- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 06 July 2017 17:20
- Hits: 1317
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรเป็นรายตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ตามคาด เพราะยังคงไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น โดยยังถูกกดดันจากความกังวลเรื่องขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือ รวมถึงจับตาดูรายงานการประชุม FED ครั้งล่าสุดเกี่ยวกับประเด็นการปรับลดขนาดงบดุล ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดรวมกันราว 1.1 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัวค่อนมาในแดนลบหลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรงกว่า 4% ขณะที่รายงานการประชุม FED ระบุว่ากรรมการหลายคนสนับสนุนให้เริ่มกระบวนการปรับลดงบดุลในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในช่วงปลายสัปดาห์ ได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานเดือน มิ.ย. ของสหรัฐฯ การประชุม G20 รวมถึงการพบปะของผู้นำชาติมหาอำนาจนอกรอบซึ่งน่าจะมีการหารือเกี่ยวกับปัญหาเกาหลีเหนือ ทำให้คาดว่ากระแสเงินทุนต่างชาติยังคงรอความชัดเจนและยังชะลอการไหลเข้า
กลยุทธ์ : แนะนำซื้อหุ้นเป็นรายตัวที่คาดผลประกอบการ 2Q17 แข็งแกร่งและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : CK, HANA, IT, KBANK, MTLS
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$74 นำโดยไต้หวัน US$80ล้าน และอินโดนีเซีย US$22ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออกเล็กน้อย US$1ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$45ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะกดดันการลงทุนในภูมิภาคในวันนี้ตามราคาน้ำมันที่ร่วงลงกว่า 4% เมื่อคืนนี้
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> KKP <<
ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงเป็นโอกาสซื้อเพื่อรับปันผล คาดขึ้น XD งวด 1H17 ช่วงต้น ก.ย. 17 ถ้าจ่ายเท่า 1H16 ที่ 2 บาทต่อหุ้น จะคิดเป็นผลตอบแทน 3% โดยทั้งปีคาดจ่ายไม่น้อยกว่าปีก่อนที่ 6 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนเกือบ 9% ต่อปี
คาดกำไร 2Q17 +5%Q-Q, +24%Y-Y จากสินเชื่อที่โต 5%YTD แรงกว่ากลุ่มที่โตเพียง 1%YTD ขณะที่ 2H17 จะมีการรับรู้งาน IB ทั้ง IPO หุ้นใหญ่และ Thailand Futures Fund รวมถึงกำไรจากการขาย NPA
เดือนที่ผ่านมา ราคา KKP แกว่ง Underperform กลุ่มอยู่ 5% ซึ่งเป็นระดับที่มักฟื้นกลับตามพฤติกรรมช่วง 1 ปีที่ผ่านมาด้วยความน่าจะเป็น 90%
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ราคาน้ำมันดิบลง 4% หลังจากปรับขึ้น 9 วันติดต่อกัน นานสุดในรอบ 5 ปี สาเหตุมาจากความกังวลยอดส่งออกของโอเปก มิ.ย. 17 ที่คาดว่าจะเพิ่ม 450,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 25.92 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นลบต่อกลุ่มพลังาน
(+) คาดกำไรกลุ่มแบงก์ที่ 5.07 หมื่นลบ. ลดลง 1%Q-Q จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ แต่ +3%Y-Y จากต้นทุนทางการเงินและสำรองฯที่ลดลง โดยคาด KKP กำไรดีสุดในกลุ่ม +5%Q-Q, +24%Y-Y ส่วนแบงก์ใหญ่คาด BBL ดีสุด +3%Q-Q, +20%Y-Y กำไรของทั้งกลุ่มจะดีขึ้นใน 2H17 จากการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงคาด NPL จะค่อยๆผ่อนคลายลง แนะนำ Overweight โดย Top Pick ยังเป็น KBANK ราคาเป้าหมาย 240 บาท
