- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 12 July 2017 16:37
- Hits: 868
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรรายตัวที่คาดกำไร 2Q17 แข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ตามคาดโดยจับตูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเริ่มด้วยกลุ่มธนาคารวานนี้เป็นตัวแรกคือ TISCO ขณะที่สถานะนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรและฟิวเจอร์สรวมกันราว 3 พันลบ.และซื้อเพียงเล็กน้อยในตลาดหุ้น
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET ยังคงมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways ต่อเนื่องโดยตลาดยังคงจับตาดูผลประกอบการของกลุ่มธนาคาร ซึ่งวานนี้ TISCO รายงานออกมาเป็นที่แรกและค่อนข้างดีกว่าตลาดคาด ทำให้ตลาดน่าจะสบายใจมากขึ้นต่อธนาคารอื่นที่ๆจะประกาศตามออกมา ส่วนประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามคืนนี้คือการแถลงของประธาน FED ต่อหน้าสภาคองเกรส ขณะที่ประเด็นนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ แผยแพร่ว่าเคยได้รับข้อเสนอข้อมูลที่อ่อนไหวของนางคลินตันจากทางรัสเซียและทำให้เกิดความกังวลในตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ เราคาดว่าส่งผลกระทบจำกัด
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีกำไร 2Q17 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : CK, HANA, IT, KBANK, MTLS
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$412ล้าน นำโดยไต้หวัน US$379ล้าน เกาหลีใต้ US$74ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$2ล้าน ขณะที่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$46ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าตลาดภูมิภาคหลังมีความเสี่ยงด้านการเมืองสหรัฐมากขึ้น แต่ปริมาณการซื้อขายอาจเบาบางลงเพื่อรอการแถลงนโยบายรอบครึ่งปีของประธานเฟด
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> MINT <<
คาดกำไรปกติ 2Q17 +15% Y-Y จาก RevPar โรงแรมที่โตทุกภูมิภาค และธุรกิจอาหารทั้งไทยและจีนที่ทรงตัวได้ดี ส่วน 2H17 ยังสดใสเพราะเป็น High Season และโรงแรมในโปรตุเกสปรับปรุงเสร็จ คาดหนุนกำไรทั้งปี +23% Y-Y
NVDR ซื้อต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 รวม 1.7 พันลบ. ล่าสุดที่ซื้อหนักคือ ก.ย. 15 ถึง มี.ค. 16 (รวม 7 เดือนซื้อไป 2.7 พันลบ.) ราคาหุ้นขึ้น 64% รอบนี้ขึ้นเพียง 18% และ MINT ยัง laggard กลุ่มท่องเที่ยว โดย 2 สัปดาห์นี้ +2% แต่กลุ่ม +7% แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 43 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ครม. อนุมัติรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-โคราช 252.3 ก.ม. วงเงิน 1.79 แสนลบ. หลังจากนี้จะนำเข้า สนช. และลงนามด้านการออกแบบกับจีน คาดก่อสร้างช่วงแรก 3.5 ก.ม. 425 ลบ. ปลาย 4Q17 เป็นบวกกับกลุ่มรับเหมา Top pick ยังเป็น CK ราคาเป้าหมาย 40 บาท
(+) TISCO กำไรสุทธิ 2Q17 +1%Q-Q, +24.7%Y-Yอยู่ที่ 1.51 พันลบ. จากค่าใช้จ่ายตั้งสำรองฯที่น้อยกว่าคาด ส่วน Coverage ratio แข็งแกร่งขึ้น แต่ NPL ก็ขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.41% จาก 2.37% ใน 1Q17 คาดแนวโน้ม 2H17 ทรงตัว H-H คงราคาเป้าหมายที่ 80 บาท Upside เหลือน้อยลงแต่แนะนำซื้อเพื่อปันผล อย่างไรก็ตาม เราเริ่มเห็น CoF และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับขึ้น ซึ่งถ้าแนวโน้มเป็นแบบนี้แบงก์ใหญ่จะดูน่าสนใจกว่าแบงก์เล็ก-กลาง
