- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 June 2017 17:26
- Hits: 1069
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีปรับตัวลงตั้งแต่เปิดตลาด แกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบเพียง 4.93 จุด ที่ยืนในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยเป็นแรงขายหลักจากหุ้นในกลุ่มพลังงานและวัสดุก่อสร้างนำโดย PTT, PTTEP, BANPU, SCC มีจุดต่ำสุดที่ 1573.70 จุด ลดลง 4.92 จุด ขณะที่มีจุดสูงสุดที่ 1578.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด ทั้งนี้มีหุ้นที่บวกสวนตลาด ช่วยพยุงดัชนีได้แก่ ADVANC, INTUCH, GL, KBANK, KWG, KKP, MTLS ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1577.01 จุด ลดลง 1.61 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 42,737 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้ยังคงชะลอตัวลงต่อ หลุด 1580 จุด แบบไม่สามารถกลับขึ้นมายืนได้ พร้อมกับดึง Low ที่ 1573 จุด ซึ่งถือเป็นแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันและเคยเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งในอดีต เพราะฉะนั้นการที่หลุดลงไปต่ำกว่าบริเวณดังกล่าวคงไม่ดีแน่ โดยเรายังมองแนวรับ 1570 จุด เป็นภาพที่ยังไม่เสียทิศทางของการขึ้น แต่ถ้าไม่หลุด 1573 จุด ก็จะดีดกว่าซึ่งจะทำให้การเหวี่ยงตัวกลับขึ้นไปนั้นง่ายกว่า มองภาพดัชนียังอยู่ในช่วงการพักตัว แนวรับ 1570-1574 จุด หากหลุด 1570 จุด แนวรับถัดไป 1564 จุด ขณะที่แนวต้าน 1579-1581 จุด
แกว่งตัวผันผวน - พักเพื่อไปต่อ มีโอกาสเข้าใกล้ 1600 +/-
Support 1560 // 1550 จุด Resistance 1580-1590 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(0) Auto Secotr : ยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ค.2017 ยังฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป
(+) CPF : การเพิ่มทุนจะทำให้ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ราคาหมูในประเทศปรับขึ้น
(+) TKS : คาดแนวโน้มกำไรสุทธิงวด 2H17 จะกลับมาเติบโตได้ดี
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นทั่วโลก ต่างได้รับผลลบจากตัวแปรตัวเดียวกัน นับตั้งแต่ 14 มิ.ย.60 เป็นต้นมา เมื่อราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงผ่านแนวรับสำคัญ $45 เหรียญ และปิดเมื่อคืนนี้ที่ $42 เหรียญ ดัชนีชี้วัดการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นทั่วโลก Bloomberg World Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4%
ราคาน้ำมันดิบ ถูกกดดันจาก supply ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากสหรัฐฯและผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ และผลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงนี้ ได้ส่งผลกระทบไปถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตัวอื่นๆ ในตลาดอีกด้วย
การประกาศนำหุ้น A-Share ของจีนและ หุ้นของประเทศซาอุดิอารเบีย เข้าคำนวณดัชนี MSCI แม้จะไม่เกิดขึ้นในทันที แต่มีผลลบต่อตลาดหุ้นอื่นๆ ตรงที่จะมีเงินลงทุนบางส่วน ไหลเข้าไปลงทุนในหุ้น A-Share ทั้งก่อนและหลังที่หุ้นเหล่านั้นจะถูกนำเข้าคำนวณดัชนีฯ เช้านี้ Wall Street Journal ระบุว่า จะมีเงินไหลเข้าไปในหุ้น A-Share ของจีน $8-10 พันล้านเหรียญ หรือประมาณ 3 แสนล้านบาท
