- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 18 August 2014 16:09
- Hits: 2162
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ปรับพักกรอบจำกัด และยังลุ้นแกว่งบวกขึ้นใหม่ได้ จึงเน้นถือ!
กลยุทธ์ : เราคาดว่าแม้ SET จะยังมีจังหวะแกว่งผันผวนไปบ้าง แต่กรอบลบจำกัด ขณะที่ยังมีลุ้นแกว่งบวกขึ้นต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะทำจุดสูงสุดใหม่แถว 1600 จุด(+/-) ได้ในช่วงถัดไป ดังนั้น SET ลบจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าซื้อเพิ่มได้ และเน้นถือต่อเนื่อง จนกว่าดัชนีจะเข้าใกล้ 1600 จุดหรือสูงกว่าขึ้นไป จึงจะพิจารณาหาจังหวะขายทำกำไรกันอีกครั้ง
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SIRI, HMPRO, BLA(buy back)
แนวโน้ม : ตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมาปรับตัวลงกันอีกครั้ง หลังจาก SET ปิดทำการเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนเกิดความวิตกกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซีย ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดเป็นลบด้วย ดังนั้นแม้ว่า SET จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนอีกครั้งในช่วงบ่ายวันศุกร์ แต่ต้นสัปดาห์นี้ก็ยังมีสิทธิแกว่งตัวผันผวนและมีจังหวะปรับย้อนลบให้เห็นอีกได้ อย่างไรก็ตามกรอบการปรับลง FSS ยังคาดว่าเป็นเพียงกรอบแคบๆ เพราะตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ไม่ได้ปรับตัวลงรุนแรงแต่อย่างใด ขณะที่ค่าเงินบาทก็ยังแกว่งตัวในด้านแข็งค่าอยู่ ประกอบกับเราคาดว่าสัปดาห์นี้จะยังมีแรงซื้อเก็งกำไร เพื่อลุ้นการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี รวมถึงการคาดการณ์รายชื่อ ครม. และแนวนโยบายที่จะใช้ในการบริหารประเทศในช่วงถัดไปได้ ดังนั้น FSS จึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อต่อได้โดยเฉพาะช่วงตลาดเป็นลบ เพื่อถือไว้ลุ้นโอกาสที่ดัชนีจะแกว่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ของรอบแถว 1600 จุดหรือใกล้เคียงในช่วงถัดไปได้ตามคาด
แนวรับ 1543-1540 , 1536-1530 จุด แนวต้าน 1550-1553 , 1556-1560 จุด
Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมาพลิกกลับมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาค US$898 ล้าน จากที่ไหลออกกว่า US$514 ล้านเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนศุกร์ที่ผ่านมาไหลออกในปริมาณที่เบาบางมาก โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย US$165 ล้าน ไทย US$15 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$11.6 ล้าน และเวียดนาม US$2 ล้าน แต่ซื้อในตลาดหุ้นไต้หวัน US$45 ล้าน ขณะที่เกาหลีใต้ปิดทำการ ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบาต่อเนื่อง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) สภาพัฒน์จะรายงาน GDP 2Q14 เช้านี้ Consensus คาดว่าจะทรงตัว Y-Y ฟื้นจาก 1Q14 ที่หดตัว 0.6% Y-Y เชื่อว่าผลกระทบต่อตลาดมีจำกัด ทั้งนี้ ภาพรวมทั้งปีของเศรษฐกิจ ธปท.คาดโต 1.5% ปีนี้และ 5.5% ในปีหน้า
(+) ประชุมสนช.วันนี้พิจารณางบฯและปลายสัปดาห์เลือกนายกรัฐมนตรี หลังมีการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งประธานและรองประธานสนช.แล้ววานนี้ วันนี้สนช.จะประชุมเพื่อพิจารณาร่างงบประมาณปี 2558 วาระแรก คาดใช้เวลาวันเดียวเพราะเป็นการรับหลักการ หลังจากนั้นจึงตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาในวาระ 2 และ 3 ประมาณ 16 ก.ย. เพื่อประกาศใช้ทันวันที่ 1 ต.ค. และปลายสัปดาห์นี้น่าจะมีประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ความคืบหน้าทางการเมืองจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นโดยรวมโดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องคือกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK, STEC, SEAFCO) และธนาคารขนาดใหญ่ (KTB)
(0) กลุ่มการแพทย์ กำไรปกติ 2Q14 ของทั้งกลุ่มลดลง 21% Q-Q แต่เพิ่มขึ้น 19% Y-Y ส่วนใหญ่เป็นไปตามคาด ยกเว้น BCH ที่ต่ำกว่าคาดแม้จะพลิกมามีกำไรโต Y-Y ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาสก็ตาม เพราะต้นทุนของโรงพยาบาลใหม่ WMC ที่ยังสูง ซึ่งทำให้เราปรับกำไรในปี 2014 ลง 5% แต่คงประมาณการปี 2015 ส่วน BGH, BH, VIBHA เราคงประมาณการกำไรปี 2014-15 และพบว่ากำไรของทั้งกลุ่มในปีนี้เติบโต 18% และปี 2015 เพิ่ม 20% สูงเป็นลำดับต้นๆของตลาด อย่างไรก็ตาม แม้เราจะชอบกลุ่มการแพทย์แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นจนใกล้เต็มมูลค่าของปี 2015 แล้ว เราจึงแนะนำถือ หรือซื้อเมื่ออ่อนตัวสำหรับ BGH, BH, VIBHA ส่วน BCH ปรับคำแนะนำเป็นขาย จากเดิมถือ เพราะราคาหุ้นสะท้อนการ Turnaround ไปแล้ว
