- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 June 2017 17:33
- Hits: 2453
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : เลือกเล่นรายตัว
Stock of the town : BTW NVD
หุ้นแนะนำพิเศษ : HARN
หุ้นมีข่าว : CK
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงจากแรงขายกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลง อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อดักกลุ่มที่คาดว่างบ Q2/60 จะเติบโต เช่น FOOD FIN AUTO ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,577.01 จุด (-1.61 จุด) ด้วย Vol. 4.2 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -599 ลบ. TFEX Net -5,880 สัญญา และตลาดตราสารหนี้ +5,358 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
- ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวลงจากแรงขายกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ร่วงลง แม้ว่าตัวเลขยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค. +1.1%MoM สู่ 5.62 ล้านยูนิต
- ราคาน้ำมันปรับตัวลงล่าสุด 42.7 US/Barrel จากความกังวลอุปทานล้นตลาดหลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐพุ่งขึ้น 20,000 บาร์เรล สู่ 9.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี
+/- รมว.น้ำมันอิหร่านเผยว่ากลุ่มโอเปกกำลังพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้นหลังสหรัฐเพิ่มการผลิตน้ำมัน
+/- Fund Flow ต่างชาติผันผวนตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.เป็น Net Sell ราว 4.8 พันลบ. อย่างไรก็ตามเงินบาทยังแข็งค่าล่าสุด 33.9 Bath/USD
- ดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯเดือน พ.ค.ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังเอกชนกังวลบาทแข็ง-เอสเอ็มอีขาดเงินทุนหมุนเวียน ส่วนการส่งออกรถยนต์หดตัว 9.5% ส.อ.ท.จ่อปรับเป้าต่ำกว่าคาด 1.2 ล้านคัน
- บอร์ด AOT ลงมติยกเลิกประมูลงานระบบ APM สุวรรณภูมิ 2.8 พันล้านบาทเป็นครั้งที่ 2 เหตุ ILINK เสนอสูงกว่าราคากลาง 5% หวั่นเจอเช็กบิลย้อนหลัง จ่อเปิดประมูลรอบ 3 ในอีก 2 เดือน (ข่าวหุ้น)
** 26 มิ.ย. จับสลาก Solar Farm สหกรณ์ 119 MW และราชการ 100 MW
** ติดตามการทำ Window Dressing ปิด Q2/60 ช่วงปลายเดือนมิ.ย.
ภาวะตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงต่อเนื่องจากความกังวล Oversupply รวมถึง Fund Flow ที่ยังผันผวนเป็นแรงกดดันต่อดัชนี อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงซื้อหุ้นรายตัวที่คาดว่างบ Q2/60 เติบโตช่วยพยุงดัชนีได้ ดังนั้นประเมินว่า SET จะอ่อนตัวลงโดยมีแนวรับบริเวณ 1,570 – 1,575 จุดก่อนจะรีบาวด์ขึ้นระหว่างวัน
กลยุทธ์การลงทุน รอซื้อเล่นรีบาวด์แบบ Selective Buy
- กลุ่มรับเหมา, สายการบิน , EPG , TASCO ได้ประโยชน์ต้นทุนราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง
- SYNEX SIS COM7 HARN ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า
- หุ้นที่เข้าคำนวณรอบใหม่ (มีผล 1 ก.ค. – 31 ธ.ค.2560 )
SET50 ได้แก่ BJC BPP EA MTLS RATCH SCCC TISCO
SET100 ได้แก่ ANAN BCPG BJC BPP EA GFPT MALEE MEGA MONO PTL RATCH SCCC WORK
หุ้นแนะนำพิเศษ
HARN Analyst Meeting
