WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้ >> ทยอยซื้อช่วงอ่อนตัว
       ตลาดหุ้นวานนี้ : SET มีจังหวะพักตัวลงเล็กน้อยหลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาในวันก่อนหน้า ภาพรวมของตลาดยังคงแกว่งตัว Sideways ออกข้างและรอดูว่า MSCI จะนำหุ้น A-Share เข้ามารวมในการคำนวณหรือไม่ ขณะที่นักลงทุนเริ่มชะลอการไหลเข้าโดยพลิกมาขยายเล็กน้อยในตลาดหุ้น ส่วนตลาดฟิวเจอร์สและพันธบัตรยังนิ่งๆ


        แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index วันนี้จะอ่อนตัวลง โดยคาดว่ากลุ่มพลังงานจะถ่วงตลาดฯหลังราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนปรับตัวลงแรงกว่า 2% จากอุปทานที่เพิ่งขึ้นจากลิเบียและไนจีเรีย อย่างไรก็ตามเชื่อว่ากรอบการลบจะยังไม่กว้างนักโดยคาดว่าน่าจะมีแรงพยุงจากการทำ Window Dressing ในช่วงปลายเดือนนี้ ส่วนการการตัดสินใจนำหุ้น A Share เข้ามาคำนวณดัชนีของ MSCI ในน้ำหนักราว 0.73% คาดว่าส่งผลกระทบจำกัดเนื่องจากจะเริ่มมีผลในเดือน พ.ค.ปีหน้า เรายังเชื่อว่ากระแสเงินทุนมีแนวโน้มที่จะไหลเข้าต่อในระยะถัดไป
กลยุทธ์ : ซื้ออ่อนตัว และเก็งกำไรหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลง


หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : FSMART, HANA, MGT, RS, TACC
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$398ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$412ล้าน ขณะที่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$36ล้าน และไทย US$15ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอตัวลงตามราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนตัวลง ส่วนการที่ MSCI นำหุ้น A-Share ของจีนมารวมในการคำนวณ MSCI EM คาดว่าไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินทุนเพราะผลใช้บังคับจะเป็นปีหน้า

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> MBAX <<
- ราคา LDPE สัปดาห์ล่าสุดลง 10%Q-Q และ 1%Y-Y อยู่ที่ 1180 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อตัน เป็นบวกกับ MBAX โดยตรงเพราะเป็นต้นทุนหลักราว 50% ของต้นทุนรวม โดยทุก 1% ที่ลดลงจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 0.5%
- คาดกำไรสุทธิ 2Q17 กระชากแรง 155%Y-Y อยู่ที่ 18 ลบ. จากต้นทุนที่ลดลงและฐานที่ต่ำในปีก่อน แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 6.50 บาท โดยนอกจากการเติบโตปีนี้จะกลับมาสดใสแล้ว MBAX ยังมีจุดเด่นตรงปันผลสูงปีละ 7-8% (3-4% ต่อครึ่งปี) ส่วนยอด Big Lot วานนี้ 4.50 บาทต่ำกว่าราคาตลาด ไม่น่ากระทบ Sentiment เพราะจำนวนน้อย 750,000 หุ้น และเป็นการโยกในกลุ่มผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้บริหารธุรกิจ

ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) MSCI นำ A-shares เข้า MSCI's global emerging-market โดยมีหุ้นที่ผ่านเข้าเกณฑ์ 222 บริษัท คาดว่าจะมีน้ำหนักราว 0.7% เริ่ม พ.ค. 18 ถือเป็นปัจจัยลบกับตลาด EM ซึ่งรวมถึง SET จากโอกาสที่เม็ดเงินบางส่วนจะถูกปันเข้า A-shares ซึ่งหุ้นที่มีน้ำหนักมากสุด คือสถาบันการเงิน 23% และกลุ่มการบริโภค 15%
(0) ราคาน้ำมันต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เป็นลบกับกลุ่มพลังงานและตลาดรวมเพราะมีน้ำหนักราว 18% ของ SET แต่มีกลุ่มที่ได้ประโยชน์เช่น ท่องเที่ยว (MINT ERW) ขนส่ง (AAV และมี BA ที่ยัง Laggard กลุ่มสายการบิน -15%YTD กลุ่ม -3%YTD) บรรจุภัณฑ์ (MBAX PDG) วัสดุก่อสร้าง DCC DRT และ TASCO (กำไร peak ไปแล้วใน 1Q17 แต่ราคาถูก PE 10 เท่า) รวมถึง EPG และ VNG
(+) สินเชื่อกลุ่มธนาคารไม่รวม KTB พ.ค. 17 +0.5%M-M ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า KKP โตเด่นสุด +2.5%M-M (จากสินเชื่อรายย่อยที่ไม่ใช่เช่าซื้อ) และ KBANK +1.6%M-M (สินเชื่อธุรกิจระยะสั้น) ขณะที่ BBL และ TISCO สินเชื่อหดตัว -0.4%M-M และ -0.36%M-M รวม 5M17 กลุ่มธนาคารมีสินเชื่อ+0.6%YTD โดย KKP +3.7%YTD และ TMB +2.8%YTD ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อรายย่อย แนวโน้มกำไรทั้งกลุ่ม 2Q17 คาดลดลง Q-Q เนื่องจากคาดการณ์การชะลอตัวของรายได้รวมและค่าใช้จ่ายสำรองฯยังสูง เราคาดว่า TISCO และ KKP น่าจะมีกำไรสุทธิที่ดีขึ้น Q-Q และ Y-Y แต่ราคาเริ่มมี Upside จำกัด จึงเลือก KBANK (เป้า 240 บาท)
(0) ADVANC คาดกำไรปกติ 2Q17 หดตัว 6.5%Q-Q และ 25.1%Y-Y จากรายได้ที่โตไม่สูงนักและต้นทุนที่ยังกดดัน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้น Q-Q ขณะที่ แนวโน้มการแข่งขันยังค่อนข้างรุนแรง เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2017 หดตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 2 อีก -5.4%Y-Y ราคาปัจจุบันมี Upside จำกัดเมื่อเทียบกับราคาพื้นฐานที่ 185 บาท จึงยังแนะนำ "ถือ" รับปันผลงวด 1H17 ที่ราว 2%
(-) KSL เราคาดกำไรผ่านจุดสูงสุดไปแล้วใน 2Q17 และมีมุมมองเป็นลบต่อแนวโน้มผลประกอบการมากขึ้น จากราคาน้ำตาลที่ทรุดตัวลงเร็วและมีโอกาสลงต่อเนื่องในปีหน้าตามภาวะอุปทานส่วนเกิน เราปรับลดกำไรปกติปี 2018 ลงเหลือ 1,510 ลบ. โตเพียง 3.7% Y-Y และปรับลด PE เป้าหมายลงไปเท่ากับค่าเฉลี่ยที่ 17 เท่า จากเดิมที่ใช้ 25 เท่า ที่เป็นช่วงขาขึ้นของราคาน้ำตาล ราคาเป้าหมายใหม่ลดลงเหลือ 5.60 บาท จาก 8.30 บาท แนะนำหลีกเลี่ยง

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!