- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 14 July 2017 16:10
- Hits: 1527
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
(รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ปรับขึ้นต่อ
KGI คาด SET วันศุกร์ขึ้นต่อ ค่าเงินบาทแข็ง + น้ำมันขึ้นต่อ + มุมมองต่อพื้นฐานครึ่งปีหลังของหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจภายใน (domestic plays) ที่ดีขึ้น หนุนฟันด์โฟลว์ต่อ (วานนี้ดัชนีฯ บวกกรอบจำกัด ตามคาด) เช้านี้ค่าเงินบาทแข็งสู่ 33.90/ดอลล่าร์ฯ ตามประเด็นข่าวที่ประธานเฟดส่งสัญญาณต่อคองเกรสว่าวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐฯ รอบนี้น่าจะขึ้นไม่มาก ขณะที่ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นอีกเล็กน้อย สะท้อนข่าว IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันปีนี้อีก 100,000 บาร์เรล สู่ระดับ 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน ผนวกกับสัญญาณบวกจากโบรกฯ ต่างชาติ ล่าสุดซีเอ็นบีซี รายงานว่าเครดิต สวิส ปรับเพิ่มมุมมองหุ้นกลุ่มธนาคารในแถบอาเซียน น่าจะส่งผลดีต่อฟันด์โฟลว์ในหุ้นธนาคารของไทยเช่นกัน ท่ามกลางความคาดหวังต่อเศรษฐกิจไทยที่เร่งตัวในครึ่งปีหลัง ด้านปัจจัยภายนอกนั้น i) สหรัฐฯ ประกาศเลื่อนการลงมติกฎหมายประกันสุขภาพไปเป็นสัปดาห์หน้า หลังวุฒิสภาสหรัฐฯ ยังตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นการเก็บภาษีผู้มีรายได้สูง (Obamacare taxes) ii) ธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯ จะเริ่มรายงานงบไตรมาส 2/2560 ในวันนี้ หากออกมาดีกว่าคาดจะเป็นจิตวิทยาบวกต่อเนื่องกับหุ้นธนาคารทั่วโลก ส่วนในสัปดาห์หน้า หุ้นธนาคารของไทยน่าจะทยอยรายงานงบไตรมาส 2/2560 จนครบ
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร HTECH, MTLS*
HTECH (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) เราประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรม HDD กำลังเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นอีกครั้ง (เปลี่ยนเทรนด์จาก HDD 2.5" เป็น 3.5") หลังจากที่ผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกอย่าง Seagate และ WD ขยายกำลังการผลิตในไทย (คาดกำลังการผลิตเพิ่มในปีนี้) และ HTECH ผลิต Cutting tool สำหรับการผลิต HDD ถือเป็นผู้ผลิตใน Supply chain แรกๆของอุตสาหกรรมฯ โดยเราคาดมีส่วนแบ่งตลาดฯ >80% 2) ประเมินแนวโน้มกำไรเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง 4Q60>3Q60?2Q60?1Q60 จาก Utilization rate ที่เกือบเต็มกำลังการผลิตตั้งแต่ 1Q60 และกำลังการผลิตใหม่จะเข้ามาเพิ่มอีก 30% ใน 4Q60 3) คาดกำไรปี 2560 เบื้องต้นไว้ในกรอบ 150 - 160 ล้านบาท คิดเป็น EPS 0.50 - 0.53 บาท และคิดเป็น PE 17.7 - 18.9 เท่า ขณะที่คาดอัตราการเติบโตของกำไรปีนี้ +30% YoY และปี 2561 คาดจะเติบโตอีก 25 - 30% YoY จากกำลังการผลิตส่วนเพิ่มที่เข้ามา 4Q60 4) ประเมินแนวรับ - แนวต้าน 9.1 - 10.6 บาท แนะนำเก็งกำไรในกรอบ (Stop loss 9.0 บาท)
MTLS* (เป้าพื้นฐาน 40 บาท) 1) ประเมินแนวต้านแรกที่ 36.25 บาท หากผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 37.5 บาท แนวรับ 35 บาท 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มกำไรโตเฉลี่ย 37% CAGR 2559 - 2562 และประเมินว่านโยบายการคุมเข้มสินเชื่อส่วนบุคคล + บัตรเครดิต จะไม่กระทบต่อสินเชื่อประเภทเช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ MTLS*
