- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 18 July 2017 16:49
- Hits: 9797
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งตัวแคบ ตลาดรอปัจจัยเพิ่มเติม
KGI คาด SET วันอังคารแกว่งแคบๆ ฟันด์โฟลว์ไม่ต่อเนื่องแม้เงินบาทแข็งค่ามาก + จีดีพีไตรมาส 2/60 ของจีนสูงกว่าคาด หลังตลาดโลกเลือกรอปัจจัยภายนอกเพิ่มเติม (วานนี้ แรงขายปรับพอร์ตหุ้นบิ๊กแคปที่ขึ้นมาแรงช่วงก่อนหน้านี้ กดดันดัชนีฯ ปิดลบ แย่กว่าเราคาด) หุ้นสหรัฐฯ พักเมื่อคืน หลัง บ.แบล็กร็อคซึ่งเป็นกองทุนยักษ์ใหญ่ของโลก แจ้งกำไรต่ำกว่า consensus คาด และตลาดย่อยข่าววุฒิสภาสหรัฐฯ เลื่อนการพิจารณากฎหมายประกันสุขภาพออกไปอีก (หลังวุฒิสมาชิกคนสำคัญ จอห์น เมคเคน ป่วย) นอกจากนี้ตลาดการเงินโลกชะลอก่อนการประชุม ธ.กลางยุโรป และ ธ.กลางญี่ปุ่น ในวันที่ 20 ก.ค. นี้ ซึ่งเป็นครั้งที่สำคัญเนื่องจากก่อนหน้านี้ตลาดมีความสับสนกับแนวนโยบายของยุโรปพอสมควร ด้านปัจจัยภายใน นักลงทุนรอผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งธนาคารใหญ่อย่าง BBL*, KBANK*, SCB* จะรายงานในวันที่ 20 ก.ค. นี้ (กำหนดการเบื้องต้น) ทั้งนี้เรามองว่าภาพดัชนีฯ ระยะสั้นอาจอ่อนกว่าคาดเล็กน้อย แต่มุมมอง SET ระยะไตรมาสยังเป็นบวก โดยปัจจัยกระตุ้น (catalyst) สำคัญ น่าจะเป็นการปรับเพิ่มประมาณการจีดีพีไทยปี 2560 จากทางกระทรวงการคลัง
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร TAPAC / สะสม RATCH*
TAPAC (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) ประเมินรูปแบบราคาเริ่มฟื้นตัวจากการพักฐานหลังปรับขึ้นแรงก่อนหน้า ยืนเหนือแนวราคา 23 บาท มีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 24.3 บาท และถัดไปที่ 26.5 บาท (กรอบแนวต้าน Uptrend line channel) แนวรับ 22.8 บาท (stop loss 21.8 บาท) 2) คาดผลการดำเนินงาน Bottom out ใน 2Q60 (ปิดงบฯ เม.ย. รายงานงบฯ ไปแล้ว) จะเริ่มเห็นภาพ Earnings momentum ที่โตเด่นในไตรมาสถัดไป ต่อเนื่อง 2 ไตรมาสติดๆ หลังการรับรู้รายได้จากธุรกิจ อสังหาฯที่ประเทศสวีเดน ใน 3Q60 – 4Q60 มูลค่ารวมราว 1.5 – 2.0 พันล้านบาท หากกำหนดสมมติฐาน Net margin เฉลี่ยที่ 10 – 15% คาดจะรับรู้กำไรจากธุรกิจดังกล่าวราว 150 - 225 ล้านบาทใน 2H60 (จากที่ใน 1H60 มีกำไร 82 ล้านบาท มาจากธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกเพียงอย่างเดียว)
RATCH* (เป้าพื้นฐาน 63 บาท) 1) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 55 – 56 บาท สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำ “Let profit run” และอาจพิจารณาซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัว ประเมินแนวรับ 52.5 บาท 2) เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q60 ยังได้แรงหนุนจากอัตราการใช้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าหงสาที่ดีขึ้นต่อเนื่อง (เบื้องต้นคาดกำไรดีขึ้น QoQ และ YoY) 3) PE ปี 2560 ยังต่ำเพียง 12.4 เท่า และ Dividend yield 4.9% ต่อปี
หุ้นมีข่าว
(+) ตัวเลขการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก และมื้อเท้าปากเพิ่มขึ้นในช่วง 2Q60 (สำนักระบาดวิทยา) สถิติจำนวนผู้ป่วยของโรคระบาดที่สำคัญในช่วง 2Q60 ที่ผ่านมา เราพบว่า โรคไข้เลือดออกมีสถิติการเพิ่มขึ้นเป็น 7,249 ราย จากระดับ 3,949 รายในช่วง 1Q60 ขณะที่โรคมื้อเท้าปากก็เพิ่มขึ้นเป็น 16,891 รายในช่วง 2Q60 จากระดับ 15,600 รายในช่วง 1Q60 ส่วนไข้หวัดใหญ่แม้จำนวนผู้ป่วยจะอ่อนตัวลงเป็น 17,323 รายในช่วง 2Q60 จากระดับ 19,982 รายในช่วง 1Q60 แต่ระดับดังกล่าวถือว่ายังเป็นตัวเลขที่สูง ซึ่งภาพรวมถือว่าสัมพันธ์กับการเข้าสู่ฤดูฝนที่เร็วในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะยังเห็นแนวโน้มการระบาดที่สูงในช่วง 2H60 ทั้งนี้ เรายังคงมองว่า แนวโน้มกลุ่มโรงพยาบาลจะดีขึ้นในช่วง 2H60 โดยมีปัจจัยหนุนจาก i) high season ในช่วง 3Q ii) ฤดูฝนที่ยาวนานมากขึ้น iii) ผลประโยชน์ส่วนเพิ่มจากประกันสังคมตั้งแต่ 1 ก.