- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 18 July 2017 16:57
- Hits: 10600
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวขึ้นทันที ขยับขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1582.69 จุด เพิ่มขึ้น 4.90 จุด โดยได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และอาหาร ก่อนที่จะมีแรงขายจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ และขนส่งกดดัชนีไหลลงอย่างต่อเนื่องแกว่งตัวสลับขึ้นลงยืนทั้งในแดนบวกและลบ ส่วนใหญ่แกว่งตัวอยู่ในแดนลบจนปิดตลาด ทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1572.61 จุด ลดลง 5.18 จุด ทำให้มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันอยู่ที่ 10.08 จุด ทั้งนี้หุ้นที่กดดัชนีได้แก่ AOT, KBANK, SCC, ADVANC, TISCO ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1574.09 จุด ลดลง 3.70 จุด (-0.23%) มูลค่าการซื้อขาย 31,690 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้การไปต่อนั้นยังไม่แรงส่งไม่มากพอ โดยเปิดตัวแรงขยับทำ High ในช่วงเช้าที่ 1582 จุดเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นจุดดีดกลับขึ้นมาถึง 2 ใน 3 จาก 1564-1591 จุด ก่อนที่จะเผชิญแรงขายกดดัชนีไหลลงอย่างต่อเนื่อง ลงมาทำ Low ที่ 1572 จุด และทำปิดที่ 1574 จุด ซึ่งจะเห็นว่าตลอด 3 วันที่ผ่านมากราฟแท่งเทียนมีสัญญาณที่เตือนในเชิงลบอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องระมัดระวังต่อทิศทางลงโดยมีแนวรับ 1567 จุดซึ่งไม่ควรหลุด แนวรับ 1567-1570 จุด แนวต้าน 1576-1579 จุด
แกว่งตัวผันผวน - ระมัดระวังทางลงมากขึ้นหากหลุด 1567 จุด
Support 1570 // 1560 จุด Resistance 1590 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
'เน้นเล่นสั้น เลือกเป็นรายตัว'
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คาดดัชนีฯ ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลง เนื่องจาก ตลาดขาดปัจจัยหนุนที่ชัดเจน สัญญาณเทคนิคที่ออกมาในทางลบ และ นักลงทุนรอดูการประชุม ECB (20) และ FOMC (26) ... ปัจจัยในประเทศที่ น่าติดตาม คือ การทยอยนำส่งงบการเงินและการคาดการณ์ผลประกอบการของหุ้นต่างๆ ซึ่งจะเป็นปัจจัยต่อหุ้นเป็นรายตัว โดยวันนี้ จะเป็นคิวของ TCAP ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอีกรอบ เป็นทั้งปัจจัยบวก/ลบต่อหุ้น และคงต้องตามดูการประชุม ครม.ว่าจะมีโครงการใหม่ๆ เข้าพิจารณาหรือไม่
กลยุทธ์การลงทุน : เรายังคงมองว่า ปัจจัยบวกต่อตลาดยังไม่ชัด และยังไมมีเม็ดเงินใหม่ๆเข้ามาในตลาด นักลงทุนจึงมีการ take profit ออกมา ที่เราเห็นฝรั่งขาย น่าจะเป็นการลดความเสี่ยง.... การซื้อขายยังเป็นการสลับตัวเล่น (Switching) เน้นเก็งกำไรช่วงสั้นๆ แบบตั้งรับ เพื่อรอให้ผ่านการประชุม FOMC (26) ไปก่อน.... โดยเน้นหุ้นเป็นรายตัว
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ ASEFA , GFPT, HTECH , CPALL , WICE , TAPAC* , KSL
หุ้นแนะนำเชิงเทคนิค : TNR,ASIAN,SYNTEC
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
(+) Tourism + Aviation นักท่องเที่ยวเดือน มิ.ย. เติบโตดี จากนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด
(+) ASEFA คาด 2Q17 ยังเติบโต, Backlog ทำ New High
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (17 ก.ค.) ปิดที่ระดับ 1,574.09 จุด ลดลง 3.70 จุด หรือ -0.23% มูลค่าการซื้อขาย 31,690.08 ล้านบาท มองว่าตลาดหุ้นไทยยังคงไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระทบตลาด นักลงทุนยังคงจับตามองปัจจัยจากต่างประเทศในเรื่องของการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยและ QE
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 21,629.72 จุด ลดลง 8.02 จุด หรือ -0.04% จากปัจจัยเฉพาะของแรงขายหุ้นกลุ่มสุขภาพหลังวุฒิสภาสหรัฐได้ตัดสินใจเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายประกันสุขภาพ อันเนื่องมาจากการที่นายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัว อีกทั้งนักลงทุนยังรอดูผลประกอบการไตรมาส 2 ที่จะทยอยประกาศออกมา ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย +0.01% ปิดที่ 386.86 จุด
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง มองแนวต้านที่ 50 เหรียญต่อบาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบ WTIลดลง 52 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 46.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังรายงานจาก EIA ที่ระบุว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้น 2 แท่น สู่ระดับ 765 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว .... เรามองราคาน้ำมันดิบจะทรงตัวที่ระดับราวๆ 45 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีแนวต้านที่ 50 เหรียญต่อบาร์เรล โดยยังได้รับแรงกดดันจากที่ OPEC ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นขึ้นอีกด้วย ในเดือน มิ.ย.
