- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 12 July 2017 16:36
- Hits: 716
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Smart Pick
1. สะสม LPN : ราคาปิด 11.50 บาท ราคาเหมาะสม 12.30 บาท
a) Yuanta คาดเกิด Stock Rotation ใน Property หลังวานนี้ SPALI ประกาศงดจ่ายเงินปันผลปี 2560 เป็น Negative Surprise ส่งผลให้ LPN ที่เงินปันผลสูงถึงปีละ 6% มีความน่าสนใจมากขึ้น
b) Presales 1H60 เพิ่มขึ้น +112% yoy เป็น 9.5 พันล้านบาท คิดเป็น 47% ของเป้าหมายปี 2560 ที่ 2.0 หมื่นล้านบาท และจะมีเปิดตัวอีก 5 โครงการใน 2H60 รวม 1.16 หมื่นล้านบาท จึงเชื่อว่า Presales ปี 2560 จะทำได้ตามเป้าหมายของบริษัท
c) คาดกำไรสุทธิปี 2561 เติบโต +25.9% yoy เป็น 2,083 ล้านบาท และเชื่อผลประกอบการปี 2560 ที่จะลดลงเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้แล้ว ขณะที่ Valuation น่าสนใจที่ระดับ PER2561 เพียง 8.1 เท่า
2. สะสม SCB : ราคาปิด 155.50 บาท ราคาเหมาะสมอิง Consensus 164.00 บาท **(ยังไม่ได้อยู่ใน Coverage ของเรา)
a) คาดมีแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารที่ยังไม่รายงานงบ หลังวานนี้ TISCO รายงานงบ สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น ได้แก่ NPL ลดลง -25.7% YoY และ -0.4% qoq ส่งผลให้ Coverage Ratio เพิ่มขึ้นเป็น 172% จาก 1Q60 ที่ 164%
b) SCB จะรายงานงบ 2Q60 ในวันที่ 20 ก.ค. โดย Bloomberg Concensus คาดกำไรที่1.17 หมื่นล้านบาท -8.7% YoY และ -1.8% QoQ เชื่อว่าตลาดไม่ได้คาดหวังต่องบ 2Q60 มากนัก จึงมีโอกาสที่งบจะออกมาดีกว่าคาดการณ์ของตลาดได้เช่นกัน
c) เป็นหุ้น Laggard ในกลุ่มธนาคาร โดย YTD หุ้น SCB เพิ่มขึ้นเพียง +1.9% เทียบกับ SET BANK +6.3% และคาดการณ์เงินปันผล 1H60 หุ้นละ 1.50 บาท
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลงราว 0.2 จุด ปิดที่ 1569.24 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 4 หมื่นล้านบาท โดย SET มีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลดลงราว 1.42% นำโดย CPALL ที่ปรับตัวลดลงราว 2.4% กระทบ SET ราว 1.36 จุด แต่ SET ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นราว 0.79% อาทิ KBANK +1.5% BBL +1.1% และ KTB +0.53% ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้องเพียง 73 ล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ขายติดต่อเป็นวันที่ 4 อีกราว 717 ล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติยังคง Short สุทธิเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันราว 6.5 พันสัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ครม.อนุมัติรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา วงเงิน 1.79 แสนลบ.
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกันรายงานปริมาณน้ำมันดิบในสต๊อกวันที่ 7 ก.ค. ลดลงราว 8.1 ล้านบาร์เรล WoW ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.9 ล้านบาร์เรล
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมเสนอผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ขึ้นเป็นประธาน FED ในวาระต่อไป
ติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของหนึ่งในคณะกรรมการ FED ในวันนี้
ติดตามประธาน Fed แถลงนโยบายทางการเงิน และภาพรวมเศรษฐกิจ ต่อสภา Congress วันที่ 12-13 ก.ค. และการรายงาน Beige Book วันที่ 13 ก.ค.
กลยุทธ์วันนี้
คาด SET INDEX วันนี้ แกว่งตัวออกข้างเช่นเดิม กรอบ 1565-1575 จุด โดยมีแรงพยุงจาก (1) การฟื้นตัวของราคาน้ำมัน Brent และ NYMEX +1.4% หลังจากสถาบันปิโตรเลียมของสหรัฐฯ (API) รายงานสต๊อคน้ำมันดิบลดลงถึง 8.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่ 2.9 ล้านบาร์เรล และ (2) แรงเก็งกำไรงบ 2Q60 กลุ่มธนาคาร หลังจาก TISCO รายงานกำไรดีกว่าตลาดคาดเล็กน้อยราว 4.7%
กลุ่มรับเหมาฯ กลับมาคึกคัก วานนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% หลังจากที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท โดยในช่วง 1-2 เดือนจากนี้ เราคาดว่า จะเห็นการเปิดประมูลของโครงการอื่นๆโดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ เช่น เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ (27 ก.ค.), นครปฐม-หัวหิน (10 ส.ค.), ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร (31 ส.ค.) เป็นต้น เราชอบ UNIQ มากที่สุด จากประสบการณ์ในการรับงานระบบขนส่งทั้งรถไฟฟ้าสายสีแดง, สีเขียว, สีน้ำเงิน และสีส้ม นอกจากนี้ UNIQ ยังมีประสิทธิภาพการทำกำไรเหนือค่ากลุ่มฯ ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงราว 16-18% เทียบกับค่าเฉลี่ยของผู้รับเหมารายใหญ่ที่อยู่ในช่วง 7-10%
กลยุทธ์ Selective Buy หุ้น Domestic Plays โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาฯและธนาคาร ที่เตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาล (Dividend plays) และราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นไม่มาก
Strategist Team
Mayuree Chowvikran
Head of Research
662-680-2577
Padon Vannarat
Senior Strategist
662-680-2578
Piyapat Patarapuvadol
Strategist
662-680-2944
Nutt Treepoonsuk
Assistant Strategist