กำไร 1Q60 โต 94.3%yoy มาที่ 26 ลบ. หลัง Backdoor listing เพิ่มไลน์สินค้าเป็น 3 กลุ่ม ผู้บริหารมีความเห็นเชิงบวกหลังควบรวมทำให้มี Economies of scales และ Synergy จากความเกี่ยวเนื่องของสินค้าที่อยู่ในกลุ่มวิศวกรรมอาคาร เพิ่มยอดขายของในทุกไลน์สินค้า
ตั้งเป้ารายได้ปี 60 โตเป็นเท่าตัวจากการควบรวมซึ่งส่งผลเต็มปีในปีนี้และการเพิ่มสินค้าในตลาดใหม่ อาทิ กล้องจับเปลวเพลิง และท่อควบคุมความเย็นแบบใหม่ หวังปั้นบริษัทเป็นวิศวกรรมอาคารครบวงจร แผนลงทุนประเทศใกล้เคียงอยู่ระหว่างการจับตายอดขายผ่านพนักงานท้องถิ่นและพันธมิตรก่อนตัดสินใจ สำหรับเป้ารายได้ปี 61 โต 11 – 12%yoy
ความเห็น การเติบโตช่วงที่เหลือของปีมีโอกาสยืนสูงโดยเฉพาะงวด 2Q60 จากฐานที่ต่ำมากใน 2Q59 ส่งผลให้ PER ต่ำลงจาก Current PER ที่สูงถึง 36 เท่า แต่ความเสี่ยงที่น่าจับตาเป็นเรื่องการลงทุนเพิ่มสินค้าใหม่และการลงทุนในตปท. ที่มีผลต่อปี 61 เป็นต้นไป ขณะที่สถานะการเงินยังดีเยี่ยมด้วย D/E 0.23 เท่า และมีเงินสดกว่า 360 ลบ.
หุ้นมีข่าว
(+)CK (ราคาปิด 29 Bloomberg Consensus 35.77) เซ็นสัญญากับ BEM แล้ว รับงานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย มูลค่า 19,642 ล้าน (ที่มาข่าวหุ้น)
ความเห็น ฝ่ายวัจยมีมุมมองบวกต่อการรับงานใหม่ของ CK ส่งผลให้ Backlog เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.7 หมื่นล้านบาทเพียงพอรับรู้รายได้อีก 3 ปี นอกจากนี้ CK ยังมีอัพไซด์จากการประมูลรถไฟรางคู่ประจวบฯ-หัวหิน และประจวบ-ชุมพร ปลาย ก.ค.และส.ค.ตามลำดับมูลค่ารวม 2.8 หมื่นล้านบาท และรถไฟฟ้าสายสีม่วงมูลค่า 1.3 แสนล้านบาทที่กำลังจะเสนอให้ ครม.อนุมัติการประมูลในครึ่งปีหลัง
AOT (ราคาปิด 46 Bloomberg Consensus 44.62) วางเป้า Big Change ดันรายได้ Non-Aero เพิ่มแตะ 50% ปี 64 จาก 43% ในปัจจุบัน เพิ่มพื้นที่เชิงพาณิชย์-เล็งพัฒนาโครงการใหญ่ (ที่มา อินโฟเควสท์)
SCC (ราคาปิด 508 Bloomberg Consensus 586.88) ร่วมทุน 49% จัดตั้งบ.โลจิสติกส์ในอินโดนีเซีย เริ่มเปิดบริการภายใน Q4/60
PLANB จะเซ็น MOU วันนี้เข้าร่วมทุน 50% ตั้งบริษัทให้บริการสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยในลาว
BM จะซื้อที่ดินเปล่าข้างเคียงโรงงานบริษัทในจ.สมุทรปราการ มูลค่า 15.98 ลบ. รองรับการขยายธุรกิจ
FVC คาดกำไรสุทธิปีนี้ทำนิวไฮ รับรายได้โตเป็นไม่ต่ำกว่า 500 ลบ.,สรุปลงทุนธุรกิจสุขภาพและความงามใน 2-3 เดือน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -57.11 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,410.03 จุด ลดลง 57.11 จุด หรือ -0.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,435.61 จุด ลดลง 1.42 จุด หรือ -0.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,233.95 จุด เพิ่มขึ้น 45.92 จุด หรือ +0.74%เนื่องจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอีกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ตลาดน้ำมัน NYMEX : -0.98 USD/Barrel
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 98 เซนต์ หรือ 2.3% ปิดที่ 42.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) การผลิตน้ำมันของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และอาจเป็นปัจจัยขัดขวางความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
Analyst – วิลาสินี บุญมาสูงทรง , ชัยยศ จิวางกูร, ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์-ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์