- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 July 2017 16:55
- Hits: 1096
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Smart Pick
1. สะสม PTT : ราคาปิด 374.00 บาท ราคาเหมาะสม 430.00 บาท **(ยังไม่ได้อยู่ใน Coverage ของเรา)
a) คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้นวันที่ 5 ติดต่อกัน ปิดที่ US$46.54/barrel +1.0% dod เนื่องจาก IEA ปรับเพิ่มอุปสงค์น้ำมันปี 2560 ขึ้น 1 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็น 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจีนรายงานตัวเลขนำเข้าน้ำมัน 6 เดือนแรก เพิ่มขึ้น +13.8% yoy
b) และแรงหนุนของเม็ดเงินต่างชาติที่มีทิศทางไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่จะเป็นบวกต่อหุ้น Big Cap โดยวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน อีก 386 ล้านบาท และ Long สุทธิ SET50 Index Future เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน
c) Valuation น่าสนใจ PER2560 เพียง 9.8 เท่า และคาดเงินปันผล 1H60 หุ้นละ 5.00 – 6.00 บาท อีกทั้ง PTTOR จะ IPO ต้นปีหน้าเป็นปัจจัยบวกเพื่อ Unlock มูลค่า Asset ของธุรกิจค้าปลีกและเป็น Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในเป้าหมายของ Consensus
2. สะสม PSH : ราคาปิด 22.60 บาท ราคาเหมาะสม 28.00 บาท
a) Yuanta ประเมินว่า PSH เป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนเพื่อคาดหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูง แทน SPALI ที่ประกาศงดจ่ายเงินปันผลปี 2560
b) คาดกำไรปกติ 2Q60 เติบโต +109% QoQ เป็น 1.4 พันล้านบาท จากการโอนคอนโด 3 โครงการ ได้แก่ The Tree Rio บางอ้อ, Chapter One Midtown ลาดพร้าว และ Plum Condo แจ้งวัฒนะ เฟส 1
c) Valuation ยังถูก ซื้อขายที่ PER2560 เพียง 7.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ 9.0 เท่า และค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 9.5 เท่า และให้เงินปันผลสูงถึงปีละ 6.5% โดยคาดการณ์เงินปันผล 1H60 หุ้นละ 0.48 บาทคิดเป็น Dividend Yield 2.1% และทั้งปี 2560 หุ้นละ 1.47 บาท
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวลดลงราว 1.62 จุด ปิดที่ 1577.79 จุด หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นติดกัน 2 วัน มูลค่าการซื้อขายราว 3.5 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 386 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับบัญชี บล. ที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 ของเดือน ราว 469 ล้านบาท มีเพียงสถาบันภายในประเทศที่ขายสุทธิราว 492 ล้านบาท และรายย่อยที่ขายสุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันราว 363 ล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิหนาแน่นราว 1.1 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ MTD มีสถานะเป็น Short สุทธิเหลือเพียง 3.2 พันสัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
สหรัฐฯรายงานอัตราเงินเฟ้อในเดือน มิ.ย. ขยายตัว 1.6% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 1.7% YoY และยอดค้าปลีก หดตัวราว 0.2% YoY สวนทางกับที่ตลาดคาด +0.1% YoY
JP Morgan รายงานผลประกอบการ 2Q60 ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ราว 8.14%
จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในทวีปอเมริกาเหนือ ณ วันที่ 14 ก.ค. เพิ่มขึ้น 16 แท่น เป็น 1,143 แท่น แต่จำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯ ไม่เปลี่ยนแปลง
ติดตามการรายงานผลประกอบการ TMB วันนี้
ติดตามการรายงาน GDP จีน เช้านี้ Bloomberg consensus คาด 6.8% YoY
ติดตามการรายงานอัตราเงินเฟ้ออังกฤษและ EU วันที่ 18 ก.ค.
ติดตามการประชุม BOJ และ ECB วันที่ 20 ก.ค.
กลยุทธ์วันนี้
เราประเมินทิศทาง SET INDEX วันนี้ ขยับขึ้นทดสอบแนว 1585 จุด เราเชื่อว่า กระแสเงินทุนต่างชาติ ยังคงดูเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย สะท้อนจากการซื้อสุทธิ 2 วันติดต่อกันในตลาดหุ้น และ Long สุทธิในตลาดฟิวเจอร์ส 3 วันต่อเนื่องรวมกว่า 3.1 หมื่นสัญญา ช่วยจำกัด Downside ของ SET INDEX ในระยะสั้น ขณะที่การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ดูเป็นบวกเช่นกัน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ และตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมถึง ราคาน้ำมันดิบโลก ล้วนปรับตัวเพิ่มขึ้น
ภาพระยะกลาง การที่ SET INDEX จะขึ้นทดสอบแนวต้านใหญ่ 1600 จุดได้หรือไม่ จุดโฟกัสอยู่ที่การรายงานผลประกอบการ 2Q60 ของกลุ่มธนาคารในสัปดาห์นี้เป็นสำคัญ โดยเฉพาะการประกาศในวันที่ 20 ก.ค. ของธนาคารขนาดใหญ่อย่าง BBL, SCB, KBANK หากมีการส่งสัญญาณว่า แนวโน้ม NPL ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
กลยุทธ์ ซื้อสะสมหุ้นปันผลเด่น (Dividend plays) ในกลุ่มพลังงาน (PTT) ได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าและมี Sentiment เชิงบวกจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 วันติดต่อกัน และกลุ่มอสังหาฯ (PSH) ที่มี Forward P/E ratio ไม่แพงและผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัว
Strategist Team
Mayuree Chowvikran
Head of Research
662-680-2577
Padon Vannarat
Senior Strategist
662-680-2578
Piyapat Patarapuvadol
Strategist
662-680-2944
Nutt Treepoonsuk
Assistant Strategist