- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 July 2017 17:06
- Hits: 1721
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
(รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ ฟันด์โฟลว์ยังดี ช่วยจำกัดความเสี่ยงทางลง
KGI คาด SET วันจันทร์ไซด์เวย์/บวกแคบๆ หลังปัจจัยต่างประเทศปนกันทั้งบวก/ลบ และตลาดยังติดตามงบไตรมาส 2/2560 ของธนาคารพาณิชย์ไทย (ศุกร์ที่แล้วดัชนีฯ ลบแคบๆ อ่อนกว่าเราคาดเล็กน้อย) สำหรับปัจจัยฝั่งสหรัฐฯ ที่เราติดตามมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วนั้น พบว่า i) งบไตรมาส 2/2560 ของธนาคารอย่าง เจพี. มอร์แกน ซิตี้กรุ๊ป และเวลล์ ฟาร์โก ล้วนสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ แต่หุ้นธนาคารต่างๆ ดังกล่าวกลับปรับลดลงเพราะผู้บริหารให้แนวโน้มธุรกิจที่ชะลอในครึ่งปีหลัง ii) เมื่อวันอาทิตย์ วุฒิสภาสหรัฐฯ เลื่อนการพิจารณากฎหมายประกันสุขภาพอีกครั้ง (ยังไม่มีกำหนดเวลาใหม่ที่ชัดเจน) ทั้งนี้ข่าวเลื่อนกฎหมายประกันสุขภาพฯ ผนวกกับตัวเลขค้าปลีก มิ.ย. และเงินเฟ้อ มิ.ย. สหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าคาด กดดันค่าเงินดอลล่าร์ฯ อย่างหนักเมื่อวันศุกร์ ... หนุนให้ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งสุดรอบ 2 ปี ที่ 33.71/ดอลล่าร์ฯ เป็นบวกต่อฟันด์โฟลว์ ... ส่วนปัจจัยในภูมิภาคนั้น จีนจะรายงานจีดีพีไตรมาส 2/2560 เช้านี้ 9.00 น. ตามเวลาไทย นักเศรษฐศาสตร์ KGI (ประเทศจีน) คาดโต 6.8% YoY ก่อนชะลอสู่ 6.6% ในไตรมาส 3/2560 ขณะที่ฝั่งในประเทศนั้น การรายงานงบกลุ่มธนาคารยังเป็นไฮไลท์ (เบื้องต้นประเมินว่าหุ้น TMB* รายงานวันนี้, TCAP* วันที่ 18 ก.ค. ส่วน BBL*, KBANK*, SCB* รายงานวันที่ 20 ก.ค. และ BAY*, KTB*, KKP* รายงานวันที่ 21 ก.ค. โดยกำหนดการต่างๆ ดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร MINT*, TAPAC
MINT* (เป้าพื้นฐาน 47.5 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไร 2Q60 = 850 ล้านบาท (+16% YoY) และแนวโน้มการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานแบบ YoY จะต่อเนื่องใน 2H60 จาก i) ไทยฐานต่ำในปีก่อน (3Q59 ปัญหาปราบทัวร์ผิดกฏหมาย, 4Q59 ช่วงการไว้อาลัยฯ) ii) ธุรกิจในต่างประเทศ (โปรตุเกส + บราซิล) คาดโตเด่น 2) ประเมินแกว่งตัวในกรอบแนวรับ - แนวต้าน 40 - 44 บาท แนะนำ "เก็งกำไร" ในกรอบฯ (Stop loss 39 บาท)
TAPAC (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) ประเมินรูปแบบราคาเริ่มฟื้นตัวจากการพักฐานหลังปรับขึ้นแรงก่อนหน้า หากวันนี้ยืนเหนือแนวราคา 23บาท ประเมินมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 24.3 บาท และถัดไปที่ 26.5 บาท (กรอบแนวต้าน Uptrend line channel) แนวรับ 22.5 บาท (stop loss 21.8 บาท) 2) คาดผลการดำเนินงาน Bottom out ใน 2Q60 (ปิดงบฯ เม.ย. รายงานงบฯ ไปแล้ว) จะเริ่มเห็นภาพ Earnings momentum ที่โตเด่นในไตรมาสถัดไป ต่อเนื่อง 2 ไตรมาสติดๆ หลังการรับรู้รายได้จากธุรกิจ อสังหาฯที่ประเทศสวีเดน ใน 3Q60 - 4Q60 มูลค่ารวมราว 1.5 - 2.0 พันล้านบาท หากกำหนดสมมติฐาน Net margin เฉลี่ยที่ 10 - 15% คาดจะรับรู้กำไรจากธุรกิจดังกล่าวราว 150 - 225 ล้านบาทใน 2H60 (จากที่ใน 1H60 มีกำไร 82 ล้านบาท มาจากธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกเพียงอย่างเดียว)
หุ้นในกระแส