ปัจจัยต่างประเทศ วันนี้จะยังมีน้ำหนักในทางลบต่อตลาดหุ้นไทย ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง และการนำหุ้นจีน เข้าคำนวณดัชนี MSCI และนักลงทุนลดการถือสินทรัพย์เสี่ยงลง
ปัจจัยในประเทศ ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย พ.ค. ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ยอดส่งออกรถยนต์ พ.ค.หดตัว 9.5% มาที่ 90,092 คัน ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 และ Fitch's Rating ระบุ ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์บลูมเบิร์กว่า อัตราการขยายตัวของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของไทย มีแนวโน้มจะพุ่งแตะระดับสูงสุดในปลายปี 2560 ตัวแปรเหล่านี้ เป็นลบต่อตลาดนอกเหนือจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง
วันนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะรายงานตัวเลขส่งออกของไทย ผลสำรวจจาก Bloomberg คาดส่งออกขยายตัว เดือน พ.ค. 8% YoY เดือน เม.ย.60 และ พ.ค.59 ตัวเลขส่งออกอยู่ที่ $1.68 และ $1.76 หมื่นล้านเหรียญ ตามลำดับ
ทิศทางตลาดหุ้น ด้วยน้ำหนักของปัจจับลบในต่างประเทศ และตัวแปรด้านเศรษฐกิจของไทยเอง (NPLs และส่งออกรถยนต์) รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงต่อ จะกดดันให้มีแรงขายลดความเสี่ยงเข้ามาในตลาด ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯ มีแนวโน้มลดลงจากวันก่อน
กลยุทธ์การลงทุน ประเมินช่วงสั้นๆ ตลาดยังผันผวนตามตลาดต่างประเทศและปัจจัยลบหลายตัว แรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นไทยอาจมีต่อเนื่องมาถึงวันนี้ จึงควรชะลอการลงทุน หรือเลือกขายทำกำไรหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นมามาก .......... การเข้าลงทุนยังต้องเป็น Selective buy เน้นไปที่หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ....... สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น ADVANC , FSMART, GPSC* , BTS*
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (21 มิ.ย.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,577.01 จุด ลดลง 1.61 จุด -0.10% มูลค่าการซื้อขาย 42,737.47 ล้านบาท หลังถูกกดดันจาก MSCI ประกาศเพิ่มหุ้น A Share ของจีนเข้ารวมในการคำนวณดัชนี MSCI Emerging Markets Index (MSCI EM) และดัชนี MSCI ACWI Index ทำให้ Fund ไหลออกบ้าง ส่งผลต่อ Sentiment ไม่ดีในเอเชีย ยกเว้นจีน นอกจากนี้ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงทำให้ไปกดดันผลบวกจากการที่รัฐบาลจะใช้มาตรา 44 มาแก้ปัญหาการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ส.ป.ก.
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 21,410.03 จุด ลดลง 57.11 จุด หรือ -0.27% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอีกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่นเดียวกับ ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.2% ปิดที่ 388.50 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ ลดลง 98 เซนต์ หรือ 2.3% ปิดที่ 42.53 ดอลลาร์/บาร์เรล เหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) การผลิตน้ำมันของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และอาจเป็นปัจจัยขัดขวางความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
