- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 20 June 2017 16:31
- Hits: 6145
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> LH, STEC, TCAP
Stock S R Comment
LH 9.90 10.20 คาดกำไรพุ่งจากรายการ จากดีล LHBANK และขายโรงแรมเข้ากอง
STEC 26.00 27.25 รอลงนามรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองหนุน Backlog
TCAP 45.75 47.25 เร่งรุกขยายส่วนแบ่งตลาดเช่าซื้อรถ หลังหมดกังวลด้านคุณภาพหนี้
MSCI decision time
MSCI : ติดตามการพิจารณาของ MSCI ในวันนี้ (ตรงกับเช้าตรู่เวลา 03:30 วันที่ 21 มิถุนายนตามเวลาบ้านเรา) ว่าจะนำหุ้นจากดัชนี A-Shares ของจีนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณดัชนี MSCI EM หรือไม่ โดยหากนำเข้า คาดว่าจะมีหุ้นจากดัชนี A-Shares ทั้งสิ้น 169 บริษัท และมีน้ำหนักรวมเพียง 0.5% ของดัชนี MSCI EM ซึ่งถือว่าลดลงจากข้อเสนอปีก่อนที่ 448 บริษัทและน้ำหนัก 1.0% ตามลำดับ
มุมมองของเรา : จะต้องติดตามว่า 1) MSCI จะเห็นชอบประเด็นดังกล่าวหรือไม่ และ 2) หากเห็นชอบ MSCI จะกำหนดวัน Effective date เมื่อไหร่ เบื้องต้นเราประเมินว่าหาก MSCI เห็นชอบจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น แต่ผลลบคงยังไม่เกิดกับตลาดหุ้น EM อื่นมากนัก จนกว่าจะมีผลบังคับใช้ ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้นในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า ถึงแม้กระนั้น คาดว่าผลกระทบต่อการไหลออกของ Fund flow จากตลาดหุ้นไทยในช่วงนั้นก็ไม่น่าจะรุนแรงมากนัก โดยหากอ้างอิงจากน้ำหนักของหุ้นไทยในดัชนี MSCI EM ล่าสุดที่ราว 2.2% คาดว่าน้ำหนักดังกล่าวจะถูกปรับลดเพียง 0.01% หรือคิดเป็นเม็ดเงินไหลออกเพียงแค่หลักพันล้านบาทเท่านั้น
FOMC : นาย William Dudley และนาย Charles Evans สองคณะกรรมการ FOMC ที่มีสิทธิ์โหวตปีนี้ ได้ให้สัมภาษณ์แตกต่างไปกันคนละทิศทาง กล่าวคือ เมื่อคืนนี้นาย Dudley ประเมินว่าด้วยระดับค่าจ้างที่น่าจะดีขึ้นในช่วงถัดไป น่าจะทำให้ระดับเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นได้อีกครั้ง ถือเป็นการตอกย้ำมุมมองของเขาต่อการขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งสำหรับปีนี้ และถือเป็นโทน Hawkish ที่ออกมา
อย่างไรก็ดีเมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา นาย Evans ได้กล่าวว่าด้วยระดับเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงมา อาจทำให้ Fed สามารถที่จะประวิงเวลาไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ว่าพร้อมกับการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งหรือไม่ ถือเป็นโทน Dovish ที่เกิดขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน : สัปดาห์นี้คาดการณ์ SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1550-1600 จุด โดยดัชนียังคงถูกประคับประคองจากกระแส Fund flow เป็นหลัก (เมื่อวานนี้ช่วงปิดตลาดนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตราสารหนี้ระยะยาวอีก 3,300 ล้านบาท) ยังคงแนะนำให้น้ำหนัก "เป็นกลาง" กับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และถือหุ้นในกลุ่มต่อไปนี้เช่นเดิม
1) หุ้นที่มีฐานรายได้มั่นคงสม่ำเสมอ และพร้อมจ่ายปันผลในระดับสูง อาทิเช่น กลุ่มสาธารณูปโภค (BCPG, BPP, CKP, EA, EGCO, GLOW, GPSC, RATCH, TPIPP, WHAUP)
2) หุ้นที่อยู่ในกลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็น อาทิเช่น กลุ่มค้าปลีกจำพวกสินค้าที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน (CPALL, BJC) และกลุ่มการแพทย์ (BCH)
3) หุ้นในกลุ่มบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำที่เริ่มเห็นการปรับตัวของ Spread ที่ดีขึ้น ได้แก่ AJ, PTL, VNT, UTP (ราคาหุ้นอาจมีการย่อตัวเล็กน้อย หลัง Spread มีการอ่อนตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา)
แนวรับ 1,576 แนวต้าน 1,595
Today's Event :
NCL XW 6.6:1
RICHY ลูกหุ้นเข้า 157,079,996 หุ้น
LHHOTEL หน่วยทรัสต์เพิ่มทุนเข้า 224,255,000 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]