- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 04 July 2017 17:56
- Hits: 2744
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,575-1,590
SET ไม่ผ่านแนวต้าน 1,590 จุด แรงขายท้ายตลาดกดดันปิด 1,578.12 จุด -0.28% ด้วยปริมาณการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้าน ต่างชาติซื้อ 3 พันล้านบาท
เรามองอย่างไร:
แม้ SET ดูอ่อนแอกว่าคาด แต่ momentum ยังไม่เสียหาย ขณะที่การRebalance SET50/100 ปลายตลาดวันนี้อาจส่งผลหุ้นรายตัวผันผวนเพิ่มขึ้น แต่ยังมองเป็นโอกาสซือกลุ่มหุ้นที่ถูกเพิ่มใน SET50/100 ที่มีพื้นฐานดี กำไร 2Q17 เติบโตสูงอย่าง MTLS EA TISCO WORK ต่อไป ขณะที่หุ้นที่ถูกถอดออกจากดัชนี SET50 อย่าง WHA แม้มีแรงขายเข้ามา แต่ด้วยแนวโน้มกำไร 2Q17 ที่คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่ง และระยะยาวได้ผลดีจากการพัฒนา EEC จะเป็นโอกาส "ซื้อ"
ทำอะไรดี:
เข้าสู่ earning season และจ่านปันผลระหว่างกาล:-
1. "ซื้อ" หุ้นกำไร 2Q17 เติบโตดี: MTLS (ขยายสาขา หนุนสินเชื่อโต) SAWAD EA LIT WORK WHA และ SEAFCO (ฐานกำไรต่ำในปีก่อน)
2. "ซื้อ" หุ้นจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล: KKP ปันผลสูง 2 บาท/หุ้น หรือ 2.8% และทั้งปี 8.4%, CPNRF คาดปันผล 6.2% ปีนี้ ขณะที่การแปลงเป็น REIT ปีหน้าเป็น upside risk ต่อปันผลเพิ่มเป็น 8.5% และ SPRC ปันผลทั้งปี 8.3% ค่าการกลั่นสูง, MC คาดปันผล 1H17 2.7% และทั้งปี 6%
Tactical Portfolio (1-3 months):
"ถือ" EA ESSO KKP LIT MTLS SAWAD SUSCO THANI WORK และเงินสดในสัดส่วน 10% (ไม่เปลี่ยน)
Fundamental:
IMPACT : "ขาย" พื้นฐาน 10.8 บาท (เดิม 11.1).การไว้ทุกข์เนื่องจากเหตุการณ์เศร้าโศกภายในประเทศส่งผลกระทบต่อการจัด event ในช่วงปลายปี และการฟื้นตัวที่จำกัดปีนี้ ทำให้เราปรับกำไรลง 9% ด้วยผลตอบแทนจากปันผล 5-6% ถือว่าไม่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ DIF 6.7% และ CPNRF 6.2%
Pathumwan Corner : จากการศึกษา Back test พอร์ตจำลองซื้อหุ้นกำไรเติบโตสูง ให้ผลตอบแทนสูง 28% ต่อปี ดีกว่า SET ที่ให้ผลตอบแทน 11.6% ต่อปี...เราเลือกหุ้นเติบโตสูง (Earnings growth) ที่มีความสามารถในการทำกำไรสูง (ROE) อย่าง RS AMATAV TPCH WORK MTLS EA BEAUTY SAWAD SEAFCO และ CPN สำหรับการลงทุน 3Q17 โดยจะมีการปรับพอร์ตเลือกหุ้นใหม่ทุกๆ ไตรมาส
Today's News:
US GDP +1.4%: สูงกว่าที่คาดการณ์ครั้งก่อนที่ 1.2% อย่างไรก็ดีแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกดดัน Dow Jones ปรับลดลง -0.78% เมื่อคืนที่ผ่านมา
Technical Story:
Technical SET range: 1,568-1,590
แกว่งตัวแต่ยังมีลุ้นขึนต่อ: (รายงาน The Technical Story)
SET ทดสอบไม่ผ่าน 1,590 จุด มีแรงขายออกมาช่วงปลายตลาดกดหลุด 1,580 จุด มีแนวรับถัดไปที่ 1,573 และ 1,568 จุด ส่วนกรณีฟื้นตัวรีบาวด์ขึ้นมีด่านที่ 1,586 จุด และถัดไปที่แนวต้านสำคัญ 1,590 จุด
หุ้นแนะนำ:
SCB รับเพิ่มเมื่อทะลุ 158 บาท เป้าหมาย 162 และ 165 บาท
STEC รอรับเพิ่มที่ 26.75 บาท เป้าหมาย 29 บาท
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
"ถือ" Long S50U17 เป้าหมาย 998 / 1010 จุด.Trailing Stop 988
BlockTrade CPALL เป้าหมาย 64 / 65.75 บาท..Leverage 23 เท่า
TradeCode: Buy >CPALL, SGP, ITEL
(ดูรายงาน Trade Code)
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : Tactical portfolio ให้ผลตอบแทน -0.8% ต่ำกว่า SET ที่ให้ผลตอบแทน +0.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย EA ปรับสูงขึ้นดีที่สุดในพอร์ต หรือ +2.2% ขณะที่กลุ่มหุ้น Micro Finance และ Leasing ที่ปรับสูงขึ้นก่อนหน้านี้ อย่าง LIT SAWAD THANI อ่อนตัวลงมาเป็นตัวกดดันผลตอบแทนของพอร์ตในสัปดาห์ที่ผ่านมา...อย่างไรก็ดีเรายังมองแรงกดดันเงินเฟ้อที่ต่ำจะเป็นปัจจัยบวกต่อต้นทุนการเงินของกลุ่มหุ้น Micro Finance และ Leasing ต่อไปในช่วง 2H17 และคาดว่าจะทำให้ให้เหล่านี้หั้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด (Outperform) ต่อไป ทั้งนี้เราแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 9 ตัว ต่อไป ได้แก่ EA ESSO LIT MTLS KKP SAWAD SUSCO THANI และ WORK
"ซื้อ" KKP ปันผลสูง 2.7% สำหรับงบครึ่งปี และทังปี 8.4%
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA : ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
BEAUTY : เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
CPALL : ธุรกิจร้าน 7-Eleven ที่เติบโตสูง 22% ต่อปีช่วง 2016-19F จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายสาขาเดิม การขยายสาขาที่ยังไม่อิ่มตัวและการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น
DTAC : มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA : เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KCE : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
SPALI : ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยที่เติบโตต่อเนื่องโดยมียอด presales และรายได้ทำจุดสูงสุดใหม่ โดยกิน market share เพิ่มทั้งในกทม.และต่างจังหวัด
STEC : ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
SUSCO : เริ่มรุกขยายปั้มน้ำมันและเปิดพื้นที่ให้ร้านค้าเช่ามากขึ้น ROE อยู่ในช่วงขาขึ้น คาดกำไรโต 19-26% ในปี 2017-19F
WORK : ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล, CFA , [email protected], +66 2617 4991
วิชนันท์ ธรรมบำรุง [email protected], 02-617 4979