ค.60 และ iv) การกระจายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่ม CLMV และยุโรปมากขึ้น (ทดแทนตะวันออกกลาง) เรายังคงชอบโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนรายได้ที่มากจากประกันสังคมและมีแนวโน้มการเติบโตของผลการดำเนินที่ดีในช่วง 2H60 โดยมี BCH* เป็น top pick เป้าหมาย 16.50 บาท
(+) AQ ขายพีพีล็อตสองฉลุย ตระกูลวัธนเวคินโผล่ซื้อ (ข่าวหุ้น) AQ ขายหุ้นเพิ่มทุน PP ล็อตสองฉลุย 38,500 ล้านหุ้น ระดมทุนได้ 1,925 ล้านบาท "ตระกูลวัธนเวคิน" โผล่ซื้อ 3,900 ล้านหุ้น ถือหุ้น 4.57% รวมขาย PP ล็อตแรกได้เงินแล้ว 3,632 ล้านบาท เร่งเจรจา KTB เพื่อชำระหนี้ จ่อขายหุ้นเพิ่มทุนที่เหลืออีก 27,360 ล้านหุ้นต่อทันที ชี้มีนักลงทุนสนใจซื้อเพียบ
(+) DEMCO ขายน้ำประปาในลาว (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) เด็มโก้ เผย "เด็มโก้ เดอ ลาว" ต่อท่อขายน้ำให้กับรัฐวิสาหกิจน้ำประปา แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว แล้ว กำลังการผลิต 14,400 คิว/วัน เริ่มรับรู้รายได้ Q 3/2560 พร้อมเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 43,200 คิว/วัน ในปี 2578 สัญญาสัมปทานยาว 30 ปี ด้านผู้บริหาร "พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์" รอประเมินผล 6 เดือน ก่อนที่จะพิจารณาขยายไปยังแขวงอื่น รองรับดีมานด์ผู้บริโภคที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก
(+) BCP* ลุยเหมืองลิเทียม ทุ่ม 1,100 ล้านซื้อ LAC บจ.แคนาดาทำธุรกิจในสหรัฐ-อาร์เจนตินา (โพสต์ทูเดย์) ธุรกิจลิเทียมรุ่ง บางจาก คอร์ปอเรชั่นทุ่ม 1,100 ล้านเข้าถือหุ้น 16% ในลิเทียม อเมริกาส์ คอร์ป แคนาดา นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP*) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2560 บริษัท บีซีพี อินโนเวชั่น (BCPI) บริษัทย่อยของ BCP* ได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัท ลิเทียม อเมริกาส์ คอร์ป หรือ LAC ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตรอนโต แคนาดา
(+) MTLS* บินโรดโชว์ 10 กองทุนคาดสัดส่วน ตปท. ถือหุ้นจะเพิ่มมากกว่า 5.3% (ข่าวหุ้น) เมืองไทย ลิสซิ่ง MTLS* เดินสายโรดโชว์ยุโรประหว่าง 18-21 ก.ค.นี้ หวังดันสัดส่วนต่างชาติถือหุ้นเพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่ 5.3% พร้อมมั่นใจมาตรการคุมเข้มล่าสุดของแบงก์ชาติเอื้อธุรกิจโต ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้จะเติบโตกว่า 50% แตะ 50,000 ล้านบาท ตามแผนงาน
(+) SIRI* เผยกุญแจสู่ความสำเร็จมั่นใจปี60ยอดขายตามเป้า 3.6 หมื่นล. (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) แสนสิริ เปิดแผนธุรกิจ "Sansiri Transformation" สู่การขับเคลื่อนองค์กรครั้งใหญ่ เผยกุญแจความสำเร็จดันยอดขายปี 60 เข้าเป้า 36,000 ล้านบาท อานิสงส์จากโครงการ 98WIRESS การนำแบรนด์บ้านแสนสิริกลับมาทำตลาด การขยายตลาดต่างประเทศ และพร็อพเทค ช่วยทำตลาดดิจิตอล แจงครึ่งหลังปูพรม 16 โครงการใหม่ กว่า 39,260 ล้านบาท โชว์ครึ่งปีแรกกวาดยอดขายกว่า 15,000 ลบ. เติบโตเกือบ 20% เผยตลาดต่างชาติตอบรับดี สร้างยอดขายทะลุ 3,700 ล้านบาท
(+) กฟน.เร่งเครื่องสายไฟลงดิน UNIQ-ILINK ชิง 6.5 หมื่นล้าน (ทันหุ้น) "UNIQ-ITD-NWR-PLE-LOXLEY-ILINK" ร่วมวงชิงเค้กงานสายไฟลงดิน มูลค่า 1,946.98 ล้านบาท คาดรู้ผลภายในเดือนกันยายนนี้ ด้าน "UNIQ-ILINK " ประกาศลุยประมูลทุกโครงการ หลังกฟน. เร่งเครื่องเปิดประมูล มูลค่ากว่า 6.5 หมื่นล้านบาท
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
