- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 28 June 2017 17:55
- Hits: 2400
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวขึ้นทันที ขยับขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1591.09 จุด เพิ่มขึ้น 5.48 จุด ก่อนเผชิญแรงขายจากหุ้นในกลุ่มอาหาร วัสดุก่อสร้าง และสื่อสารกดดัชนีไหลลงมาแกว่งตัวผันผวนสลับขึ้นลงยืนทั้งแดนบวกและลบ แต่ส่วนใหญ่ยังสามารถยืนบวกได้ โดยมีจุดต่ำสุดของวันที่ 1584.22 จุด ลดลง 1.39 จุด ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 6.87 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ทำให้ดัชนียืนบวกได้แก่ AOT, MINT, KBANK, PTT, SCB, BEC, EA, PK ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1586.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.84 จุด (0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 38,502 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้มีกรอบการแกว่งตัวที่ผันผวนมากขึ้น โดยยังคงมีความพยายามเดินหน้าต่อ ขยับขึ้นทำ High ที่ 1591 จุด ก่อนที่จะเผชิญแรงขายกดดัชนีไหลลงมาทำ Low ที่ 1584 จุด ก่อนที่จะทำปิดที่ 1586 จุด ส่งผลให้กราฟแท่งเทียนมีรูปแบบที่เตือนในเชิงลบเป็นวันที่ 3 บวกกับสัญญาณที่ Overbought ทำให้ต้องระมัดระวังต่อการพักตัว ดังนั้นดัชนีขยับทำ High ยิ่งต้องขาย มองแนวรับ 1580-1583 จุด แนวต้าน 1590-1594 จุด
แกว่งตัวผันผวน - ระมัดระวังต่อการพักตัว ยิ่งขึ้นยิ่งขาย
Support 1570 // 1560 จุด Resistance 1590-1600 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(0) TU: ยังไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากเรื่องอันดับค้ามนุษย์
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
การกล่าวสุนทรพจน์ของ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กรุงลอนดอน เมื่อคืนที่ผ่านมา (ตามเวลาในประเทศไทย) แทบไม่ได้มีผลต่อตลาด เนื่องจากเป็นการแสดงความเห็นต่อธุรกิจในภาคธนาคารมากกว่า ซึ่งผิดไปจากที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้านี้ (ทำให้ต้องรอดูสัญญาณ ดอกเบี้ยและ QE จากเจ้าหน้าที่ระดับสูงท่านอื่นๆ) ขณะที่ฝั่งของธนาคารกลางยุโรป ได้มีการส่งสัญญาณในการปรับขึ้นดอกเบี้ย หรือลด QE ลง บ่งชี้ว่าธนาคารอื่นๆ น่าจะเริ่มเตรียมการปรับนโยบายการเงินตามสหรัฐฯ ดังนั้น เงื่อนเวลาว่า Fed จะเริ่มทยอยลด QE (ลดขนาดสินทรัพย์) ลงเมื่อใด จึงเป็นตัวแปรที่ตลาดกำลังเฝ้าดู เพราะจะมีผลตลาดและการเคลื่อนย้ายเงินทุน
ราคาน้ำมันดิบ WTI คืนที่ผ่านมา ปรับขึ้นมาอยู่ที่ $44.2 เหรียญ หลังคาดการณ์ว่า stock น้ำมันดิบของสหรัฐฯจะปรับตัวลดลง เราประเมินว่า ราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้น ยังเป็นเพียง Technical rebound โอกาสผ่าน $45 เหรียญขึ้นไปยังยาก แต่ถึงกระนั้น ราคาที่ดีดตัวขึ้นมา ช่วยลดแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มนี้ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลที่มีต่อกำไร/ขาดทุน stock น้ำมันดิบ ในงวด 2Q-17 คำนวณล่าสุดราคาน้ำมันดิบงวดนี้จะต่ำกว่างวด 1Q-17 อยู่ประมาณ $2-2.5 เหรียญ/บาร์เรล
ประเมินปัจจัยต่างประเทศ ต่อตลาดหุ้นไทย สัญญาณการปรับลด QE ของสหรัฐฯยังไม่ชัด แต่ของที่อื่นๆเริ่มที่จะทำตาม ซึ่งมีผลต่อ Fund Flow ที่จะหยุดเพื่อดูว่าการปรับลด QE จะเริ่มเมื่อใดและมีผลต่อตลาดมากขนาดไหน เราประเมินเบื้องต้นว่าเป็นลบไว้ก่อน เพียงแต่ไม่ทราบระดับของการลบ การ delay การพิจารณากฎหมายสุขภาพของสหรัฐฯไปเป็นหลัง 4 ก.ค. อาจสะท้อนให้เห็นว่า กฎหมายที่จะมีการแก้ไขอาจไม่ง่ายนัก ซึ่งดูแล้งก้เป็นลบอีกเช่นกัน ดังนั้น จึงมีเพียงตัวแปรน้ำมันดิบที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ที่เป็นบวก ตัวหลักๆของตลาด