ปัจจัยต่างประเทศยังจับตาเรื่อง QE ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนปรับตัวดีขึ้น ประเด็นเรื่องการออกมาตรการลด QE ยังคงเป็นที่จับตามอง เรามองว่าหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า จะเริ่มเห็นสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นในเรื่องกรอบเวลาการขึ้นดอกเบี้ยและการลดขนาดงบดุล ..... ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาดีกว่าที่คาด โดย GDP ไตรมาส 2/2560 ขยายตัว 6.9% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 6.8% และสูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ 6.5%
บาทยังคงแข็งค่า บาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง โดยเย็นวานนี้ปิดที่ระดับ 33.71 บาท/ดอลลาร์ จากปัจจัยต่างประเทศเรื่องของการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ .... ส่งผลลบต่อหุ้นที่มีรายได้เป็นเงินสกุลดอลลาร์ (หุ้นอีเล็กทรอนิคส์-เกษตร) แต่จะบวกต่อบริษัทที่มีภาระเงินกู้เป็นดอลล่าร์ (ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี)
ในประเทศติดตามมติ ครม. และการส่งงบไตรมาส 2 ในวันนี้คาดมติ ครม. จะมีการอนุมัติโครงการขนาดใหญ่ คาดว่าจะเป็นโครงการทางด้วนซึ่งบรรจุไว้ในแผน PPP ก่อนหน้านี้ ...... คาดว่าในวันนี้จะมีการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของ TCAP (KTBST คาดกำไร 1.7 พันล้านบาท +18% YoY ;+8% QoQ)
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
ASEFA(ราคาดปิด 7.25) ASEFA มี backlog ที่ 2 พันล้านบาท สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา คาด ASEFA จะรายงานกำไร 2Q17 ที่ 65 ล้านบาท ( +5% YoY,+17% QoQ) ....... เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017 ที่ 317 ล้านบาท (+10% YoY) และเติบโตปี 2018 ที่ +20% YoY ในระยะยาวจากความต้องการการใช้สวิตช์บอร์ดสำหรับโครงการ mega project จะส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทจะถึงจุดพีคที่ปี 2021 ....... (ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 9.00 บาท)
GFPT(ราคาดปิด 19.80) คาดจะมีการเข้ามาเก็งกำไรสำหรับช่วง 2Q17 คาดการณ์กำไรสุทธิในช่วง 2Q17 เพิ่มขึ้น +28.6%YoY และ +15.5%QoQ ....... (ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 21.00 บาท)
HTECH(ราคาดปิด 10.10) บริษัทดำเนินธุรกิจ Cutting Tools สำหรับสินค้าประเภท Hard Disk Drives (HDD) ปัจจุบันมูลค่าส่งออก HDD ของไทยเพิ่มขึ้นมากตั้งแต่ปลายปี 2015 โดยปริมาณการส่งออก 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) เติบโต +15.2% จากงวดเดียวกันในปีก่อน ส่งผลให้คาดปีนี้ HTECH เติบโตประมาณ 35% YoY นอกจากนี้ การขยายโรงงานแห่งใหม่ จะทำให้ฐานรายได้ของบริษัทสูงขึ้นด้วย .... (ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 10.30 บาท).