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มอสังหาฯ (High yield) "Switching theme" จาก SPALI* ไป PSH*, LH*, QH* (Yield >6%) ประเด็นการที่ SPALI* ประกาศงดการจ่ายปันผลสำหรับปี 2560 นั้น เราประเมินเกิดแรง "ขาย" SPALI* เพื่อ Switching เปลี่ยนตัวเล่นไปยังหุ้นกลุ่มอสังหาฯตัวอื่นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับที่สูงแทน (โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่มีนโยบายการลงทุนเน้นหุ้นที่มีปันผล) แนะนำ "เก็งกำไร" PSH*, LH*, และ QH* ที่มีปันผลสูงกว่า 6% ต่อปี
หุ้นมีข่าว
(+) EPG* ลุยตลาดฉนวนหลังคาหวังยอดพุ่ง 5 เท่า (กรุงเทพธุรกิจ) "อีพีจี" ดัน "แอร์โรเฟลกซ์" รุกตลาดฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 50 ล้าน เล็งส่งออกปีหน้า ประเดิมเพื่อนบ้านอาเซียน ก่อนขยายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก มั่นใจรายได้กลุ่มปีนี้โต 12%
(-) แนะคลังลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) "วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ" เผยเสียงส่วนใหญ่ในกรรมาธิการสามัญ พิจารณา พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูก เห็นควรให้คลังปรับลดราคามูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง-อัตราจัดเก็บให้ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมาย หวังช่วยขยายฐานการจัดเก็บ เพิ่มขีดความสามารถและความเต็มใจของผู้เป็นเจ้าของบ้านในการจ่ายภาษีให้รัฐ
(+) THAI* ซื้อเพิ่ม 28 ลำ (โพสต์ทูเดย์) การบินไทยเตรียมชง ครม. ซื้อเครื่องบินเพิ่ม 28 ลำ ปลายปีนี้ เปิดเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ-เวียนนา ร.อ.มนตรี จำเรียง รองกรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ สายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท การบินไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) การบินไทย เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบในหลักการแผนจัดซื้อเครื่องบินใหม่ จำนวน 28 ลำ ในระยะ 5 ปี (2560-2564)
(+) JWD พร้อมออกกองรีทส์ ลุยโลจิสติกส์อาเซียน ยื่นไฟลิ่งสัปดาห์หน้า ขายสินทรัพย์ 1.5 พันล้าน (โพสต์ทูเดย์) JWD ยื่นไฟลิ่งสัปดาห์หน้า ออกกองรีทส์ ขายสินทรัพย์ 3 โครงการ มูลค่า 1,500 ล้าน ระดมทุนสานเป้ารุกโลจิสติกส์อาเซียน นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทมีแผนนำสินทรัพย์ขายให้แก่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า (รีทส์) นั้น
(+) ATP30 คว้างานใหม่ "ออโตลิฟ" เริ่มบุ๊คตั้งแต่ Q4 หนุนรายได้ปีนี้โต 15% (ข่าวหุ้น) "เอทีพี 30" คว้างานรับงานส่งพนักงาน "ออโตลิฟ (ประเทศไทย)" ด้วยรถบัสปรับอากาศจำนวน 21 คัน สัญญาให้บริการ 5 ปี เล็งเริ่มบริการ 21 ก.ย.นี้ และบุ๊ครายได้ไตรมาส 4/60 หนุนรายได้ปีนี้โต 15% รุกขยายต่อสัญญาลูกค้าเก่าต่อเนื่อง คาดได้ข้อสรุปไตรมาส 3/60
(0) S ไฟเขียวจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 400 ล้านหุ้น เล็งระดมเงิน 1,664 ลบ. (ข่าวหุ้น) บอร์ด S ไฟเขียวขายหุ้นเพิ่มทุน PP จำนวน 400 ล้านหุ้น ที่ราคา 4.16 บาท มูลค่า 1,664 ล้านบาท เล็งกำหนดจองซื้อและชำระค่าหุ้น 17 ก.ค.นี้ พร้อมรุกขายหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 180 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณวันที่ 20 ก.ค. 60
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SGF (เป้าพื้นฐาน 0.43 บาท) วานนี้ยืนเหนือแนวเทรนไลน์ขาลงที่ 0.32 บาทได้ รวมทั้งทะลุผ่านแนวเส้นค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 3 - 60 วัน มีโอกาสกลับเทรนจากขาลงเป็นขาขึ้น ประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 0.40 บาท แนะนำ "Let profit run" / สำหรับนักเก็งกำไรสั้น แนะนำ "เก็งกำไร" แนวรับ 0.33 / แนวต้าน 0.36 บาท และ 0.40 บาท ตามลำดับ
