- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 07 July 2017 18:04
- Hits: 2545
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งลงตามปัจจัยภายนอก แต่คงมองเป็นจังหวะสะสม
KGI คาด SET วันศุกร์แกว่งแคบ/ลบเล็กน้อย แรงกดจากปัจจัยภายนอกยังเหลืออยู่ สวนทางปัจจัยเศรษฐกิจภายในที่ยังเป็นบวก (วานนี้ดัชนีฯ ลบกรอบจำกัด หลังแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานหนักกว่าเราคาด) เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ปรับลงค่อนข้างแรง หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเผชิญแรงขายอีกครั้ง ผนวกกับความกังวลต่อการคุมเข้มนโยบายการเงินของยุโรป หลัง ธ.กลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานประชุมครั้งล่าสุด ชี้ว่ากรรมการ ECB ได้พิจารณาการเปลี่ยนแนวนโยบายจาก ‘ผ่อนคลาย’ เป็น ‘เป็นกลาง’ ส่งผลให้บอนด์ยิลด์ของเยอรมันพุ่งแตะระดับสูงสุดรอบ 18 เดือน
อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัย KGI คงมุมมองเดิมว่าปัจจัยลบต่างๆ ข้างต้นมีผลน้อยมากต่อหุ้นไทย เนื่องจาก i) ตลาดหุ้นไทยมีกลุ่มเทคโนโลยีเป็นสัดส่วนน้อยมากต่อมูลค่าตลาดรวม ii) ฟันด์โฟลว์ในตลาดหุ้นไทยบางมากมาหลายปี จึงมีความเสี่ยงต่ำต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินใดๆ ของโลก นอกจากนี้หุ้นพลังงานปรับลงรับราคาน้ำมันที่ต่ำลงแล้ว (อิงการคำนวณจากนักวิเคราะห์ KGI ราคาหุ้น PTTEP* เมื่อวานนี้ สะท้อนราคาเฉลี่ยน้ำมันดูไบปีนี้ที่ 46 เหรียญ ต่ำกว่าราคาตลาดแล้ว) ด้านปัจจัยภายใน ก.คลังส่งสัญญาณปรับเพิ่ม GDP ปี 2560 เข้าใกล้ 4% ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ และผลประกอบการ บจ. ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจ (Economic plays) ... เราคงมุมมองว่าความผันผวนในช่วงนี้ เป็นจังหวะสะสมหุ้นเพื่อเป้าหมายการลงทุนครึ่งปีหลัง โดยความเสี่ยงทางลงรอบนี้ เรามองที่ 1,548 จุด อิงพีอีแบนด์ 15 เท่า (เฉลี่ย 7 ปี – 0.25SD เพื่อสะท้อนความกังวลของตลาดต่อประเด็นสภาพคล่องโลก) และ EPS สิ้นปี 2560 ที่ 103 จุด
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร MONO* / สะสม CPALL*
MONO* (เป้าพื้นฐาน 3.9 บาท) 1) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 3.5 – 3.92 บาท โดยมีแนวรับแรกเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 3.7 บาท (Stop loss 3.5 บาท) หากผ่านกรอบแนวต้าน 3.92 บาทไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 4.1 บาท 2) ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์พรีวิวงบ 2Q60 คาดกำไร 54 ล้านบาท (+134% QoQ, +314% YoY) ผลจากธุรกิจทีวีดิจิตอล (MONO 29) อัตราค่าโฆษณา + Utilization rate ที่เพิ่มขึ้น
CPALL* (เป้าพื้นฐาน 80 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯประเมิน การบริโภคในประเทศจะฟื้นตัวต่อเนื่องจนถึงปีหน้า โดยล่าสุดที่ประชุม กนง ปรับเป้า GDP ปี 2560 ขึ้นเป็น 3.5% (จากเดิม 3.4%) และปรับเป้า GDP ปี 2561 ขึ้นเป็น 3.7% (จากเดิม 3.6%) ... ประเมินหน่วยงานต่างๆจะออกมาทยอยปรับเป้า GDP ขึ้น คาดหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจโดยตรงอย่าง CPALL* จะได้อานิสงส์ 2) ประเมินแนวรับ 62 บาท แนวต้าน 63.75 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 65 – 67 บาท (Stop loss 61 บาท)