(+ COM7*, JMART*) Flagship Apple Store เตรียมเปิดที่ ไอคอนสยาม (Bangkok Post) เราประเมินผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีกมือถือเป็นบวก ดังนี้ 1) เป็น Flagship Store ที่จะกระตุ้นการตลาดสินค้า Apple ในไทย ซึ่งจะเน้นเปิดเพียง 1 - 2 แห่งใจกลางเมือง จึงเป็นบวกต่อยอดขายสาขาในต่างจังหวัด และผู้ประกอบการฯ อย่าง COM7* และ JMART* (COM7* ไม่มีสาขาใจกลางเมือง) 2) Apple ให้ความสำคัญกับตลาดไทยมากขึ้น มีโอกาสเลื่อนการจัดชั้นไทยขึ้น (เดิมไทย จะได้สินค้าใหม่ เช่น iPhone ใหม่ ช้าและน้อยกว่าประเทศอื่น) 3) การจัดอันดับดัชนีการเข้าถึงบริการดิจิทัล ของ Global Connectivity index (GCI) ประจำปี 2560 ไทยอยู่อันดับที่ 33 (ขึ้นจาก 35) จากการจัดอันดับ 50 ประเทศทั่วโลก ยังชี้ให้เห็นถึงช่องว่างในการเข้าถึงฯ ของไทยที่ยังไม่ถึงจุดอิ่มตัวและสามารถพัฒนาขึ้นได้อีกมาก (ดีมานด์สมาร์ทโฟน / คอมพิวเตอร์ ในต่างจังหวัดยังมีช่องว่างอีกมาก) แนะนำ "เก็งกำไร" COM7* และ JMART*
หุ้นมีข่าว
(+) DTAC* รุกทำการตลาดครึ่งปีหลัง ปีนี้ลูกค้าโพสต์เพดพุ่ง 6 ล้านราย (ข่าวหุ้น) "DTAC" ตั้งเป้าครึ่งปีหลังเพิ่มลูกค้าโพสต์เพดอีก 4-6 แสนราย ดันสิ้นปีนี้แตะ 6 ล้านราย รุกทำการตลาดครึ่งปีหลังมากขึ้น ชูแพ็คเกจ "Go โน ลิมิต-ดีแทครีวอร์ด" และการเปิดตัวไอโฟน 8 และซัมซุง กาแล็คซี่ โน๊ต 8
(+) NOK ตั้งเป้าปีหน้ามุ่งกำไรลุยจัดแพ็กเกจ (โพสต์ทูเดย์) นกแอร์ ตั้งเป้าปีหน้าพลิกกำไรหลังรายได้โตตามเป้า เตรียมรับมอบเครื่องบินอีก 5 ลำ นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท สายการบินนกแอร์ เปิดเผยว่า สายการบินนกแอร์ตั้งเป้าหมายปี 2561 จะกลับมามีกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากปีนี้ได้เร่งลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้อย่างต่อเนื่อง
(+) GSTEL-GJS ปลดหนี้หมื่นล. เปิดทางฮ่องกงฮุบหุ้นใหญ่ แปลงหนี้เป็นทุน รอประชุมวิสามัญ 30 ส.ค.นี้ (ข่าวหุ้น) บอร์ด "GSTEL-GJS" ไฟเขียวแผนปรับโครงสร้างหนี้-แปลงหนี้เป็นทุน หวังปลดหนี้รวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท เปิดทางกองทุนฮ่องกง "กลุ่ม SSG" ฮุบหุ้นใหญ่ผ่าน ACO I เตรียมชงที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติ 30 ส.ค.นี้ โดย GSTEL จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 2.18 หมื่นล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.1961 บาท ให้ ACO I เข้าถือหุ้นใหญ่ 76.09% และ GJS จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 3.34 พันล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.34 บาท ให้ ACO I เข้าถือหุ้นใหญ่ 42.97%
(+) TMB* รับ 2 หมื่นล้านบุ๊ค Q3 จูบปาก FWD ขายประกัน (ข่าวหุ้น) แบงก์ทีเอ็มบีต่อสัญญาอีก 15 ปีให้กับ "เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต" (FWD) พร้อมรับทันที 2.05 หมื่นล้านบาท คาดบันทึกในไตรมาส 3 นี้ ด้าน "ไทยพาณิชย์" กลับมาเจรจา "เอไอเอ" ขายหุ้นใน SCBLIFE ราคา 3.5 หมื่นล้านบาท โดยมี Singapore’s Great Eastern Holdings Ltd. ของเสี่ยเจริญ รอเสียบ
(+) ITEL ยื่นซองเน็ตชายขอบวันนี้ ลุ้นงาน 4 สัญญา เคาะราคาประมูล 1 ส.ค.60 (ข่าวหุ้น) วันนี้ "ITEL" พร้อมยื่นซองประมูลโครงการเน็ตชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน จำนวน 4 สัญญาบรอดแบนด์ ก่อน กสทช.เปิดเคาะราคา 1 ส.ค. 60 เริ่มเปิดบริการไม่น้อยกว่า 15% ภายในเดือน ธ.ค. 60 และครบ 3,920 หมู่บ้าน ภายในเดือน ก.ค. 61
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SGF (เป้าพื้นฐาน 0.43 บาท) ยืนเหนือแนวเทรนไลน์ขาลงที่ 0.32 บาทได้ รวมทั้งทะลุผ่านแนวเส้นค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 3 - 60 วัน มีโอกาสกลับเทรนจากขาลงเป็นขาขึ้น ประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 0.40 บาท แนะนำ "Let profit run" / สำหรับนักเก็งกำไรสั้น แนะนำ "เก็งกำไร" แนวรับ 0.33 / แนวต้าน 0.36 บาท และ 0.40 บาท ตามลำดับ
