- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 28 June 2017 18:52
- Hits: 2149
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'เลือกซื้อ/ถือเหนือ 1580'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : GFPT (จากถือเป็นซื้อ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปิดทรงตัว (+0.84 จุดปิด 1586.45) โดยเป็นการเลือกซื้อรายบริษัท ต่างชาติกลับมาเป็นกลุ่มที่ซื้อสุทธิ 1.7 พันล้านบาท สถาบันในประเทศที่ซื้อมาหลายวันเป็นขายสุทธิ 888 ล้านบาท รายย่อย&พอร์ตบล.ขายสุทธิ
# ปัจจัยต่างประเทศ : วุฒิสภาสหรัฐเลื่อนโหวตร่างกม.ประกันสุขภาพ (อเมริกันเฮลธ์แคร์) ออกไปเป็นหลัง 4 ก.ค. ทำให้ตลาดกังวลว่ามาตรการของทรัมป์ซึ่งรวมถึงการปฎิรูปภาษีจะไม่ราบรื่นนัก ดัชนี DJIA ดิ่ง 98.89 จุด ค่าเงิน US$ อ่อนฮวบ 0.96% ภายในวันเดียว สำหรับสุนทรพจน์ของประธานเฟดที่ลอนดอนเมื่อคืน แทบไม่มีผลต่อตลาดเพราะไม่ได้ให้ Guidance เกี่ยวกับดอกเบี้ยอย่างที่ประเมินไว้ ด้านราคาน้ำมันดิบเพิ่มเพราะหวังว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลง แต่น่าจะเป็นชั่วคราวเนื่องจากความกังวลอุปทานสูงยังคงกดดัน
# ปัจจัยในประเทศ : สหรัฐคงอันดับเรื่องการค้ามนุษย์ของไทยไว้ใน Tier-2 ถูกจับตา ระบุไทยพยายามแก้ปัญหาแต่ยังไม่ถึงมาตรฐานขั้นต่ำ ด้านเศรษฐกิจ คาดว่าจะดีขึ้นใน 2H60 โดยผู้บริหารระดับสูง KBANK และ BBL ต่างเชื่อว่าสินเชื่อ 2H60 จะโตดีขึ้นจากโครงการรัฐ ด้าน NPL ratio อยู่ในเกณฑ์ทรงตัว-ขยับขึ้นต่อแต่ไม่รุนแรง คาด Window dressing ยังจะช่วยพยุงตลาดสัปดาห์นี้ไม่ให้ร่วงแรง
+ GFPT : ปรับคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 23 บาท ทั้งนี้ทางการคาดจะควบคุมอหิวาต์ไก่ที่เกิดขึ้นในจ.สุโขทัยได้ขณะเดียวกันไก่ของ GFPT เลี้ยงในฟาร์มปิดของตัวเองทำให้ความเสี่ยงต่ำมาก แนวโน้มกำไรแกร่ง การส่งออกไก่สดแช่แข็งและไก่แปรรูปส่งออกโตสูงในปีนี้ มาร์จิ้นดีเพราะราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ไม่สูง ส่วนแบ่งกำไรจากบ.ร่วมเพิ่มดี การอ่อนตัวของราคาหุ้นเป็นจังหวะลงทุน
+ COM7 : เข้าซื้อ BAF 30% (ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์) ร่วมกับ SYNEX & รายอื่น ส่วนของ COM7 ลงทุน 268 ล้านบาท (ซื้อที่ P/E 11 เท่า ก็ไม่ได้สูง) โดย BAF เป็นธุรกิจที่มีกำไร หากอิงกับกำไรปีสิ้นสุดมี.ค.60 ที่ 79 ล้านบาท คิดเป็นระยะเวลาคืนทุนราว 10 ปี เงินลงทุนจากกู้แบงค์ คาด BAF จะช่วยต่อยอดธุรกิจในด้านสินเชื่อเช่าซื้อคอมพิวเตอร์ SME หรือลูกค้ากลุ่มใหญ่อื่นๆ แนะซื้อ ให้ TP 13.5 บาท
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy & Re-balancing เป็นระยะ หุ้นกลยุทธ์พื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น GFPT
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวก เน้นซื้อเมื่อ SET เหนือ 1580 ต่ำกว่าควร Wait & See แนวต้าน 1590-1600 สำหรับการ SCAN หุ้นที่มีโอกาสทำ New High พบว่าที่เข้ามาใหม่เป็น SRICHA, AU, M, WIIK หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ AMATA, PSL, ECL, CKP, STAR หุ้นที่หลุด List เป็น PACE, UNIQ, MCOT และหุ้นที่ให้หาจังหวะ Take Profit ได้แก่ BJC
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
- สหรัฐ : รัฐบาลทรัมป์กำลังเผชิญกับความยากลำบากในการผลักดันมาตรการสำคัญ
การเลื่อนโหวตร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ ทำให้นักลงทุนกังวลว่ารัฐบาลทรัมป์จะเผชิญกับความยากลำบากในการผลักดันร่างกฎหมายและมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ทั้งนี้ร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับอุปสรรคภายในพรรค เนื่องจากวุฒิสมาชิกรีพับลิกันหลายคนได้แสดงความไม่เห็นด้วย ซึ่งจะทำให้พรรครีพับลิกันไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงสนับสนุนได้เพียงพอต่อการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวในวุฒิสภา เนื่องจากสำนักงบประมาณประจำรัฐสภาของสหรัฐระบุว่าร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ จะทำให้ประชาชนที่ไม่มีประกันสุขภาพจะเพิ่มขึ้นถึง 22 ล้านคนภายในปี 2569
