- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 05 July 2017 17:34
- Hits: 9972
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> ANAN, DTAC, SVI
Stock S R Comment
ANAN 5.15 5.35 Presales แกร่ง ทำเลตอบโจทย์
DTAC 51.00 53.50 ผนึก Line Mobile ชิงส่วนแบ่งตลาดคืน
SVI 6.05 6.50 ปรับเป้าส่งออกโต 5%
BANK vs. ENERG
Missile effect : ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงส่วนใหญ่เมื่อวานนี้ หลังจากเกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งแรก สร้างแรงกดดันและความกังวลต่อนักลงทุน จนทำให้มีแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา และโยกย้ายเงินเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ชั่วคราว อาทิ เงินเยนและทองคำ
FOMC : ติดตามการเผยแพร่รายงานการประชุม Fed (FOMC Minute) รอบเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาในช่วงดึกคืนนี้ ซึ่งจะต้องติดตามว่าในที่ประชุมดังกล่าว คณะกรรมการส่วนใหญ่มีมุมมองต่อแนวโน้มการเข้มงวดนโยบายการเงินในช่วงถัดไปอย่างไรบ้าง ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ
BANK : จากการ Preview ผลประกอบการไตรมาส 2/60 ของธนาคารขนาดใหญ่ 3 แห่ง (BBL, KBANK, SCB) พบว่ามีแนวโน้มอ่อนตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากได้รับแรงกดดันจาก NIM ที่อ่อนตัวลงตามการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ที่เกิดขึ้น นอกจากนั้นค่าใช้จ่ายสำรองหนี้มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูง จากปัญหาคุณภาพหนี้ที่เป็นปัจจัยกระทบทั้งกลุ่ม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจเป็นตัวจำกัด Upside ของกลุ่มธนาคารในช่วงถัดไปได้ มองหากต้องเลือกลงทุนในกลุ่มนี้ กลุ่มธนาคารเช่าซื้อยังคงมีแนวโน้มที่ดีกว่า เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง ในขณะที่คุณภาพหนี้ของสินเชื่อรถยนต์ทั้งมือหนึ่งและมือสองต่างอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้เราไม่มีความกังวลว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญจะเป็นปัจจัยกดดันในปีนี้ เลือก TCAP เป็น Top pick ของกลุ่ม แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 55 บาท
BANK vs. ENERG : จากแนวโน้มของกลุ่มธนาคารที่ยังไม่เห็น Catalyst เด่นชัดในช่วงสั้น ประกอบกับเป็นกลุ่มที่มักจะได้รับแรงกดดันในช่วงเงินเฟ้อต่ำ ซึ่งเป็นภาวะที่ทั้งการบริโภคและการลงทุนอ่อนแอ ทำให้เราประเมินว่าหากต้องเลือกลงทุนในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ณ เวลานี้ กลุ่มพลังงานถือเป็นกลุ่มที่น่าสนใจมากกว่า จากการที่เราประเมินว่า Downside risk ของราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับจำกัด และค่าการกลั่น GRM ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยของปีนี้ ล่าสุด Performance ของดัชนี BANK/ENERG อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน สะท้อนว่า Upside ในระยะสั้นของกลุ่มธนาคารเริ่มจำกัดเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มพลังงาน (ดูรูป)
กลยุทธ์การลงทุน : คาดการณ์ SET Index ในเดือนกรกฎาคมปรับตัว Sideways ต่อไปในกรอบ 1540 - 1600 จุด เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยที่มีแนวโน้มผลักดันดัชนีไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน โดย Upside ยังคงจำกัดจาก Valuation ส่วน Downside ยังคงจำกัดจากทิศทาง Fund flow ที่ยังไม่เห็นสัญญาณไหลออก แนะนำกลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อตามกรอบแนวต้านแนวรับดังกล่าว
สำหรับกลุ่มหุ้นที่ยังคงแนะนำถือต่อไปได้แก่
1) กลุ่มสาธารณูปโภค เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความผันผวนต่ำและสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระดับสูง เลือก BCPG และ WHAUP เป็น Top pick ของกลุ่ม จากแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่คาดหวัง Capital gain ด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนหุ้นที่มี Dividend Yield ในระดับสูงและคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลคือ GLOW, EGCO, RATCH เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่เน้น Capital gain แต่อยากรับเงินปันผลในระดับสูง
2) กลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็น ได้แก่ กลุ่ม Consumer staples (CPALL, BJC) และกลุ่ม Healthcare (BCH, CHG)
3) กลุ่มพลังงาน ที่ราคายังคง Laggard ล่าสุดราคาน้ำมันดิบปรับตัว Rebound ขึ้นมาตามที่เราคาดไว้แล้ว ประกอบกับค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูง จึงน่าจะเป็นผลบวกต่อทั้งกลุ่ม Upstream (PTT, PTTEP) และกลุ่มโรงกลั่น (BCP, SPRC, TOP) มองว่าตลาดรับรู้ประเด็น Stock loss ของกลุ่มในไตรมาส 2/60 ไปพอสมควรแล้ว
แนวรับ 1,566 แนวต้าน 1,587
บทวิเคราะห์วันนี้
ANAN (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.70 บาท) Presales โดดเด่น โครงการใหม่ Sold Out!
KBANK (ถือ ราคาเป้าหมาย 192 บาท) คาดผลการดำเนินงาน 2Q60 ไม่เด่น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail : [email protected]