ECL (เป้าพื้นฐาน 3.64 บาท ... เป้าสูงสุด Consensus 4.5 บาท) สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อเก็งกำไรบริเวณ 4.0 บาท ตามที่เราแนะนำ อาจพิจาณาซื้อถัวเฉลี่ยที่แนวรับ 3.70 - 3.60 บาท ตามลำดับ (Stop loss 3.60 บาท) ... ประมาณการฯและราคาเป้าหมายของเรายังไม่ได้รวมประเด็น ศูนย์ซ่อมรถ Fix man (เปิดสาขาแรกที่ ถ.นวมินทร์ เดือน ก.ค.นี้) และล่าสุดยอดสินเชื่อ 6M60 คิดเป็น 67.5% ของเป้าสินเชื่อใหม่ทั้งปีในประมาณการฯของเรา
HTECH (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ - แนวต้าน 9.2 - 10.7 บาท แนะนำเก็งกำไรในกรอบฯ (Stop loss 9.0 บาท) ... เบื้องต้นประเมินแนวโน้มกำไรเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง 4Q60>3Q60?2Q60?1Q60 จาก Utilization rate ที่เกือบเต็มกำลังการผลิตตั้งแต่ 1Q60 และกำลังการผลิตใหม่จะเข้ามาเพิ่มอีก 30% ใน 4Q60
MTLS* (เป้าพื้นฐาน 40 บาท) ประเมินแนวต้านแรกที่ 36.25 บาท หากผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 37.5 บาท แนวรับ 35 บาท
MONO* (เป้าพื้นฐาน 3.9 บาท) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 3.6 - 4.0 บาท (Stop loss 3.5 บาท)
UNIQ* (เป้าพื้นฐาน 23.3 บาท) ประเมินแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 19.5 - 20.2 บาท โดยมีแนวรับ 18.7 บาท และ 18.5 บาท ตามลำดับ (Stop loss 18.2 บาท)
RATCH* (เป้าพื้นฐาน 63 บาท) ประเมินแนวรับ 52 บาท แนวต้าน 55 - 56 บาท (Stop loss 50 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
MINT* แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 47.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินธุรกิจโรงแรมแสดงสัญญาณการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเกินพอที่จะชดเชยผลการดำเนินงานที่อ่อนแอของธุรกิจอาหาร ดังนั้น จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2560/2561 ขึ้นอีก 6%/3% โดยปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ขึ้นอีก 4%/2% เป็นปีละ 8% ทั้งนี้หากไม่รวมรายการที่ไม่ได้เกิดจากธุรกิจหลักเราคาดว่ากำไรปี 2560/2561 จะโตปีละ 20% เมื่อการฟื้นตัวเริ่มชัดเจนขึ้น ฝ่ายวิจัยฯจึงปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นอีก 15% โดยได้ re-rate EV/EBITDA ในอีก 12 เดือนข้างหน้าเป็น19x (EBITDA เฉลี่ยระยะยาว +1SD) หรือคิดเป็น P/E ที่ประมาณ 33x (เท่ากับค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง)
SVI แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 6.1 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดการเติบโตของยอดขายในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐฯใน 2Q60 จะถูกหักล้างไปโดยผลของเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยประเมินกำไรจากธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 147 ล้านบาท (+8.5% YoY, -8.1% QoQ) ซึ่งเป็นผลมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจากต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้น ... การแข็งค่าของเงินบาทอาจจะเป็น downside ของประมาณการกำไรปี 2560 ฝ่ายวิจัยฯจะทบทวนสมมติฐานและประมาณการกำไรปีนี้อีกครั้งหลังการประกาศงบ 2Q60
GFPT* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 20.2 บาท ฝ่ายวิจัยฯปรับลดคำแนะนำหุ้น GFPT จาก "ซื้อ" เป็น "ถือ" โดยคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 20.20 บาท ราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นมา 33% YTD ได้สะท้อนถึงแนวโน้มการส่งออกที่แข็งแกร่งในปี 2560 ไปแล้ว ในขณะเดียวกัน ยังมีปัจจัยที่ควรระมัดระวังจาก i) ราคาไก่ในประเทศที่ลดลง และ ii) ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]