- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 06 July 2017 17:36
- Hits: 3097
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : แกว่งแคบในกรอบ
Stock of the town : THANA CSP
หุ้นแนะนำพิเศษ : MGT
หุ้นมีข่าว : CPF BANPU ECF BIZ TISCO
ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวแคบเนื่องจากขาดปัจจัยกระตุ้นการลงทุน อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่รีบาวด์ขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก หนุนให้ SET ปิดบวกเล็กน้อยที่ 1,575.02 จุด (+0.91 จุด) ด้วย Vol. 3.4 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -32 ลบ. TFEX Net -508 สัญญา ส่วนตลาดตราสารหนี้ +1,000 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% พร้อมปรับเป้า GDP ปี 2560 เป็น +3.5% ปี 2561 +3.7% ขณะส่งออกปี 60 +5% (เดิมคาด +2.2%) ส่วนการนำเข้า +10.9% (เดิมคาด +7.2%) ส่วนการลงทุนภาคเอกชน +1.7% (ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ +2.4%)
+ ยอดค้าปลีกในยูโรโซนเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกในยูโรโซนเพิ่มขึ้น 2.6%
+ /- ตลาดหุ้น DJ อ่อนตัวลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน และรายงานการประชุมเฟดชี้ว่าอาจจะเริ่มปรับลดงบดุลในเร็วๆนี้ รวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเดือนพ.ค.ลดลง 0.8%
+/- ธปท.เตรียมออกมาตรการควบคุมสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน
- ราคาน้ำมันปรับตัวลงแรงล่าสุด 45.4 US/Barrel หลังกลุ่มโอเปกส่งออกน้ำมันในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 450,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 25.92 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมทั้งข่าวรัสเซียปฏิเสธที่จะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม
+/- Fund Flow ต่างชาติยังคงผันผวนล่าสุดเป็น Net Sell 2 วันราว 8 ร้อยล้านบาท แต่เงินบาทยังแข็งค่าล่าสุด 34 Bath/USD
** เข้าสู่ช่วง Preview งบ Q2/17 กลุ่มธนาคาร คาดกำไรของธนาคารกลุ่มเช่าซื้อจะเติบโตขึ้น ในขณะที่กำไรทั้งกลุ่มธนาคารทรงตัว
ภาวะตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวก/ลบคละเคล้า โดยปัจจัยบวกจากกนง.คงดอกเบี้ยที่ 1.5% และเพิ่มคาดการณ์ GDP รวมถึงตัวเลขการนำเข้า/ส่งออก อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงแรง รวมถึง Fund Flow ต่างชาติที่ยังผันผวนเป็นแรงกดดันต่อทิศทางตลาด ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,570 – 1,585 จุด
กลยุทธ์การลงทุน รอซื้อช่วงอ่อนตัวในกลุ่มที่มีปัจจัยบวก
- กลุ่มที่คาดว่างบ Q2/17 จะเติบโตขึ้น CK BPP BANPU RS LH HARN WICE JWD LIT BIZ MGT ECF BEM
- กลุ่มปันผลครึ่งปีสูง ADVANC INTUCH CSL KKP TCAP LH QH SIRI TTW
หุ้นแนะนำพิเศษ
MGT (ราคาปิด 3.10 บาท ซื้อ ราคาพื้นฐาน 3.47 บาท)
ปี 60 ปรับใช้การตลาดเชิงรุกเตรียมเปิดสาขาในต่างจังหวัด 2 สาขาเพื่อรุกตลาดผู้ผลิตยางพาราในภาคใต้และอีสานในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ได้เพิ่มพนักงานขายจาก 7 คนเป็น 14 คนเพื่อรองรับการเติบโตของยอดขาย และในปี 61 เตรียมเปิดสาขาในพม่าและกัมพูชาเพิ่มเติม
คาดกำไรปี 60 ที่ 52 ลบ. (+58%YoY) โดยได้แรงหนุนจากการตลาดเชิงรุกและลูกค้าอุตสาหกรรมพลาสติกยังคงขยายตัวได้ดีกว่าอุตสาหกรรมอื่น ขณะที่คาดว่าจะสามารถรักษาระดับกำไรขั้นต้นได้ที่ 27%จากลดการขายผ่านตัวแทนและขายผ่านสาขาตัวเอง นอกจากนี้ต้นทุนบริหารจัดการส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ทำให้มี economy of scale เมื่อมีการเพิ่มยอดขาย
