- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 27 June 2017 17:48
- Hits: 2709
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,575-1,590
แม้ SET ปรับสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,590 จุดในช่วงระหว่างวัน แต่ปริมาณการซื้อขายน้อย 3.66 หมี่นล้านบาท ปิด +0.21% ที่ 1,585.61 จุด นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 673 ล้านบาท
เรามองอย่างไร:
เรามองภาพ SET สัปดาห์นี้จะถูกขับเคลื่อนด้วย 1) การทำ Window Dressing ปิดไตรมาส 2Q17 ซึ่งหุ้น Big cap ที่ราคาหุ้น underperform ตลาดมากในช่วง 2Q17 ได้แก่ BANPU (-12%) GLOBAL (-11%) ROBINS (-11%) BDMS (-9.4%) KTB (-7.4%) และ SCC (-6.3%) 2) การ Rebalance หุ้น SET50/100 สุดสัปดาห์นี้ และ 3) สภาพัฒนฯ พิจารณารถไฟความเร็วสูง กทม.-นครราชสีมา 1.79 แสนล้าน ก่อนเสนอ ครม.ต้นเดือน ก.ค. เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มรับเหมาฯ STEC CK SEAFCO
ทำอะไรดี:
1."ซื้อ" กลุ่มหุ้นที่จะถูกเพิ่มใน SET50/100 และคาดการณ์กำไร 2Q17 แข็งแกร่ง: MTLS (ต้าน 38-40) TISCO EA และ WORK
2."ซื้อ" กลุ่มหุ้นที่ได้ผลดีเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนา EEC: AMATA WHA (Laggard play) STEC SEAFCO CK
3."เก็งกำไร" ระยะสั้นหุ้นที่มีลุ้นถูกทำ Window Dressing อย่าง GLOBAL ROBINS (คาด same store sale จะกลับมาโตปลายปีนี้) BDMS SCC
Tactical Portfolio (1-3 months):
"ถือ" EA ESSO KKP LIT MTLS SAWAD SUSCO THANI WORK และเงินสดในสัดส่วน 10% (ไม่เปลี่ยน)
Fundamental:
RPH : "ถือ" พื้นฐาน 5.20 บาท (เดิม 6.30 บาท).แม้เรายังชอบ story การขยายโรงพยาบาลขนาด 202 เตียงกลางปีหน้า และจะเริ่มเห็นการเร่งตัวของกำไรในปี 2019 อย่างไรก็ดีด้วยแนวโน้มผู้ป่วยเงินสด (cash-patient) ชะลอตัวทำให้เราปรับประมาณการกำไรลง 15% ในปี 2017-18 และส่งผลให้คาดการณ์ EPS ปีนี้จะหดตัวลง 28.3% จากปีก่อน (รวมผลของจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจาก IPO) ทำให้คาดว่าราคาหุ้นระยะสั้นยังอ่อนแอต่อไป แนะนำแค่ "ถือ" เท่านั้น
Today's News:
บัตรเครดิต: กลุ่มธุรกิจบัตรเครดิตอาจได้รับผลกระทบจากแนวโน้มการใช้กฎใหม่ (อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา) ให้จำกัดวงเงินบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล (Personal loan) สำหรับผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30000 บาท เป็นไม่เกิน 1.5x ของรายได้จากเดิม 5x ของรายได้...อาจเป็น sentiment เชิงลบต่อ KTC และธนาคารที่มีรายได้จากการปล่อยกู้สินเชื่อส่วนบุคคลสูง อย่าง BAY และ KBANK
Technical Story: Technical SET range: 1,573-1,593
ดูมีลุ้นที่เขตด่านสำคัญ: (รายงาน The Technical Story)
SET แกว่งที่เขตด่านระยะยาว สำหรับวันนี้มีด่านที่ 1,589 จุด ผ่านได้มีลุ้นขึ้นทดสอบ 1,593 จุด ส่วนแนวรับกรณีแกว่งมีที่ 1,578-80 จุด หากยืนไม่อยู่จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,576 และ/หรือ 1,573 จุด
หุ้นแนะนำ:
BPP เข้าซื้อ เป้าหมาย 29 บาท
GFPT รอรับเพิ่มที่ 20.50 หรือเมื่อทะลุ 21 เป้าหมาย 23.8 / 24.5 บาท
JWD รอรับเพิ่มที่ 8.95 เป้าหมาย 9.80 บาท
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
"ถือ" Long S50U17 เป้าหมาย 998 / 1008 จุด.Trailing Stop 988
BlockTrade CK เป้าหมาย 30.25 / 31.75 บาท..Leverage 19 เท่า
TradeCode: Buy >BJC, CK, TNP
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : Tactical portfolio ให้ผลตอบแทน -0.8% ต่ำกว่า SET ที่ให้ผลตอบแทน +0.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย EA ปรับสูงขึ้นดีที่สุดในพอร์ต หรือ +2.2% ขณะที่กลุ่มหุ้น Micro Finance และ Leasing ที่ปรับสูงขึ้นก่อนหน้านี้ อย่าง LIT SAWAD THANI อ่อนตัวลงมาเป็นตัวกดดันผลตอบแทนของพอร์ตในสัปดาห์ที่ผ่านมา...อย่างไรก็ดีเรายังมองแรงกดดันเงินเฟ้อที่ต่ำจะเป็นปัจจัยบวกต่อต้นทุนการเงินของกลุ่มหุ้น Micro Finance และ Leasing ต่อไปในช่วง 2H17 และคาดว่าจะทำให้ให้เหล่านี้หั้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด (Outperform) ต่อไป ทั้งนี้เราแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 9 ตัว ต่อไป ได้แก่ EA ESSO LIT MTLS KKP SAWAD SUSCO THANI และ WORK
MTLS มีจังหวะ New High เป้าหมาย 38-39 บาท
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA : ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
BEAUTY: เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
CPALL : ธุรกิจร้าน 7-Eleven ที่เติบโตสูง 22% ต่อปีช่วง 2016-19F จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายสาขาเดิม การขยายสาขาที่ยังไม่อิ่มตัวและการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น
DTAC : มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA : เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KCE : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
SPALI : ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยที่เติบโตต่อเนื่องโดยมียอด presales และรายได้ทำจุดสูงสุดใหม่ โดยกิน market share เพิ่มทั้งในกทม.และต่างจังหวัด
STEC : ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
SUSCO : เริ่มรุกขยายปั้มน้ำมันและเปิดพื้นที่ให้ร้านค้าเช่ามากขึ้น ROE อยู่ในช่วงขาขึ้น คาดกำไรโต 19-26% ในปี 2017-19F
WORK : ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล, CFA , [email protected], +66 2617 4991
วิชนันท์ ธรรมบำรุง [email protected], 02-617 4979