(+) IRPC เราคาดกำไรปกติ 2Q17 -13% Q-Q, -64% Y-Y เพราะส่วนต่างราคาปิโตรเคมีชะลอ และมี stock loss แต่หากตัดรายการนี้ออก คาดกำไรโตถึง 447% Q-Q และ 16% Y-Y หลังผ่านการหยุดซ่อมบำรุงใน 1Q17 และกลับมาใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น กำไรจะยิ่งเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 2H17 จากการ COD โครงการขยายกำลังการผลิต PP 3 แสนตัน/ปี ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 7.40 บาท
(+) BCH เราคาดกำไรสุทธิ 2Q17 +3.1% Q-Q, +8.7% Y-Y จากฤดูฝนปีนี้ที่มาเร็ว ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นทั้งจากประกันสังคมและผู้ป่วยเงินสด และ รพ. WMC อาจได้เห็น EBITDA เป็นบวกทั้งไตรมาส ทำให้เราปรับกำไรสุทธิปี 2018 เป็นต้นไปขึ้นราว 4-5% ส่งผลให้ราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 16.50 บาท ยังแนะนำซื้อ และเป็น Top pick ของกลุ่ม
(+) BIG จัดงาน BIG PRO DAYS ระหว่าง 10-16 ก.ค. ครั้งนี้จัดเร็วกว่าทุกปี เพื่อกระตุ้นตลาดและตัดหน้าคู่แข่ง ซึ่งแม้จะไม่มีเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ แต่โปรโมชั่นที่แรงสุดในรอบปีน่าจะช่วยกระตุ้นยอดได้ เราคาดกำไร 2Q17 +15-20% Y-Y และจะเร่งขึ้นใน 3Q17 ที่เป็น High Season ยังแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 6.90 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
12 ก.ค. - สหรัฐ: Yellenแถลงต่อสภาคองเกรส
13 ก.ค. - จีน:ดุลการค้า (มิ.ย.)
- เกาหลีใต้:ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- สหรัฐ: Fed Beige Book
14 ก.ค. - สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.),ยอดค้าปลีก (มิ.ย.)
17 ก.ค. - จีน:2Q17 GDP
18 ก.ค. - ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (มิ.ย.), ZEW Survey Expectations (ก.ค.)
19 ก.ค. - สหรัฐ: Housing starts& Building permits (มิ.ย.)
20 ก.ค. - ไทย: ยอดส่งออกรถยนต์
- ญี่ปุ่น: BOJประชุม
- ยูโรโซน: ECBประชุม, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดทรงตัว โดยแม้มีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันและการผลักดันกฎหมายต่างๆ แต่มีประเด็นลบจากการอีเมลระหว่างบุตรชายทรัมป์กับรัสเซียทำให้เกิดความกังวลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง ขณะที่นักลงทุนยังจับตาผลประกอบการ และ การแถลงของเยลเลนช่วงกลางสัปดาห์นี้
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบท่ามกลางการซื้อขายเบาบางเนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนการแถลงนโยบายการเงินของเยลเลนกลางสัปดาห์นี้
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมโดยตลาดจับตากรณีอีเมลของทรัม Jr. และ การแถลงของธนาคารกลางต่างๆ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวแข็งค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 33.99-34.01 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดบวก 0.64 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 45.04 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA ปรับลดการผลิตน้ำมันของสหรัฐในปีหน้าลง 0.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน อีกทั้งภายหลังตลาดปิด API ระบุสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 8.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดไว้เพียง 2.9 ล้านบาร์เรล
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดบวก 1.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,214.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และ ความกังวลด้านการเมืองหลังมีการเผยแพร่อีเมลระหว่างบุตรชายทรัมป์และรัสเซีย
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research