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มสินเชื่อ Non-Bank (KTC*, MTLS*, SAWAD*, SGF)
i) KTC* ปรับลงจากประเด็นความกังวลต่อการคุมเข้มสินเชื่อบัตรเครดิต จน Valuation เริ่มน่าสนใจ กรณีเลวร้าย หากเกิด Downside risk ต่อประมาณการกำไรปี 2561 ให้ต้องปรับลดประมาณการฯลง 20% EPS ปี 2561 จะ = 10.6 บาท/หุ้น คิดเป็น PE 10.2 เท่า ดังนั้น แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” ประเมินแนวรับ 103 บาท และถัดไป 100 บาท และแนะนำ “เก็งกำไร” ตามหากทะลุผ่านแนวต้าน 111 บาท ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 120 บาท
ii) MTLS*, SAWAD*, SGF เราประเมินการคุมเข้มสินเชื่อบัตรเครดิตไม่กระทบต่อการปล่อยสินเชื่อ (แบบมีหลักประกัน) ของ MTLS*, SAWAD* และ SGF (รถแลกเงิน) และอาจเป็นบวกต่อดีมานด์สินเชื่อประเภทนี้ ดังนั้นราคาหุ้นที่ปรับลงมา เป็นโอกาสซื้อสะสม
HTECH (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) จาก Company visit i) ประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรม Hard disk drive (HDD) กำลังกลับเข้าสู่ Cycle ขาขึ้นอีกครั้ง โดยจะมุ่งเน้นไปที่ HDD 3.5” (แทนที่ HDD 2.5”) รองรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ การเก็บข้อมูลของหน่วยงาน องก์กรต่างๆ, Datacenter เป็นต้น ล่าสุดผู้ผลิต HDD รายใหญ่อย่าง Seagate และ WD ประกาศขยายกำลังการผลิตในไทย ii) HTECH เป็นผู้ผลิต Cutting tool สำหรับการผลิต HDD (>90% cutting tool ที่ใช้สำหรับการผลิต HDD ใช้ผลิตภัณฑ์ของ HTECH) iii) HTECH ขยายกำลังการผลิตใหม่ +30% เริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ 4Q60 โดยปัจจุบัน Utilization rate เกือบเต็มกำลังการผลิตแล้ว คาดผลการดำเนินงาน 2Q60 – 3Q60 ยังโตเด่น YoY ต่อเนื่อง (อาจทรงตัว QoQ) 2) ในเชิง Valuation Trailing PE ตอนนี้ 20.2 เท่า และหากแนวโน้มกำไรเป็นไปตามคาด เราประเมินกำไรปีนี้ 160 – 170 ล้านบาท คิดเป็น EPS 0.53 – 0.57 บาท/หุ้น คิดเป็น PE 16 - 17 เท่า (ถือว่าไม่แพง หากพิจารณาในมุมของ อัตราการเติบโตของกำไร 36 – 44% YoY) ประเมินแนวรับ 9.0 บาท / แนวต้าน 10.5 บาท (Stop loss 9.0 บาท)
หุ้นมีข่าว
(- CPF*) เมื่อคืนนี้ C.P. Pokphand (0043.HK/43 HK) บริษัทลูกของ Charoen Pokphand Foods (CPF.BK/CPF TB)* (ถือหุ้น 50.43%) ได้เปิดดผยคำเตือนเกี่ยวกับกำไร (Profit warning) ไปยังตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงว่า บริษัทคาดว่าจะรายงานขาดทุนสุทธิราว 10 – 20 ล้านดอลลาร์ สำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุด 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560 โดยมีปัจจัยกดดันหลักมาจากราคาหมูในเวียดนามที่ตกต่ำ (SET) Comment: เรามองข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยทางจิตวิทยาเชิงลบต่อหุ้น CPF โดยตัวเลขคาดการณ์ขาดทุนที่รายงานจะคำนวนได้เป็นส่วนแบ่งขาดทุนมายัง CPF ที่ราว 411-583 ล้านบาท ในไตรมาส 2/60 อย่างไรก็ตาม เราได้รวมความอ่อนแอของธุรกิจหมูในเวียดนามเข้าไปในคาดการณ์กำไรสุทธิ CPF ไตรมาส 2/60 ของเรา ที่ 2.8 พันล้านบาท (-19.6% YoY, +50.2% QoQ) แล้ว
