WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASIAwealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐไม่ดีแต่ช่วยหนุนตลาดอีกแล้ว
      คาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาอ่อนลดการคาดการณ์ปรับดอกเบี้ยขึ้นของ Fed อย่างไรก็ตามพรรค Republican ประกาศวันเสาร์เลื่อนการลงมติร่างกฎหมายสาธารณสุขที่จะมาแทน พรบ.ของประธานาธิบดี Obama ทำให้กลับมาไม่เชื่อมั่นว่า Trump จะออกกฎหมายได้ แล้วยังทำให้การเสนอกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจของ Trump ต้องล่าช้าออกไปอีก จุดสนใจเช้านี้ราว 9.00 น. คือ ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของจีน (ตลาดคาด +6.8%) ภายในประเทศ สภาพัฒน์กำลังปรับประมาณ GDP ขึ้นเป็นโต 3.5-3.8% จาก 3.3-3.5% เดิมในขณะที่ TMB อาจมีข่าวดีหลังต่อสัญญากับ FWD Life ซึ่งน่าจะทำให้กำไรเพิ่มมากขึ้น

หุ้นเด่นวันนี้ : BBL (ราคาปิด 188.50 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 213.00 บาท)


     ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นเด่นในวันนี้จากการคาดการณ์ว่าสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังและหลังจากนั้น หนุนโดยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 2.4 ล้านล้านบาท หนึ่งในโครงการดังกล่าวจะรวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ - นครราชสีมา มูลค่า 1.79 แสนล้านบาท ที่เพิ่งได้รับความเห็นชอบจาก ครม.เมื่อเร็วๆนี้ นอกจากนี้ BBL เผยว่ากำลังพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทร่วมทุน BSR สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง ซึ่งมีมูลค่าโครงการประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาทคาดว่าจะมาจากสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ ถึงแม้เราคาดสินเชื่อของธนาคารในไตรมาส 2/60 จะยังหดตัว 1% YTD

 

       แต่เราคาดกำไรสุทธิในไตรมาสดังกล่าวจะปรับตัวขึ้น 3% QoQ และ 19% YoY อยู่ที่ 8.5 พันล้านบาท หนุนโดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง แม้อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ในไตรมาส 2/60 น่าจะปรับตัวขึ้นจาก 3.5% ในไตรมาส 1/60 ตามปัจจัยทางฤดูกาล แต่เรามองว่าคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารจะยังอยู่ในระดับที่ดีจากการที่ธนาคารยังมีอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage ratio) ค่อนข้างสูงอยู่ถึง 160% นอกเหนือจากนั้นแล้ว หุ้น BBL ยังน่าสนใจมากเนื่องจากปัจจุบันซื้อขายกันในอัตราส่วนราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีที่ถูกที่ 0.9 เท่า

 

       และมีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่เหมาะสมที่ 3.7% เราประมาณการกำไรของ BBL จะเติบโต 7.7% ในปี 60 ก่อนเร่งตัวเติบโต 19.3% ในปี 61 Price Pattern ของ BBL มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ BBL ที่สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือเป้าหมายถัดไปที่ 188 บาทไปแล้ว จึงมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 198 บาท ทั้งนี้ BBL มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 178.50 บาท

 

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :

      สภาพัฒน์เล็งปรับเป้า GDP ปี 60 จากการคาดการณ์ปัจจุบันที่ 3.3-3.8% เป็น 3.5-3.8% ในขณะที่ เตรียมปรับเป้าเติบโตส่งออกปีนี้เช่นกันจากปัจจุบัน 3.2% เนื่องจากมองว่าส่งออกไทยมีโอกาสเติบโตได้ถึง 5% ในปีนี้ (Thaipost)
       ค่าใช้จ่ายรถไฟความเร็วสูงอาจเพิ่มขึ้น สบน.เตือนค่าใช้จ่ายทางการเงินของโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา มูลค่า 1.79 แสนล้านบาทอาจเพิ่มขึ้น หากโครงการดังกล่าวล่าช้า เนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่กำลังปรับตัวขึ้นทั่วโลก (Bangkok Post)
      รัฐเตรียมซื้อยางพารามูลค่า 1.69 หมื่นล้านบาท นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้สั่งให้หน่วยงานรัฐทั้ง 9 แห่งเร่งถอนงบประมาณเพื่อเข้าซื้อยางพาราในประเทศมูลค่า 1.69 หมื่นล้านบาท ภายในปีงบประมาณ 60 นี้ เพื่อช่วยพยุงราคายางในประเทศ (Bangkok Post)
TMB (ราคาปิด 2.32 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 2.70 บาท) ต่อสัญญาการเสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิตผ่านธนาคาร (Bancassurance) ให้กับเอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต นั่นหมายความว่าเอฟดับบลิวดีสามารถเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคาร เป็นระยะเวลา 15 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2560 (SET/Kaohoon) ความเห็น: บางแหล่งข่าวกล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวอาจทำให้ TMB ได้รับเงินสูงถึง 2.0 หมื่นล้านบาท ที่อาจบันทึกในไตรมาส 3/60 นี้ ซึ่งจะทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 60 ของเราเพิ่มขึ้น 95 % อยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท และทำให้ราคาเป้าหมายปี 60 ของเราปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 3.00 บาทจาก 2.70 บาท อย่างไรก็ตาม เรายังคงประมาณการไว้ก่อน และจะรอความชัดเจนอีกครั้ง โดย TMB จะมีการจัดประชุมนักวิเคราะห์ในวันพรุ่งนี้