CPALL(ราคาดปิด 61.00) เรามองเป็นหุ้นที่มีความเป็น Defensive ….. ราคาหุ้นปรับตัวลงสัปดาห์ก่อนจากความกังวลว่ารายได้จะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ด้วยธุรกิจของ CPALL นั้น อิงกับการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน เราประเมินผลไม่น่าจะรุนแรงเหมือนผู้ที่ขายสินค้าฟุ่มเฟือย ... ทั้งนี้ รายได้และกำไร CPALL มีการเติบโตต่อเนื่อง .... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 73 บาท)
WICE(ราคาดปิด 4.36) WICE มีสัดส่วนรายได้ไปยังจีน ถึง 25% ที่น่าจะได้ประโยชน์จาก GDP ของจีนที่ยังขยายตัวดี (2Q=6.9%) …… WICE เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้ประโยชน์จาก EEC โดยตรง เนื่องจากฐานลูกค้าและ warehouse อยู่ในนิคมแหลมฉบัง WICE ได้รับผลประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตของหลายๆบริษัทในประเทศจีนมาตั้งโรงงานที่ไทย........... ในอนาคตยังมีแผนที่จะไป M&A กับบริษัทอื่นๆ ใน Asia เพื่อขยายฐานลูกค้า และเส้นทางขนส่ง ….. (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 5.30 บาท)
TAPAC(ราคาดปิด 23.10) ผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติก ที่ผลการดำเนินงาน 4 ไตรมาสที่ผ่านมา มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง กำไร 1Q-17 อยู่ที่ 39 ล้านบาท สูงขึ้น ถึง 221% YoY เป็นผลจากรายงานจากการลงทุนด้านอสังหาฯในประเทศสวีเดน และธุรกิจหลักในไทยก็มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นด้วย
KSL(ราคาดปิด 4.64) จากข่าวที่ KSL เป็นหนึ่งในบริษัท ที่มีโอกาสได้รับคัดเลือก ทำโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid Firm จำนวน 300 เมกะวัตต์ คาดกระทรวงพลังงานจะเปิดรับซื้อเดือนนี้ .... ช่วงที่ผ่านมา คาดราคาหุ้นปรับตัวลงตามราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ลงมาถึง 13 us cent/pound ….. ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 4.70 บาท
Source: KTBST Research
ประเด็นสำคัญ : ข่าวและหุ้น
เศรษฐกิจสหรัฐ - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) มีการขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนก.ค. แต่ในอัตราที่ชะลอตัวลงอย่างมาก ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงานร่วงลง โดยดัชนีภาคการผลิตดิ่งลงสู่ระดับ 9.8 ในเดือนก.ค. จากระดับ 19.8 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
เศรษฐกิจไทย - นางณัฐฐา วินิจนัยภาค ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนว่า สังคมไทยยังมีปัญหาเรื่องหนี้สินและการออมโดยพบว่าคนไทย 68.10% มีหนี้เฉลี่ย 5.65 แสนบาทต่อหัว และมากกว่า 59.47% หรือเกินกว่าครึ่งเป็นหนี้สินที่เกิดจากการซื้อ ผ่อนบริการ สินค้าอุปโภคบริโภค ที่ใช้แล้วหมดไป รองลงมา 35.46% เกิดจากการลงทุนในการประกอบอาชีพ การทำธุรกิจ อีก 14.24% เกิดจากการเลี้ยงดูบุตรหลาน 11.89% เกิดจากการเลี้ยงดูบุคคลในครอบครัว และมีเพียง 6.17% เกิดจากการสร้าง ต่อเติม ปรับปรุงที่อยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งแตกต่างจากต่างประเทศที่หนี้ครัวเรือนส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์มากกว่า
เศรษฐกิจไทย - บริษัทตั้งใหม่ 6 เดือน 35,942 ราย เพิ่มขึ้น 11% ทุนจดทะเบียน 164,281 ล้านบาท พุ่ง 30% ขณะที่สถิติเลิกกิจการมี 6,481 ราย ลดลง 5% พาณิชย์มั่นใจจดตั้งใหม่ทั้งปีทะลุ 6.6 หมื่นราย หลังเชื่อมั่นเศรษฐกิจฟื้น รัฐลุยลงทุน "ทนง" ชี้บาทแข็งเพราะเงินทุนต่างชาติไหลเข้า แต่ไม่พบการเก็งกำไร เชื่อมือ ธปท.ดูแลได้ดี
น้ำมัน - สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า โรงกลั่นน้ำมันของจีนได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันสู่ระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้อุปสงค์น้ำมันที่แข็งแกร่ง โดยโรงกลั่นน้ำมันอิสระบางแห่งได้ทำการเพิ่มกำลังการผลิต แม้ว่าโรงกลั่นของรัฐบาลจีนกำลังเตรียมปรับลดการผลิตในช่วงฤดูร้อน
เหล้ก - สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลผลิตเหล็กกล้าแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมิ.ย. โดยสูงกว่าระดับ 73 ล้านตัน