(0) CPF คาดกำไร 2Q17 ที่ 3,017 ลบ. +28%Q-Q จากปริมาณไก่ส่งออกที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจกุ้งฟื้น และอาการสัตว์ที่ปรับตัวลง แต่เมื่อเทียบ Y-Y คาด -36% จากธุรกิจหมูที่แย่ทั้งไทยและเวียดนาม โดยคาดกำไรกลับมาโดดเด่นใน 2H17 เพราะ 3Q17 เป็น High Season และคาดธุรกิจหมูในเวียดนามจะขาดทุนลดลง ส่วนดีลซื้อกิจการ 2 แห่ง แม้ขนาดไม่ใหญ่แต่จะเป็นใบเบิกทางสู่ยุโรป ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 32 บาท
(-) DTAC คาดกำไร 2Q17 -27%Q-Q, -71%Y-Y จากการเสียส่วนแบ่งตลาด และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการขยายโครงข่าย ขณะที่ การได้คลื่น 2300 MHz ลดความเสี่ยงในระยะยาวบางส่วน แต่ยังจำเป็นต้องได้คลื่น 1800 MHz ที่ประมูลปีหน้า เราปรับลดกำไรปี 2017-2018 ลง แต่ปรับเพิ่มกำไรตั้งแต่ปี 2019 ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 40 บาท ยังต่ำกว่าราคาตลาด แนะนำขาย
(0) SAPPE คาดกำไร 2Q17 ฟื้นแรง +180%Q-Q จากฐานที่ต่ำและตลาดอินโดนีเซียที่กลับมาปกติ แนวโน้ม 2H17 จะดีขึ้นต่อเนื่องจากการขยายตัวของตลาดจีน เรายังคาด SAPPE ได้รับผลลบจากภาษีน้ำตาลจำกัด แต่ Upside เหลือเพียง 6% ลดคำแนะนำเหลือเพียงเก็งกำไร
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
6-ก.ค. - ไทย:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.)
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (มิ.ย.)
7 ก.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตร (มิ.ย.)
10 ก.ค. - จีน:อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.)
- สิงคโปร์: 1Q17 GDP
12 ก.ค. - สหรัฐ: Fed Beige Book
13 ก.ค. - จีน:ดุลการค้า (มิ.ย.)
- เกาหลีใต้:ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
14 ก.ค. - สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.),ยอดค้าปลีก (มิ.ย.)
20 ก.ค. - ไทย: ยอดส่งออกรถยนต์
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดผสมในกรอบแคบ โดยแม้มีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มเทคโนโลยี แต่การขยับบวกถูกจำกัดจากราคาน้ำมันที่ดิ่งลง 4% และ รายงานของ FOMC ที่ระบุว่าอาจปรับลดขนาดงบดุลเร็วๆนี้ อีกทั้ง ตลาดส่วนใหญ่ยังติดตามความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย โดยแม้รายงานยอดค้าปลีกจะปรับเพิ่มขึ้น แต่การขยับขึ้นยังถูกจำกัดจากหุ้นกลุ่มพลังงาน และ ประเด็นการเมืองทั้งเกาหลีเหนือ และ กาตาร์
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดค่อนไปทางลบตามราคาน้ำมัน และ แนวโน้มที่เฟดอาจปรับลดขนาดงบดุลเร็วๆนี้
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางอ่อนค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 33.99-34.02 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดลบ 1.94 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 45.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับลดลงจากช่วงก่อนปรับเพิ่มขึ้น 9 วันติดต่อกันยาวนานสุดในรอบ 5 ปี โดยสาเหตุหลักมาจากความกังวลตัวเลขการส่งออกของโอเปกเดือนมิ.ย.ที่คาดว่าจะเพิ่ม 0.45 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็น 25.92 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดบวก 2.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,221.70 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยปัจจัยบวกมาจากความตึงเครียดในกรณีเกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป อย่างไรก็ตาม การขยับบวกถูกจำกัดจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research