หุ้นมีข่าว
(+) BANPU (ราคาปิด 15.90 Bloomberg Consensus 22.82) ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นจากเดือนมิ.ย. (ระดับต่ำสุดที่ 74 ดอลลาร์ต่อตัน) มาอยู่ที่ระดับ 83 ดอลลาร์ต่อตัน +12% ซึ่งเป็นผลบวกต่อราคาขายถ่านหินของ BANPU ที่ยังไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายไว้ 50% ของกำลังการผลิต โดย Bloomberg Consensus คาดผลประกอบการปี 60 อยู่ที่ 9.1 พันล้านบาทเติบโต 444%yoy เพราะราคาถ่านเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี 60 อยู่ที่ 80 ดอลลาร์ต่อตันสูงกว่าราคาถ่านเฉลี่ยในปี 59 ที่ 66 USD/Ton
(+) ECF (ราคาปิด 4.04 ซื้อ ราคาเหมาะสม 5.06) ECF-QTC-VTE ร่วมแบ่งเค้กโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 220 เมกะวัตต์ ของ GEP ที่เมืองมินบู รัฐมาเกวย ประเทศเมียนมา เผย ECF ถือหุ้น 20% QTC ถือหุ้น 15% ส่วน VTE ถือหุ้น 12% และได้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างทั้งโครงการคาดเริ่มการจ่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้ปี 2561(ที่มาทันหุ้น)
ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการปี 60 จะอยู่ที่ 83 ล้านบาทเติบโต 32%yoy เนื่องจากรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าชีวมวล PWGE กำลังการผลิต 7.5 MW (คาดหนุนกำไรปีละ 25 ล้านบาท) ตั้งแต่ 2H60 และในปี 61 ผลประกอบการมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Solar พม่าอีก 100 MW โดยจะทยอย COD 50 MW 1Q61 และอีก 50 MW 3Q61 ตามลำดับ
BIZ (ราคาปิด 4.5 ซื้อ ราคาเหมาะสม 5.13) ใส่เกียร์เดินหน้าเจรจารับงานโรงพยาบาลรัฐ-เอกชนกว่า 8-10 โครงการ มูลค่ารวม 1 พันล้านบาท เดินหน้าศึกษาแตกไลน์สินค้าใหม่กระจายความเสี่ยง พร้อมเปิดทางพันธมิตรร่วมทุนต่อยอดธุรกิจ แย้มเจรจารับงานในกัมพูชาเพิ่ม พร้อมยอมรับมีกองทุนรุมจีบเพียบ (ที่มาทันหุ้น)
ความเห็น ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ 1.55 พันล้านบาทโดยจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 400 ล้านบาทและรับรู้รายได้ในปี รายได้ก้อนใหญ่ในปี 63 อีก 1 พันล้านบาท ซึ่งตั้งแต่ 4Q60 เป็นต้นไปยังไม่มีงานส่งมอบหากบริษัทสามารถเจรจางานใหม่ได้จะทำให้รายได้มีความสม่ำเสมอมากขึ้น เนื่องจากการส่งมอบเครื่องฉายรังสีใช้เวลาเพียง 6-9 เดือนในการรับรู้รายได้ เราคาด 2Q60 จะมีกำไรราว 24 ล้านบาทเติบโต 5 เท่าตัวqoq จากการส่งมอบเครื่องฉายรังสีมูลค่า 170 ล้าน และกำไร 3Q60 จะเติบโตต่อจากส่งมอบเครื่องฉายรักสีให้โรงพยาบาลร้อยเอ็ดและกัมพูชามูลค่ารวม 180-200 ล้านบาท
TISCO (ราคาปิด 72 ซื้อเมื่ออ่อนตัว Bloomberg Consensus 76.88) พร้อมรับโอนธุรกิจรายย่อยจากสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ที่ผ่านมาได้ส่งหนังสือถึงลูกค้าถึงขั้นตอนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งพนักงานร่วมประจำสาขาสแตนชาร์ดฯ 3 เดือน ตามกำหนดรับโอน 1 ต.ค.นี้ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
ความเห็น ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะเห็นสินเชื่อปลายปีเติบโตได้จากธุรกิจสินเชื่อรายย่อยและบัตรเครดิตที่รับโอนมาจากธ.สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ไทย แม้ยอดสินเชื่อ 5M60 หดตัว 3.7% Bloomberg Consensus คาดกำไรทั้งปี 6 พันล้านบาท +20% สำหรับแนวโน้มกำไร 2Q60 มีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเทียบ YoY ทั้งนี้คาดจะประกาศงบฯต้นสัปดาห์หน้า ทั้งนี้กรณีที่ธปท.จะเริ่มใช้มาตรการคุมเข้มสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลราวเดือนส.ค.