ปัจจัยในประเทศ การประชุม ครม.วานนี้ ไม่ได้มีวาระที่มีผลต่อตลาดตามที่คาด ด้านรายงานของ Trafficking in Persons (TIP) Report) เมื่อวานนี้ สหรัฐยังคงจัดอันดับให้ไทยอยู่ในระดับ "เทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง" ซึ่งเป็นอันดับเดิมสองปีติดต่อกัน เรามองว่าไม่ได้เป็นบวก แต่ก็ไม่ได้เป็นลบเพิ่มขึ้น ดูได้จากตัวเลขอาหารแช่แข็งส่งออกของไทยนั้นขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และผู้ผลิต (TU) เองก็มีนโยบายต่อต้านในเรื่องค้ามนุษย์อยู่แล้ว และวันนี้ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน จะประกาศชื่อผู้รับคัดเลือก โครงการลาร์สหกรณ์และราชการ รอบที่สอง อย่างเป็นทางการวันนี้ ... ปัจจัยในประเทศ วันนี้ ไม่ได้มีน้ำหนักหรือชี้ทิศทางตลาดมากนัก
ทิศทางตลาด ประเมินดัชนีฯ มีโอกาสอ่อนตัวลง จากความกังวลในเรื่องของการลด QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯและที่อื่นๆ ที่เพิ่มระดับขึ้น นอกจากนี้ การที่ดัชนีฯ เริ่มเข้าใกล้จุดสูงสุดเดิม คือตั้งแต่ 1590 จุด เป็นต้นไป และไม่มีปัจจัยบวกที่ชัดเจนต่อตลาด อาจทำให้มีการทยอยขายทำกำไรช่วงสั้น
กลยุทธ์การลงทุน จากตัวแปรต่างประเทศที่เริ่มเข้ามาถ่วงตลาด ทำให้การลงทุนในวันนี้คงต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น กล่าวคือ ควรรอขายเมื่อดัชนีฯ เคลื่อนตัวขึ้นเหนือ 1590 จุดเป็นต้นไป หรือดัชนีฯมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลง ....... การเข้าลงทุนหรือซื้อหุ้น ยังต้องเป็น "selective buy" ควรให้ความสนใจกับ หุ้นอิงรายได้จากการลงทุนภาครัฐฯ หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หรือหุ้นที่คาดว่างบการเงินจะออกมาดี ....... สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ SCC , PTTGC , BJC , PYLON , JMT*
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (27 มิ.ย.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,586.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.84 จุด +0.05% มูลค่าการซื้อขาย 38,501.94 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อในหุ้นบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) มาช่วยหนุนตลาด และตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาเพิ่มเติม มีเพียงความคาดหวังเรื่องการทำ window dressing ที่สามารถช่วยประคองตลาด และแรงซื้อในหุ้น domestic play
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 21,310.66 จุด ลดลง 98.89 จุด หรือ -0.46% หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ตัดสินใจเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้มาตรการอื่นๆ รวมถึงมาตรการปฏิรูปภาษี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และข่าวคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) สั่งปรับบริษัทกูเกิลในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดจากการให้บริการช้อปปิ้งออนไลน์ เช่นเดียวกับ ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.8% ปิดที่ 385.98 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.ปีนี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 44.24 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันนี้
น้ำมัน - เจ้าหน้าที่รายหนึ่งจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระบุว่า โอเปกจะไม่เร่งรีบในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้น ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงในขณะนี้
