- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 07 July 2017 18:15
- Hits: 2554
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> ADVANC, ILINK, IRPC
Stock S R Comment
ADVANC 179.00 180.50 เร่งขยายฐานลูกค้า Fiber
ILINK 15.10 15.50 พร้อมประมูลงานย้ายสายสื่อสารลงดิน
IRPC 5.20 5.40 คาดไตรมาส 2 กำไรดี ค่าการกลั่นยืนเหนือ 7$/bbl
EPS downgraded
EPS downgrade : จากการที่เราเริ่มเข้าสู่ช่วงของการ Preview ผลประกอบการประจำไตรมาส 2/60 ล่าสุดเริ่มเห็นสัญญาณการปรับลดประมาณการเล็กน้อยจากนักวิเคราะห์ในตลาด จนทำให้คาดการณ์ EPS ของ SET Index จาก Bloomberg consensus ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 101.75 และ 112.75 บาท สำหรับปี 2560 และ 2561 ตามลำดับ
มุมมองของเรา : การปรับลดประมาณการเกิดขึ้นใน 2 กลุ่มที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก ได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์และลุ่มพลังงาน ซึ่งการ Downgrade ที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มทำให้ Upside ของ SET Index ยิ่งถูกจำกัดขึ้นไปอีก โดยหากใช้ระดับ Forward PE เฉลี่ยระยะยาวที่ 14 เท่าเป็นฐานการคำนวณ จะทำให้ได้ระดับเป้าหมายดัชนีเพียง 1580 จุดเท่านั้น (อิง EPS ปี 2561) ในส่วนของหุ้นที่มีการถูก Downgrade ประมาณการมากที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาได้แก่ PSTC, XO, MONO, CKP, DEMCO ส่วนหุ้นที่มีการถูก Upgrade มากที่สุดได้แก่ GRAMMY, NOK, RS, PLANB, MCOT
Fund flow : มีสัญญาณเตือนเล็กน้อยในตลาดล่วงหน้า หลังเมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ Short สุทธิไปถึง 16,000 สัญญา ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน นอกจากนั้นในตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติก็ขายสุทธิในระดับ 1,000 ล้านบาทเช่นกัน จนทำให้ล่าสุดเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องมาอยู่ที่ 34.08 บาท/ดอลลาร์ ถือเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
BOJ : ข่าวด่วนเช้านี้ได้แก่การประกาศรับซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จำนวนไม่จำกัดในโครงการ "Fixed-rate Bond Operation" ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ซึ่งการประกาศนี้มีขึ้นหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของญี่ปุ่นกำลังปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากการประกาศเสร็จสิ้น เงินเยนญี่ปุ่นปรับตัวอ่อนค่าลงทันที ถือเป็นปัจจัยบวกที่เกิดขึ้นโดยตรงกับตลาดทุนญี่ปุ่น
NFP : คืนนี้ติดตามการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์เพิ่มขึ้นที่ระดับ 178,000 ตำแหน่ง เรามองว่าหากตัวเลขจริงออกมาไม่ต่ำกว่า 150,000 ตำแหน่ง คาดจะไม่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุมเดือนกันยายนนี้ (Fed เริ่มให้น้ำหนักความสำคัญกับเสถียรภาพในตลาดการเงินมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค)
อย่างไรก็ดี ยังคงยืนยันเช่นเดิมว่าการขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวจะไม่ใช่ปัจจัยกดดันตลาดหุ้นเกิดใหม่แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นสิ่งที่นักลงทุนบางส่วนคาดการณ์อยู่แล้ว ในทางกลับกัน ประเมินปัจจัย Fed มีโอกาสสร้าง Positive surprise ให้กับตลาดเกิดใหม่ได้ หากการลดขนาดงบดุล (Balance sheet) ถูกเลื่อนออกไปจากไตรมาส 4 ซึ่งเป็นกรณีฐานของเรา
กลยุทธ์การลงทุน : คาดการณ์ SET Index ปรับตัว Sideways ต่อไปในกรอบ 1540 - 1600 จุด เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยที่มีแนวโน้มผลักดันดัชนีไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน แนะนำกลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อตามกรอบแนวต้านแนวรับดังกล่าว และถือหุ้นกลุ่มแนะนำต่อไป ได้แก่
1) กลุ่มสาธารณูปโภค เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความผันผวนต่ำและสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระดับสูง เลือก BCPG และ WHAUP เป็น Top pick ของกลุ่ม จากแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ ส่วนหุ้นที่มี Dividend Yield ในระดับสูงและคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลคือ GLOW, EGCO, RATCH
2) กลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็น ได้แก่ กลุ่ม Consumer staples (CPALL, BJC) และกลุ่ม Healthcare (BCH, CHG) ที่มีแนวโน้มทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อต่ำ
3) กลุ่มพลังงาน ที่ราคายังคง Laggard ประกอบกับค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูง เลือก PTT, PTTEP สำหรับกลุ่ม Upstream และ BCP, SPRC, TOP สำหรับกลุ่มโรงกลั่น มองว่าตลาดรับรู้ประเด็น Inventory loss ของกลุ่มในไตรมาส 2/60 ไปพอสมควรแล้ว
แนวรับ 1,558 แนวต้าน 1,582
Today's Event
BPP ลูกหุ้นเข้า 2,543,000 หุ้น
BJC ลูกหุ้นเข้า 926,100 หุ้น
FOCUS ลูกหุ้นเข้า 63,360,021 หุ้น
WIN ลูกหุ้นเข้า 3,265,891 หุ้น
WORK ลูกหุ้นเข้า 289,500 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]