ต่างประเทศ :
วุฒิสภาของสหรัฐประกาศชะลอการลงคะแนนเสียงร่างกฎหมายประกันสุขภาพ ภายหลังนายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันมลรัฐอาริโซนาพักฟื้นหลังการผ่าตัด จากการแถลงของผู้นำเสียงข้างมากวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ การที่นายแมคเคนไม่สามารถเข้าร่วมประชุมก่อให้เกิดข้อสงสัยว่าวุฒิสภาจะสามารถผ่านกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ที่จะใช้แทนโอบามาแคร์ได้หรือไม่ พรรครีพับลิกันต้องการเสียงเห็นชอบ 50 เสียงเพื่อที่จะผ่านการเห็นชอบโดยพรรคฯ มีเสียงในสภาเทียบกับพรรคเดโมแครตในสัดส่วน 52-48 (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอทำให้นักลงทุนคาดการณ์น้อยลงเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 2.324% จาก 2.348% เมื่อวันพฤหัส โดยก่อนหน้านี้ได้ร่วงลงสู่ระดับ 2.279% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันศุกร์ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอเกี่ยวกับราคาสินค้าผู้บริโภคและยอดค้าปลีกในเดือนมิ.ย. ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปิดลบ 0.6% ที่ระดับ 95.152 หลังจากก่อนหน้านี้ที่ร่วงสู่ระดับ 95.132 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 59 (Reuters)


สหรัฐ :
ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ หลังการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอทำให้ความคาดหวังที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ดูมืดมน หุ้นกลุ่มการเงินที่ปรับตัวลงจำกัดการปรับตัวขึ้นของตลาด แม้ว่าหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และหุ้นธนาคารขนาดใหญ่อื่น ๆ จะประกาศผลประกอบการรายไตรมาสแข็งแกร่งก็ตาม (Reuters)
เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ภาวะเงินเฟ้อสหรัฐยังทรงตัวในเดือนมิ.ย. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค. ดัชนี CPl พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPl ปรับตัวขึ้น 1.7% ในเดือนมิ.ย. เช่นเดียวกับในเดือนพ.ค. (Reuters)
ยอดค้าปลีกสหรัฐลดลง โดยปรับตัวลง 0.2% ติดต่อกันเป็นเดือนที่สองในเดือนมิ.ย. (Reuters)
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐลดลงในเดือนก.ค. อยู่ที่ 93.1 จุดจาก 95.1 จุดในเดือนมิ.ย. (Reuters)


ยุโรป :
หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์สูงสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาตลาดทุนหลังจากมีสัญญาณว่าธนาคารกลางหลายๆ แห่งอาจไม่ลดนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเร็วแบบที่ตลาดเคยกลัวไว้ (Reuters)


เอเชีย :
จีน : คาดว่าจะรายงานตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาส 2/60 ขยายตัว 6.8% YoY เทียบกับ 6.9% ในไตรมาสก่อนเนื่องจากผู้กำหนดนโยบายพยายามที่จะควบคุมความเสี่ยงด้านอสังหาริมทรัพย์และหนี้สิน (Reuters)
การลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนในเดือนพฤษภาคม: โดยเพิ่มขึ้น 7.3% YoY เทียบกับที่ขยายตัว 9.6% YoY ในเดือนเมษายน การขยายตัว YoY ของการก่อสร้างใหม่เริ่มลดลงเกือบครึ่งหนึ่งเหลือ 5.2% จาก 10.1% ในเดือนเมษายน (Reuters)
รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจ เกี่ยวกับการบริโภคภาคเอกชน รายจ่ายฝ่ายทุน และการลงทุนด้านที่อยู่อาศัยสำหรับปี 2560 เนื่องจากความต้องการในประเทศแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลคงประมาณการจีดีพีในปีนี้ไว้ตามเดิม และคาดว่าราคาสินค้าผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 1.1% ในปี 2560 และ 1.3% ในปี 2561 เป็นการเน้นว่าการก่อตัวของแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำมาก (Reuters)


สินค้าโภคภัณฑ์ :
       น้ำมันปรับตัวขึ้น 1% เมื่อวันศุกร์ เนื่องจากผู้ผลิตสหรัฐมีการเพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะเพียงแค่ 2 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงสัญญาณของอุปสงค์ที่ฟื้นตัวในตลาดจีน ราคาเบรนท์ปรับตัวขึ้น 49 เซนต์ (+1.0%) อยู่ที่ 48.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวขึ้น 46 เซนต์ (+1.0%) อยู่ที่ 46.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองขึ้น 1% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวันศุกร์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจบ่งบอกถึงอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่อ่อนแอ ราคาทองคำตลาดจรเพิ่มขึ้น 0.96% อยู่ที่ 1,228.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังจากที่แตะ 1,232.76 ดอลลาร์ ราคาทองล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 10.20 ดอลลาร์ (+0.84%) อยู่ที่ 1,227.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)

Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 0-2680-5056
MISS. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!