เศรษฐกิจ - นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า การปฏิรูปด้านการธนาคาร ได้ช่วยทำให้ระบบการเงินมีความปลอดภัยมากขึ้น และประเทศต่างๆจะสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในปี 2008
เศรษฐกิจอังกฤษ - ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ดำรงเงินกองทุนสำหรับลดความรุนแรงของวัฏจักรเศรษฐกิจ หรือ Countercyclical Capital Buffer (CCyB) เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 0% สู่ระดับ 0.5% โดยมีผลทันที และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1% ในเดือนพ.ย. และพระบุว่าการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) อาจจะส่งผลกระทบต่อบริการด้านการเงินของอังกฤษ
BREXIT - นางนิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีสก็อตแลนด์ ประกาศเลื่อนแผนการจัดทำประชามติเกี่ยวกับการแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร จนกว่าจะมีความชัดเจนต่อกำหนดเวลาที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และได้ชะลอแผนการร่างกฎหมายปูทางจัดทำประชามตินำสก็อตแลนด์แยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ แสดงความต้องการจัดทำประชามติในช่วงปลายปี 2018 หรือต้นปี 2019 ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในเดือนมี.ค.2019
เศรษฐกิจไทย - นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้จัดสสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2560 เป็นงบกลางรายการค่าใช้จ่ายส่งเสริมและสร้างความเข้มเข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ จำนวน 18 หน่วยงาน รวม 28 โครงการ ในวงเงิน 3,828 ล้านบาท
เศรษฐกิจไทย - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (Trafficking in Persons (TIP) Report) ประจำปี 2017 เมื่อวานนี้ โดยสหรัฐยังคงจัดอันดับให้ไทยอยู่ในระดับ "เทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง" เป็นปีที่ 2 หลังจากอยู่ที่ระดับ "เทียร์ 3" เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกันก่อนหน้านี้
คมนาคม-BEM - นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างทางเชื่อมจากทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ไปยังทางพิเศษศรีรัชด้านทิศเหนือ (มุ่งไปทางแจ้งวัฒนะ) โดยให้ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้าง ด้วยวงเงิน 275 ล้านบาท ทั้งนี้ การก่อสร้างทางเชื่อมทางด่วนดังกล่าว จะไม่เป็นเหตุทำให้ต้องมีการปรับขึ้นค่าทางด่วนแต่อย่างใด โดยจะทำให้ปริมาณการจราจรของทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 2,600 PCU/วัน คิดเป็น 1.77%
โซลาร์ฟาร์ม - นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวว่า กกพ.เตรียมเสนอให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ระยะที่ 2 ในส่วนของหน่วยงานราชการ ที่ยังคงเหลือโควตาอยู่ 47.48 เมกะวัตต์ (MW) หลังการจับสลากเพื่อคัดเลือกผู้เป็นเจ้าของโครงการเมื่อวานนี้ สำหรับหน่วยงานราชการได้รับคัดเลือกเพียง 11 โครงการ คิดเป็นปริมาณเสนอขายไฟฟ้า รวม 52.52 เมกะวัตต์ ต่ำกว่าเป้าหมายที่จะรับซื้อ 100 เมกะวัตต์
ท่องเที่ยว - รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงจำนวน 6 ฉบับ ออกตามความใน พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
News Release :
แจ้งผลโซลาร์รัฐวันนี้ SUPER มีลุ้นคว้า 30 MW
+ "SUPER" แย้มจับสลากโซลาร์ฟาร์มราชการ-สหกรณ์ฯ ได้ 6 โครงการ รวมกำลังผลิต 30 MW ฟาก GUNKUL ได้ 1 โครงการ ลุ้นวันนี้กกพ.ประกาศผลการจับสลากอย่างเป็นทางการ ส่วน PSTC-ETE-TWZ เจรจาสหกรณ์หวังร่วมลงทุน(ข่าวหุ้น)
AUCT รับงานประมูลรถหรู คาดรายได้ไม่ต่ำกว่า 550 ล.