MINT* (เป้าพื้นฐาน 47.5 บาท) ประเมินแกว่งตัวในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 40 – 44 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ (Stop loss 39 บาท) ... ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไร 2Q60 = 850 ล้านบาท (+16% YoY) และแนวโน้มการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานแบบ YoY จะต่อเนื่องใน 2H60
SGF (เป้าพื้นฐาน 0.43 บาท) ยืนเหนือแนวเทรนไลน์ขาลงที่ 0.32 บาทได้ รวมทั้งทะลุผ่านแนวเส้นค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 3 – 60 วัน มีโอกาสกลับเทรนจากขาลงเป็นขาขึ้น ประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 0.40 บาท แนะนำ “Let profit run” / สำหรับนักเก็งกำไรสั้น แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 0.33 / แนวต้าน 0.36 บาท และ 0.40 บาท ตามลำดับ
ECL (เป้าพื้นฐาน 3.64 บาท ... เป้าสูงสุด Consensus 4.5 บาท) ราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัว สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อเก็งกำไรบริเวณ 4.0 บาทตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำ “ถือ” และอาจพิจารณา “ซื้อสะสม” หากย่อลงทดสอบแนวรับ 3.70 – 3.60 บาท (Stop loss 3.6 บาท) ... ประมาณการฯและราคาเป้าหมายของเรายังไม่ได้รวมประเด็น ศูนย์ซ่อมรถ Fix man (เปิดสาขาแรกที่ ถ.นวมินทร์ เดือน ก.ค.นี้) และล่าสุดยอดสินเชื่อ 6M60 คิดเป็น 67.5% ของเป้าสินเชื่อใหม่ทั้งปีในประมาณการฯของเรา
HTECH (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ – แนวต้าน 9.3 – 10.8 บาท แนะนำเก็งกำไรในกรอบฯ (Stop loss 9.0 บาท)
MTLS* (เป้าพื้นฐาน 40 บาท) ประเมินแนวต้านแรกที่ 36.25 บาท หากผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 37.5 บาท แนวรับ 35 บาท
UNIQ* (เป้าพื้นฐาน 23.3 บาท) ประเมินแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 19.5 – 20.2 บาท โดยมีแนวรับ 18.7 บาท และ 18.5 บาท ตามลำดับ (Stop loss 18.2 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
HMPRO* แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดว่ากำไรสุทธิ 2Q60 จะอยู่ที่ 1.10 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY และ 5% QoQ โดยคาดว่า SSSG จะลดลงเหลือ -3.5% ซึ่งเป็นผลมาจากสาขาต่างจังหวัดอ่อนแอ ทั้งนี้แนวโน้มการบริโภคที่ดูสดใสขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น (จากการเพิ่มสินค้า private brand) ก็น่าจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานให้ดีขึ้นใน 2H60
TMB* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 2.46 บาท รายงานกำไรสุทธิ 2Q60 อยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท (+11% QoQ และ +8% YoY) สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัยฯ 22% และ consensus 18% เนื่องจากมีการบันทึกรายได้พิเศษจากการเป็น exclusive agent ให้กับ FWD Insurance ในขณะที่กำไรสุทธิงวด 6M60 อยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท (+4.3%) คิดเป็น 49% ของประมาณการทั้งปีของฝ่ายวิจัยฯ
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘กรอบราคา 1570 – 1578 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1578 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1578-1587 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1570 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบราคา 1570-1555 จุด
แนวรับวันนี้: 1570/1558 แนวต้านวันนี้: 1578/1584
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
บทวิเคราะห์ : อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]