น้ำมัน - สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 509.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล และนายบิจาน ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันอิหร่าน กล่าวว่า สมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กำลังพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น แต่ก็จะรอจนกว่าจะมีความชัดเจนต่อผลการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในขณะนี้
เศรษฐกิจสหรัฐ - สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้นสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะลดลง โดยยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.62 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับยอดขายรายเดือนสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในรอบ 10 ปี
ธนาคาร- นายพาสันติ์ สิงหะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสถาบันการเงิน บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์บลูมเบิร์กว่า อัตราการขยายตัวของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของไทย มีแนวโน้มจะพุ่งแตะระดับสูงสุดในปลายปี 2560 และแม้เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลง แต่การขยายตัวราว 3% บ่งชี้ว่าอัตราขยายตัวของหนี้เสียมีแนวโน้มชะลอลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่จะค่อยๆ ทะยานขึ้นภายในสิ้นปีนี้ หรือหลังจากนั้น
เศรษฐกิจไทย- นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือน พ.ค. 2560 พบว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอยู่ที่ 85.5 ลดลงจากเดือน เม.ย. 2560 อยู่ที่ 86.4 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนตั้งแต่เดือน ต.ค. 2559
พลังงานทดแทน- พพ. เตรียมเสนอโครงการโซล่าร์รูฟท็อปเสรี ให้ กพช. พิจารณา 7มี.ค.นี้ ระบุเน้นให้ผลิตไฟฟ้าใช้เองในครัวเรือน พยายามไม่ให้ขายเข้าระบบสายส่งของการไฟฟ้า พร้อมเริ่มโครงการนำร่อง 100 เมกะวัตต์ ปลายเดือนเม.ย.นี้
พื้นที่ สปก. - นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีมติเห็นชอบให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการแก้ปัญหาการใช้ที่ดินส.ป.ก.ว่า ภายหลังจากมีคำสั่งหัวหน้า คสช.เอกชนที่ได้รับอนุญาตก่อนหน้านี้สามารถดำเนินกิจการได้ไปพลางก่อน จนกว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตให้เอกชนใช้ประโยชน์จากที่ดิน ส.ป.ก.ใหม่ โดยต้องนำเรื่องมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาทุกครั้ง จากเดิมที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) จะเป็นผู้พิจารณาและอนุมัติได้ทันที โดยปัจจุบัน พบว่ามีเอกชนขุดเจาะน้ำมัน อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร ประมาณ 5-6 บริษัท พลังงานลมประมาณ 20 บริษัท เหมืองแร่ 5-10 บริษัท ซึ่งทั้งหมดจะต้องทำการขออนุญาตใช้ที่ดิน ส.ป.ก.ใหม่ ทันทีที่กฎกระทรวงมีผลบังคับใช้
กลุ่มรถยนต์ - นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และที่ปรึกษาบริหารอาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยถึงกระทรวงการคลังประกาศลดอัตราภาษีสรรพสามิต รถยนต์ 4 ประเภท เพื่อส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ประหยัดพลังงานว่า เห็นด้วยกับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฮบริดใหม่ที่กระทรวงการคลังประกาศออกมา เนื่องจากอัตราภาษีที่ปรับลดลง จะส่งผลให้ราคารถยนต์ไฮบริด ลดลงจากปัจจุบัน 10-20% ทำให้ราคาใกล้เคียงกับราคารถยนต์เครื่องยนต์น้ำมันเบนซินในรุ่นเดียวกัน และยังเป็นการปูทางไปสู่การผลิต และการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