(+) ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานจะได้ข้อสรุปในปีนี้ โดยจะอิงกับการศึกษาความเป็นไปได้ของแผนร่วมทุนระหว่างTHAI* กับ Airbus เพื่อพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุง (MRO) (บางกอกโพสต์) เราเชื่อว่า THAI จะได้ประโยชน์จากโอกาสในการเกิดขึ้นของ MRO ในอนาคต โดย THAI มีผู้เชี่ยวชาญที่สอดคล้องกับกับการดำเนินการอยู่แล้ว วึ่งจะเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ที่มาจากภายนและภายนอกองค์กรหากเกิดขึ้นในอนาคต เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” THAI โดยมีราคาเป้าหมาย 23.85 บาท (อ้างอิง 1.3 เท่าของ P/BV ในช่วงปี 2560-61)
(+) ดันเมกะโปรเจค7แสนล.ดึง30บ.ยักษ์ลงทุนอีอีซี (กรุงเทพธุรกิจ) บอร์ดอีอีซีเคาะ 4 โปรเจคโครงสร้างพื้นฐาน เข้าช่องทาง"อีอีซีฟาสต์แทร็ค" เริ่มลงทุนใน 10 เดือน ไฟเขียวเชื่อม 3 ท่าเรือภาคตะวันออกด้วย รถไฟทางคู่ มูลค่าโครงการเอกชนลงทุนรวมกว่า 7 แสนล้าน ลั่นดึงบริษัทใหญ่ 30 รายลงทุนใน 5 ปีสร้างเม็ดเงินกว่า 5 แสนล้านบาท "อภิศักดิ์"ย้ำหลักการไม่ใช้งบประมาณรัฐ-ให้เอกชนรับความเสี่ยง สคร.วางเกณฑ์พีพีพี สร้างความโปร่งใส
(-) SCB* ยุติขายประกันเจรจา 'เอฟดับบลิวดี' ล่มเรื่องตีมูลค่าธุรกิจ (กรุงเทพธุรกิจ) "อาทิตย์" ปัดตอบเรื่อง ขายหุ้นเอสซีบีไลฟ์ แค่ร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไทยพาณิชย์ยุติขายบริษัทประกันชีวิตให้กลุ่มเอฟดับบลิวดี ยักษ์ใหญ่ประกันฮ่องกงมูลค่าราว 3 พันล้านดอลลาร์ ด้าน"อาทิตย์" ปัดตอบล้มดีลขายหุ้นเอสซีบีไลฟ์ ชี้ที่ผ่านมาไม่เคยพูดถึงการขายหุ้น แต่เปิดโอกาสแลกเปลี่ยนไอเดีย หรือร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์
(+) BANPU* เรียกคืนศรัทธา ย้ำน้ำท่วมจีนไม่กระทบ (ข่าวหุ้น) “บ้านปู” เรียกคืนศรัทธา! ย้ำน้ำท่วมจีนไม่กระทบยอดขาย ชี้ยิ่งหนุนดีมานด์ใช้ถ่านหินพุ่ง เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ย้ำปี 60 ปริมาณขายถ่านหินสูง 45 ล้านตัน พร้อมล็อกราคาขายล่วงหน้า ด้านราคาหุ้นดิ่งไม่เลิก 7 วัน ร่วง 11%
(+) APX เซ็นเชนโรงแรมแมริออท ช่วยบริหารโครงการหรูภูเก็ต (ไทยโพสต์) APX เซ็นสัญญาเชนโรงแรมยักษ์ใหญ่ "แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล" บริหารโครงการ "The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay"
(+) TFD มั่นใจรายได้ปีนี้ฟื้น ผนึกจีนชิงเค้กคอนโดฯ (ไทยโพสต์) TFD มั่นใจผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์ คาดรายได้เข้าเป้า 4,000 ล้านบาท อานิสงส์รัฐผลักดัน EEC ดันยอดขาย เตรียมผุดคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมใจกลางรัชดาฯ มูลค่ากว่า 6,800 ล้านบาท
