ้น 8.6% YoY ดีกว่าที่ตลาดคาด 8.5% YoY
ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นถึง 11.0% YoY เทียบกับ Bloomberg consensus คาด 10.6% YoY
Strategist Team
Mayuree Chowvikran
Head of Research
662-680-2577
Padon Vannarat
Senior Strategist
662-680-2578
Piyapat Patarapuvadol
Strategist
662-680-2944
Nutt Treepoonsuk
Assistant Strategist