+ สหการประมูลรับงานประมูลรถยึดกรมศุลกากร 315 คัน คาดรายได้เข้าไม่ต่ำกว่า 550 ล้านบาท ยี่ห้อเฟอร์รารี่ เปิดประมูลคันละ 20.6 ล้านบาทแมคคลาเรน สีส้ม รถหรูถูกโจรกรรมจากต่างประเทศ เข้าร่วมประมูลด้วย เปิด 30.36 ล้านบาท นักวิเคราะห์คาดงบ AUCT ปีนี้โต 75% ราคาเป้าหมาย 9.70 บาท(ข่าวหุ้น)
COM7 ลุยซื้อบัฟ ต่อยอดธุรกิจ สินเชื่อเช่าซื้อ
+ "COM7" ทุ่ม 268.21 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น "บัฟ" ธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ 30% หวังต่อยอดธุรกิจ เล็งคลอดสินเชื่อเช่าซื้อสินค้าไอทีสำหรับลูกค้าบริษัท อีกทั้งหลังแจ้งงบครึ่งปีแรกจ่อปรับเป้ารายได้ปีนี้โตเกิน 10% (ข่าวหุ้น)
PTTEP ยิ้มโครงการเอส 1 กลับมาผลิตตามปกติแล้ว
+ PTTEP เผยโครงการเอส 1 กลับมาผลิตตามปกติแล้ว ชี้หยุดผลิต 23 วันกระทบแค่ 0.4% จากฐานยอดขายเฉลี่ยทั้งปี 3 แสนบาร์เรล/วัน โบรกฯแนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมาย 101 บาท คาดปีนี้ฟันกำไรโต 100% ทะลุ 2.5 หมื่นล้านบาท(ข่าวหุ้น)
TCJ ชูรง.น้ำตาล ดีลใหญ่ท่อเหล็ก เด้งรับบาทแข็ง
+ TCJ ย้ำชัดงบครึ่งปีหลังโตฉลุย เหตุกลุ่มโรงงานน้ำตาลแห่สั่งออเดอร์ "ท่อแลกเปลี่ยนความร้อน" หวังตั้งโรงงานใหม่-ขยายโรงงาน หนุนกำลังผลิตพุ่ง งานนี้รีบเตรียมแผนขยายกำลังการผลิต เด้งรับมาตรการ AD-บาทแข็งค่า แถมบิ๊กโปรเจ็กต์รัฐหนุนออเดอร์รถเครนทะลัก โกยเงินเพิ่มทุน 200 ล้านบาท ซื้อรถเครนรองรับออเดอร์เพิ่ม ลุยประมูลงานตกแต่ง BTS เต็มสูบ(ทันหุ้น)
AOT ธุรกิจท่องเที่ยวหนุน โบรกอัพกำไรเป้า 50.80 บ.
+ AOT มั่นใจผลงานปี 2560 (ต.ค.59-ก.ย.60) โตฉลุย หลังโชว์งบครึ่งปีแรกสุดหรู บิ๊ก "ประสงค์ พูนธเนศ" ชี้ทัวร์ศูนย์เหรียญคลี่คลาย หนุนภาคการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก ด้านการเช่าพื้นที่กรมธนารักษ์คาดไม่กระทบอนาคต ด้านโบรกมองเชิงบวกปรับเพิ่มกำไรปี 2560-2561 ขึ้นอีก 0.5% และ 3% ตามลำดับ แนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเหมาะสม 50.80 บาท (ทันหุ้น)
BBL-KBANK ชี้สินเชื่อโต หวังงานภาครัฐเดินต่อ
+ เปิดมุมมอง 2 ผู้บริหารแบงก์ใหญ่ "ชาติศิริ โสภณพนิช" เผย BBL มั่นใจสินเชื่อปี 2560 เติบโต 3-5% รับอานิสงส์บิ๊กโปรเจ็กต์ภาครัฐ หนุนผู้ประกอบการขอสินเชื่อเพิ่ม พร้อมลุยปล่อยกู้กลุ่ม BSR ประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู-สายสีเหลือง ขณะที่ "บัณฑูร ล่ำซำ" ค่าย KBANK มองจีดีพีปีนี้โต 3.3-3.4% ชี้การลงทุนมีสัญญาณเชิงบวก ตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โต 4-6% คุมหนี้ NPL อยู่หมัด (ทันหุ้น)
BEM ฮุบทางเชื่อมศรีรัช กดปุ่มสายสีน้ำเงินส.ค.นี้
+ BEM รับข่าวดี ครม.อนุมัติสร้างทางเชื่อมจากทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ไปยังทางพิเศษศรีรัชด้านทิศเหนือ มูลค่า 275 ล้านบาท ดันปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้น สนับสนุนรายได้โต ด้านโบรกแนะ "ซื้อ" BEM เข้าพอร์ต จับตาเดือนสิงหาคมนี้ เปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 1 สถานี แถมบุ๊กรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อเต็มปี หนุนกำไรโต เป้าหมาย 8.60 บาท (ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์