(+) TAPAC พื้นฐานเปลี่ยนแรงปรับโครงสร้างเป็นโฮลดิ้ง (ทันหุ้น) TAPAC วงในเผยอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างธุรกิจเป็นโฮลดิ้ง คาดแล้วเสร็จปี 61 พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอสังหาในสวีเดนและไทย เล็งแตกไลน์ธุรกิจอื่นเพิ่ม หวังกระจายฐานรายได้ มั่นใจมีเงินทุนเพียงพอ ส่วนปีนี้คาดรายได้โต 50-60% ทำนิวไฮต่อเนื่องทุกปีโบรกเคาะแนวต้าน 24 บาท
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ECL (เป้าพื้นฐาน 3.64 บาท) ประเมินแนวรับ 3.84 บาท แนวต้าน ±4.20 (Trailing stop 3.6 บาท) ... ประมาณการฯและราคาเป้าหมายของเรายังไม่ได้รวมประเด็น ศูนย์ซ่อมรถ Fix man (เปิดสาขาแรกที่ ถ.นวมินทร์ เดือน ก.ค.นี้) และล่าสุดยอดสินเชื่อ 6M60 คิดเป็น 67.5% ของเป้าสินเชื่อใหม่ทั้งปีในประมาณการฯของเราแล้ว มีโอกาสปรับเป้าหมายขึ้น
TAPAC (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 22.5 บาท แนวต้านแรก 24.3 บาท หากผ่านได้ประเมินขึ้นทดสอบแนวต้าน 28 บาท ... คาดผลการดำเนินงาน Bottom out ใน 2Q60 (ปิดงบ เม.ย. รายงานงบไปแล้ว) จะเริ่มเห็นภาพ Earnings momentum ที่โตเด่นในไตรมาสถัดไป ต่อเนื่อง 2 ไตรมาสติดๆ หลังการรับรู้รายได้จากธุรกิจ อสังหาฯ ใน 3Q60 – 4Q60 (ปิดงบปี ต.ค.)
RATCH* (เป้าพื้นฐาน 63 บาท) ประเมินแนวรับ 51.5 บาท แนวต้าน 55 – 56 บาท (Stop loss 50 บาท) ... ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q60 ยังได้แรงหนุนจากอัตราการใช้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าหงสาที่ดีขึ้นต่อเนื่อง + PE ยังต่ำเพียง 11.7 เท่า และ Dividend yield 5.1% ต่อปี (สูงกว่า EGCO* ที่คาดปันผลเฉลี่ย 3.2% ต่อปี)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
INTUCH* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 61.75 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 2Q60 = 2.7 พันล้านบาท (-12% QoQ, -65% YoY) จากผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะอ่อนแอลงทั้งจากธุรกิจ ADVANC* และ THCOM* อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เพราะ Valuation ยังไม่แพง i) เทรดในระดับต่ำกว่า NAV 17.7% (จากราคาปัจจุบันของ ADVANC* และ THCOM*) และ ii) ปันผล 2.6% (สำหรับรอบผลการดำเนินงาน มี.ค. – ส.ค.)
MALEE แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 63 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินราคาหุ้นรับข่าวร้ายทั้งจากประเด็น การปรับระบบการตรวจสอบคุณภาพน้ำมะพร้าวใหม่ทั้งระบบ เพื่อรองรับการผลิต OEM สำหรับมาตรฐานสากล ในอนาคต และข่าวการเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีความหวาน ล่าสุด PE ปรับลงต่ำกว่า 20 เท่า แม้ฝ่ายวิจัยฯจะปรับประมาณการลงสะท้อนข่าวลบต่างๆแล้ว จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘นัยรับ 1567 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1567 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1567-1577 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1567 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1567-1554 จุด
แนวรับวันนี้: 1567/1555 แนวต้านวันนี้: 1573/1577
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]