ทำให้นักลงทุนมีความกังวลต่อการเติบโตของรายได้กดดันราคาหุ้นในช่วงนี้ จึงแนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัวประเด็นลบ AOT (ราคาปิด 47.25 Bloomberg 46.28) กรมธนารักษ์เตรียมเรียกท่าอากาศยานไทย หรือ AOT จ่ายค่าเช่าที่สนามบินสุวรรณภูมิย้อนหลัง 5 ปี เฉพาะส่วนต่างจากค่าเช่าเดิมปีละ 500-800 ล้านบาท ภายในเดือนนี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -1.10 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,478.17 จุด ลดลง 1.10 จุด หรือ -0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,432.54 จุด เพิ่มขึ้น 3.53 จุด หรือ +0.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,150.86 จุด เพิ่มขึ้น 40.80 จุด หรือ +0.67% เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 4% นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งบ่งชี้ว่า เฟดอาจจะเริ่มปรับลดงบดุลในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดตลาดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ตลาดน้ำมัน NYMEX : -1.94 USD/Barrel
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 1.94 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 45.13 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการ หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้น รวมทั้งข่าวที่ว่า รัสเซียได้ปฏิเสธข้อเสนอที่จะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม
Company Visit : CPF (ราคาปิด 24.80 Bloomberg Consensus 33)
ผู้บริหารเปิดเผยว่าแนวโน้มธุรกิจสุกรที่เวียดนามยังตกต่ำต่อเนื่อง จากราคาสุกรเป็นหน้าฟาร์ม ประเทศเวียดนามเมื่อเดือนมี.ค. 60 ลดลงจาก 34,040 Dong/กก. (หรือ 55 บาท/กก.) มาอยู่ที่ 20,849 Dong/กก. (หรือ 30 บาท/กก.) ในเดือน พ.ค. 60 โดยมีสาเหตุหลักจากจีน (ผู้นำเข้าสุกรรายใหญ่) หยุดนำเข้าตั้งแต่ปลายปี 59 ทั้งนี้ 70% ของปริมาณการเลี้ยงสุกรในเวียดนามมาจากรายย่อยที่ไม่ต้องการขายในระดับราคาปัจจุบัน จึงทนเลี้ยงต่อไปเรื่อยๆเพราะต้นทุนต่ำ กอปรกับรัฐบาลยังไม่มีนโยบายพยุงราคา อีกทั้งไม่สามารถเคลื่อนย้ายสุกรไปยังประเทศที่มี Supply ต่ำได้จากกฎหมายควบคุมโรค จึงเกิดเป็นสภาวะ Supply ล้นตลาดต่อเนื่อง
แต่สำหรับธุรกิจ 'ไก่' ยังเห็นการเติบโตต่อที่มีกำไรและขาดทุนลดลงในประเทศที่ไปเปิดตลาดใหม่ ตามการฟื้นตัวของราคาไก่ สำหรับ “กุ้ง” ยังได้รับผลบวกตามฤดูกาลในงวด 2Q60 – 3Q60 นอกจากนี้ ธุรกิจ Bellisio ในสหรัฐฯไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษแล้วในงวด 2Q60 (เกิดขึ้นใน 1Q60)
ความเห็น ธุรกิจสุกรในเวียดนามของ CPF เป็นปัญหาสำคัญสุดที่กดดันผลประกอบการในช่วง 2Q60 และช่วงที่เหลือของปี โดยยังไม่มีแนวโน้มจะคลี่คลายในเร็วๆนี้ จึงต้องติดตามราคาสุกรเป็นของเวียดนามอย่างใกล้ชิดว่าหากมีแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมอาจช่วยคลายความกังวลต่อการเติบโตในปัจจุบัน ทั้งนี้ การเพิ่มทุนที่ XR ไปเมื่อ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา แม้ช่วยลดภาระดอกเบี้ย แต่ส่งผลให้เกิด Dilution Effect ต่อ EPS ให้ลดลงราว 15% อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามแผนการเข้าซื้อธุรกิจหลังฐานะทางการเงินดีขึ้น ว่าสามารถมาชดเชยได้หรือไม่ โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 60 ราว 1.3 หมื่นลบ. (-11.6%YoY) ส่วนแนวโน้มกำไร Q2 มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบ YoY
Analyst – วิลาสินี บุญมาสูงทรง , ชัยยศ จิวางกูร, ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์-ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์