News Release :
PYLON ลุ้น Q2 เริ่ด กำไร 43 ล. โต 39% ซื้อเป้า 15.10 บาท
+ "ไพลอน" แจ่ม! โบรกฯคาด Q2 โชว์กำไร 43 ล้านบาท โต 39% ดันปีนี้กำไรสวย 235 ล้านบาท พุ่ง 36% ลุ้นคว้างานรากฐาน-เสาเข็มโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลืองที่คาดจะเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้ เชียร์ "ซื้อ" เป้าราคาใหม่ 15.10 บาท(ข่าวหุ้น)
บอร์ด AOT ล้มประมูล! ILINK ชวดได้งาน APM
+ บอร์ด AOT ลงมติยกเลิกประมูลงานระบบ APM สุวรรณภูมิ 2.8 พันล้านบาทเป็นครั้งที่ 2 เหตุ ILINK เสนอสูงกว่าราคากลาง 5% หวั่นเจอเช็กบิลย้อนหลัง จ่อเปิดประมูลรอบ 3 ในอีก 2 เดือน(ข่าวหุ้น)
ACAP ออกตั๋วบี/อีลื่น ทริสฯยันเครดิตเยี่ยม
+ บมจ.เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป หรือ ACAP เดินหน้าปล่อยกู้บริษัท โอริออน ดีเวลลอปเม้นท์ต่อ หลังเคลียร์ปัญหาเสร็จ ระบุฐานะบริษัทลูกหนี้ไม่มีปัญหา ขณะที่ทริสฯการันตีเครดิตระดับ BB ส่งผลการออกตั๋วบี/อี หุ้นกู้ลื่นไหล มั่นใจปล่อยกู้ปีนี้ตามเป้า 6 พันล้าน ส่วนไตรมาส 2 ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง(ข่าวหุ้น)
SENA เล็งหั่นเป้ายอดขายปี 60 เปิดขายคอนโด 1.5 พันล้าน 1-2 ก.ค.นี้
+ "SENA" เตรียมเปิดขายคอนโดมิเนียม "นิช ไอดี แอท ปากเกร็ด สเตชั่น" มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 1-2 ก.ค.นี้ เล็งหั่นเป้ายอดขายปีนี้ลงจากเดิมคาดโต 20% เหตุเลื่อนเปิดคอนโดร่วมทุนฮันคิวฯ ไปปี 61 จากเดิมจะเปิดปีนี้(ข่าวหุ้น)
'BDMS'โดดรับเข้าไฮซีซันครึ่งหลังฉายแววเด่น
+ BDMS ครึ่งปีหลังโดดรับไฮซีซัน ลูกค้าตะวันออกกลางแห่รักษาเพียบ แย้มธุรกิจศูนย์สุขภาพเริ่มบุ๊กรายได้ตั้งแต่ Q4 นี้เป็นต้นไป หนุนฐานแกร่งในอนาคต โบรกส่องแนวโน้มครึ่งปีหลังโดดเด่นดีดลูกคิดคำนวณกำไรแตะ 8.85 พันล้านบาท เคาะเป้า 24.50 บาท(ทันหุ้น)
STEC แบ็กล็อกนิวไฮ โต 5 เท่าของรายได้ ลุ้นรับงานใหม่เพิ่ม
+ STEC ตุน Backlog เต็มหน้าตัก 1.01 แสนล้านบาท หรือ 5 เท่าของรายได้ปี 2560 มีลุ้นคว้างานใหม่ต่อเนื่อง 3.5-3.7 หมื่นล้านบาทต่อปี อานิสงส์งานรัฐหนุน ส่องผลงานโตแกร่ง ฐานะทางการเงินดี เคาะเป้า 33 บาท (ทันหุ้น)
SEAFCOเป้าเกิน 17 บาท รถไฟฟ้าเปลี่ยนพื้นฐาน
+ โตไปกับการพัฒนาชาติต้อง SEAFCO จ่อดีลใหญ่งานฐานรากรถไฟฟ้า 2 สาย มูลค่าประมาณ 1,700 ล้านบาท โบรกเคาะราคาพื้นฐานใหม่ที่ยังไม่รวมงานรถไฟฟ้าที่จะได้เพิ่ม ที่ 17.50 บาทมี P/E ปี 2561 ต่ำเพียง 13 เท่าด้าน CK มือขึ้นคว้างานสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย มูลค่า 1.96 หมื่นล้านบาท ดันงานในมือทะลุแสนล้านบาท(ทันหุ้น)
SPALI รุกตลาดแนวราบ เปิดโครงการชิงยอดขาย
+ SPALI ใส่เกียร์ลุยโครงการแนวราบ เล็งเปิดอีก 2 โครงการใหม่ มูลค่า 3,750 ล้านบาท โกยยอดขายเพิ่ม ล่าสุดเข้าประมูลที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย หวังพัฒนาเป็นเรสซิเดนท์เชียล ขณะที่โบรกประเมินความสามารถในการทำกำไรสูงที่สุดในกลุ่ม อัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 39% พร้อมเชียร์ซื้อ เป้าหมาย 32 บาท(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์