(+) SAWAD กำไรสุทธิใน 2H14 จะสดใสอย่างมาก เราคาดกำไร 3Q14 เพิ่ม 9% Q-Q และ 18% Y-Y เราคงประมาณการกำไรปีนี้ แต่ปรับเพิ่มกำไรปี 2015 ขึ้น 5% เป็นเติบโต 28% Y-Y จากการรุกขยายสาขากว่าเดิม บริษัทตั้งบ.บริหารสินทรัพย์ศรีสวัสดิ์ เพื่อติดตามหนี้และในอนาคตอาจมีการซื้อหนี้เสียมาบริหาร คาดเริ่มต้นปีนี้และจะเห็นผลบวกชัดเจนใน 3-5 ปีข้างหน้า และปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อความคล่องตัว ส่วนการซื้อกิจการยังอยู่ในแผน แผนดังกล่าวทำให้ SAWAD ยังเป็นบริษัทที่เติบโตสูงใน 3-5 ปีข้างหน้า เราปรับมาใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 25 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมขาย
(+) TMT เราปรับลดประมาณกำไรปี 2014 ลง 14% เป็น 409 ล้านบาท ลดลง 7% Y-Y จากกำไรใน 2Q14 ที่แย่กว่าคาด (-50% Q-Q, +6% Y-Y) รวมทั้งแนวโน้มการฟื้นตัวในงวด 2H14 ที่อาจช้ากว่าคาด เพราะความต้องการใช้เหล็กยังกระเตื้องขึ้นไม่มากนัก แต่คาดว่าสถานการณ์ในปี 2015 จะเริ่มดีขึ้น เราคาดว่ากำไรในปี 2015 จะเติบโต 16% Y-Y แม้ระยะสั้นจะไม่สดใสนัก แต่บริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและปัจจุบันซื้อขายที่ PE เพียง 10 เท่าในปี 2015 เราจึงยังคงแนะนำซื้อ ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 13 บาท
(+) LH กำไรปกติใน 2Q14 ที่ดีกว่าคาด (+38% Q-Q, +18% Y-Y) ทำให้เราปรับกำไรปกติปีนี้ขึ้น 3% และคงประมาณการปี 2015 ที่คาดโต 8% Y-Y และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 12 บาท ยังคงแนะนำซื้อ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดในแดนลบ 50.67 จุด โดยสถานการณ์ความไมม่สงบระหว่างรัสเซียและยูเครนกลับมาเป็นประเด็นกดดันตลาดอีกครั้ง
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนลบเช่นกันหลังกองกำลังของยุเครนได้โจมตีและสลายกองกำลังของรัสเซียได้บางส่วน ซึ่งทำให้ตลาดกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดระหว่าง 2 ชาติมากขึ้น
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้สามารถปรับตัวในกรอบแคบๆ โดยนักลงทุนยังจับตาดูสถานการณ์การเมืองระหว่างยุเครนกับรัสเซียอย่างใกล้ชิด
ค่าเงินบาทเริ่มมีจังหวะแกว่งตัวออกข้างได้บ้าง โดยล่าสุดมาแกว่งตัวในกรอบ 31.81-32.96 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 1.77 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 97.35 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เช้านี้เริ่มปรับตัวลดลงบ้างหลังมีรายงานว่า Supply จากลิเบียเพิ่มขึ้น รวมถึงความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซียเริ่มผ่อนคลายลงบ้าง
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ร่วงลง 9.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,306.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และหลุดต่ำกว่าระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ ในเช้าวันนี้จากแรงขายทางเทคนิครวมถึงการรีบาวด์ของตลาดหุ้นเช้านี้หลังจากถูกกดจากประเด็นระหว่างรัสเซียและยุเครนเมื่อสัปดาห์ก่อน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
18 ส.ค. - ไทย: 2Q14 GDP (ตลาดคาด +0% Y-Y, +0.7% Q-Q), ยอดขายรถ (ก.ค.)
19 ส.ค. - ไทย: TAKUNI เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 1.60 บาท), สนช.ประชุมเตรียมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2558
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits, เงินเฟ้อ (ก.ค.)
21 ส.ค. - จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ส.ค.)
- ฟิลิปปินส์: ตลาดหุ้นปิดทำการ วัน Ninoy Aquino Day
- สหรัฐ: รายงานการประชุม FOMC วันที่ 29-30 ก.ค., ยอดขายบ้านเก่า (ก.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (ส.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)
22 ส.ค. - ไทย: สนช.ประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี
25 ส.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ก.ค.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ก.ค.)
26 ส.ค. - สหรัฐ: ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ก.ค.), S&P/CaseShiller Home Price Index (มิ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852