ECL (เป้าพื้นฐาน 3.64 บาท ... เป้าสูงสุด Consensus 4.5 บาท) สำหรับนักลงทุนที่ขายล๊อกกำไรสั้นตามที่เราแนะนำไปแล้ว แนะนำให้พิจารณารอซื้อคืนที่แนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน 4.0 บาท ... ประมาณการฯและราคาเป้าหมายของเรายังไม่ได้รวมประเด็น ศูนย์ซ่อมรถ Fix man (เปิดสาขาแรกที่ ถ.นวมินทร์ เดือน ก.ค.นี้) และล่าสุดยอดสินเชื่อ 6M60 คิดเป็น 67.5% ของเป้าสินเชื่อใหม่ทั้งปีในประมาณการฯของเรา
MONO* (เป้าพื้นฐาน 3.9 บาท) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 3.54 - 3.94 บาท (Stop loss 3.5 บาท) และหากผ่านกรอบแนวต้านดังกล่าวประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 4.10 บาท
TAPAC (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 22 บาท แนวต้านแรก 24.3 บาท หากผ่านได้ประเมินขึ้นทดสอบแนวต้าน 28 บาท ... คาดผลการดำเนินงาน Bottom out ใน 2Q60 (ปิดงบ เม.ย. รายงานงบไปแล้ว) จะเริ่มเห็นภาพ Earnings momentum ที่โตเด่นในไตรมาสถัดไป ต่อเนื่อง 2 ไตรมาสติดๆ หลังการรับรู้รายได้จากธุรกิจ อสังหาฯ ใน 3Q60 - 4Q60 (ปิดงบปี ต.ค.)
UNIQ* (เป้าพื้นฐาน 23.3 บาท) ประเมินแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 19.5 - 20.0 บาท โดยมีแนวรับ 18.6 บาท และ 18.4 บาท ตามลำดับ (Stop loss 18.2 บาท)
RATCH* (เป้าพื้นฐาน 63 บาท) ประเมินแนวรับ 51.5 บาท แนวต้าน 55 - 56 บาท (Stop loss 50 บาท) ... PE ยังต่ำเพียง <12 เท่า และ Dividend yield >5% ต่อปี
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
CPALL* แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 80 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรสุทธิของ CPALL ใน 2Q60 จะอยู่ที่ 4.56 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY แต่ลดลง 4% QoQ สมมติฐาน SSSG จะอยู่ที่ -2.0% เนื่องจากหน้าฝนมาเร็วในขณะที่ supplier ก็จัดรายการส่งเสริมการขายน้อยลงและไม่มีมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯประเมิน 3 ปัจจัยที่จะขับเคลื่อนผลประกอบการใน 2H60 ได้แก่ i) การบริโภคที่คาดว่าจะฟื้นตัวใน 2H60 ii) แคมเปญแสตมป์เซเว่น และ iii) การอัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายอย่างหนัก นอกจากนี้ประเมิน CPALL จะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการที่ MAKRO ขยายธุรกิจไปจีน เพราะจะช่วยปลดล็อคข้อจำกัดการขยายธุรกิจไปต่างประเทศของ CPALL
MAKRO แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 42 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรสุทธิของ MAKRO ใน 2Q60 จะอยู่ที่ 1.51 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% YoY แต่ลดลง 7% QoQ สมมติฐาน SSSG จะอยู่ที่ -1.0% ในขณะที่ GPM จะลดลงเหลือ 9.8% จาก 10.1% ใน 1Q60 แต่ดีขึ้นจาก 8.5% ใน 2Q59 แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มการฟื้นตัวของการบริโภคใน 2H60 ก็น่าจะทำให้ผลประกอบการของ MAKRO กลับมาน่าสนใจอีกครั้งทั้งนี้ MAKRO กำลังขยายกิจการเข้าไปในตลาดจีน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่ง platform ของธุรกิจในภูมิภาค
DTAC* แนะนำ "ขาย" เป้าพื้นฐาน 53 บาท รายงานกำไร 2Q60 = 743 ล้านบาท (+224% QoQ, +426% YoY) ดีกว่าคาดที่ 112 ล้านบาท และConsensus คาดที่ 199 ล้านบาท เป็นผลจากต้นทุน และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ต่ำกว่าคาด ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯขึ้นสะท้อนผลประกอบการที่ดีกว่าคาด และปรับเป้าหมายปี 2561 เป็น 53 บาท
นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]