รับเหมาฯ - นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า การนำสายสื่อสารลงใต้ดินในโครงการถนนพหลโยธินจากบริเวณห้าแยกลาดพร้าว-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถือเป็นโครงการนำร่องที่สำคัญเพื่อตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล ตามแผนปรับปรุงภูมิทัศน์แบบเร่งรัดของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้แล้วเสร็จใน 5 ปี รองรับแผนพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิตอลอย่างเต็มศักยภาพ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
PTTGC - จับตางบครึ่งปีแรกฟันกำไรสนั่น 20,000 ล้านบาท โตกระฉูด 107% ลุ้นจ่ายปันผลครึ่งปีแรกหุ้นละ 1.50 บาท รับดิวิเดนด์โบรกฯการันตี "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 82 บาท (ข่าวหุ้น)
BEAUTY - คาดไตรมาส 2/60 แกร่ง จ่อฟันกำไรสุทธิ 215 ล้านบาท โตทะลัก 55% จากไตรมาส 2/59 รับผลบวกยอดขายสินค้าพุ่ง หนุนครึ่งปีแรกฟาดกำไรสุทธิ 415 ล้านบาท พุ่ง 55% โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายใหม่ 13.30 บาท(ข่าวหุ้น)
DEMCO - เผย "เด็มโก้ เดอ ลาว" ต่อท่อขายน้ำให้กับรัฐวิสาหกิจน้ำประปาในลาวเรียบร้อยแล้ว กำลังผลิต 14,400 คิว/วัน เริ่มรับรู้รายได้ไตรมาส 3/60 คาดสร้างรายได้จากการขายน้ำประปา 40 ล้านบาท/ปี พร้อมเตรียมทยอยเพิ่มกำลังการผลิต เป้าหมาย 43,200 คิว/วัน ในปี 2578 (ข่าวหุ้น)
PF - ตัดขายหุ้น "ดาราฮาร์เบอร์" ทั้งหมด 26 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 65% ให้กับ CPN รับทรัพย์ 291.75 ล้านบาท เสริมสภาพคล่องเพิ่มขึ้นทันที และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการลงทุน-พัฒนาโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันและในอนาคต(ข่าวหุ้น)
BCP - เร่งสปีด "โครงการเหมืองลิเทียม" ส่งบริษัทลูก BCPI เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน LAC อีก 50 ล้านหุ้น เพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเป็นระดับ 16.1% ชี้ช่วยหนุนบริษัทเติบโตมั่นคงในอนาคต(ข่าวหุ้น)
TLUXE - พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานเต็มสูบ หวังอัพสัดส่วนรายได้เพิ่มแตะ 25% ด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้า 56 MW ภายในปี 2561 เล็งตั้งกอง Infrastructure Fund หลัง COD ครบตามแผนด้านธุรกิจอาหารสัตว์น้ำยอดขายพุ่ง อานิสงส์จากการเพิ่มกำลังการผลิต เน้นการทำตลาดในเชิงรุก ออกสินค้าใหม่ และขยายตลาดมากขึ้น(ทันหุ้น)
AMATA - มั่นใจยอดขายที่ดินปีนี้ทำได้ตามเป้า 1 พันไร่ พร้อมอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้า จีน-ญี่ปุ่น-ยุโรป และสหรัฐ เพื่อซื้อที่ดินกว่า 1 พันไร่ เสริมแกร่ง Backlog เพิ่มขึ้น เนื้อหอมกองทุนฮ่องกงจีบถือหุ้น "วิบูลย์ กรมดิษฐ์" การันตีรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 4.7 พันล้านบาท แน่นอน(ทันหุ้น)
EASON - ลั่นปี 2560 ปักธงรายได้โต 10% หลังบุ๊กส่วนแบ่งรายได้จากธุรกิจพลังงาน APCON ในสัดส่วน 20.95% แถมซุ่มศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่ม หวังหนุนสัดส่วนรายได้พลังงานเป็น 20-30% ส่วนทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังสดใส ลุย "ธุรกิจสีอุตสาหกรรม" ในเวียดนาม-อินโดนีเซีย-มาเลเซียเต็มสูบ โชว์กึ๋นตั้งโรงงานต่างประเทศเพิ่ม เขย่าฐานรายได้โตในอนาคต(ทันหุ้น)
SIRI - มั่นใจยอดขายปีนี้ทำได้ตามเป้า 3.6 หมื่นล้านบาท หลังครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 1.5 หมื่นล้านบาท แถมครึ่งหลังลุยเปิด 16 โครงการ มูลค่า 3.92 หมื่นล้านบาทเพิ่ม ขณะที่รายได้คาดทำได้ 3.4 หมื่นล้านบาท ตุน Backlog 3.75 หมื่นล้านบาท พร้อมรุกหนักตลาดตปท. ดันยอดขายปีนี้แตะ 8 พันล้านบาท (ทันหุ้น)
LPN - เด่นเข้าตาโบรก หลังทำยอดขายครึ่งปีพุ่งกว่าเท่าตัว ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลังโตต่อ จากการเปิดโครงการใหม่ อีก 4-5 โครงการใหม่ มูลค่าขาย 1.7 หมื่นล้านบาท หนุนผลงานทั้งปีสุดหรู ช็อปเข้าพอร์ตลุ้นปันผล ให้ยิลด์สูง 6% ชี้เป้าซื้อ 13 บาท (ทันหุ้น)
Analyst : Mongkol Puangpetra
+662 648 1123
[email protected]