• สหรัฐ : สุนทรพจน์ของเยลเลนเกี่ยวกับภาคธนาคารเป็นหลัก ไม่มี Guidance เรื่องดอกเบี้ยเพิ่มเติม
การกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีขึ้นที่ British Academy กรุงลอนดอนเมื่อวานแทบไม่มีผลต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาด เนื่องจากประธานเฟดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาคธนาคารเป็นส่วนใหญ่ โดยไม่ได้กล่าวถึงนโยบายการเงินตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยระบุว่าการปฏิรูปด้านการธนาคารช่วยทำให้ระบบการเงินมีความปลอดภัยมากขึ้น และประเทศต่างๆจะสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในปี 2551
• สหรัฐ : ราคาบ้านเดือนเม.ย.เพิ่ม 5.5%YoY
ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ +5.5% ในเดือนเม.ย. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะ +5.9%
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ร่วง 0.46% หลังวุฒิสภาสหรัฐเลื่อนโหวตร่างกม.ประกันสุขภาพ
วุฒิสภาสหรัฐเลื่อนการโหวตลงมติร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ หรือ "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ออกไปเป็นช่วงหลังวันที่ 4 ก.ค.ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ ความล่าช้าในการบังคับใช้มาตรการปฏิรูปภาษีและมาตรการอื่นๆ การลดลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และข่าวคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) สั่งปรับบริษัทกูเกิลในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดจากการให้บริการช้อปปิ้งออนไลน์กดดันตลาด ปิดตลาดดัชนี DJIA ลดลง 98.89 จุด หรือ -0.46% ดัชนี S&P500 ลดลง 19.69 จุด หรือ -0.81% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 100.53 จุด หรือ -1.61%
+ สัญญาน้ำมันดิบ : ปรับขึ้นราว 2%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 44.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 46.65 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากคาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลง
• สัญญาทองคำ : ทรงตัว
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,246.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นเด่น
• สหรัฐคงให้ไทยอยู่ในอันดับ Tier-2 ถูกจับตาในเรื่องการค้ามนุษย์
มีรายงานค้ามนุษย์ประจำปี 2560 ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกมาเมื่อ 27 มิ.ย.60 โดยไทยคงอยู่ในอันดับเดิมคือ Tier-2 ถูกจับตา โดยแม้ว่าไทยจะพยายามปราบปราม ยึดทรัพย์จากบรรดาผู้ค้ามนุษย์รวม 784 ล้านบาท และดำเนินคดีกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องแต่ก็ยังไม่ได้มาตรฐานขั้นต่ำ ทั้งนี้ไทยได้ขยับขึ้นจาก Tier-3 เป็น Tier-2 ถูกจับตาเมื่อปี 2559 ส่วนจีน เกาหลีใต้ อยู่ใน Tier-3
+ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : KBANK & BBL คาดสินเชื่อ 2H60 จะขยายตัวดีขึ้น
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ KBANK คาดสินเชื่อธนาคารจะโต 4-6% ปีนี้ (5M60 +2.3%) โดยจะขยายดีขึ้นในช่วงครึ่งหลัง ผลจากการลงทุนภาครัฐผ่านโครงการต่างๆที่จะมีมากขึ้น ส่วนปี 61 มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวเพิ่มเป็น 6-7% ส่วน NPL ratio ปีนี้คาดว่าอยู่ระดับ 3.3-3.4% ใกล้กับสิ้น 1Q60 สำหรับเศรษฐกิจรวม นายบัณฑูรเชื่อว่าจะไม่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเหมือนปี 40 แต่มีความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกโตช้า หนี้สินสูง การลงทุนมากเกินไป ปรับตัวไม่ทันโลก ด้านนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ BBL คาดสินเชื่อธนาคารจะขยายตัว 3-5% ปีนี้ หนุนโดยการลงทุนภาครัฐ
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค& Reseach Team – [email protected]