- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 20 June 2017 16:17
- Hits: 4822
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เลือกเก็งกำไรรายตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งในแดนบวกทั้งวันรวมถึงระดับปิดซึ่งก็สอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยดัชนีสามารถผ่านแนวต้าน 1,580 จุดขึ้นไปได้ นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ และมีแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กให้เห็นบ้าง นักลงทุนต่างกลับมาซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาด
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET index มีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อเนื่องจากบรรยากาศในต่างประเทศที่สดใสหลังความชัดเจนของการลดขนาดงบดุลของเฟด การประชุมธนาคารกลางสำคัญๆได้ผ่านไปแล้ว และการเมืองในยุโรปที่ไม่กดดัน เหลือเพียงประเด็น MSCI วันนี้ว่าจะนำหุ้นจีน A-shares เข้าคำนวณในดัชนีหรือไม่ ซึ่งเชื่อมีผลจำกัดต่อทิศทางกระแสเงินทุนที่จะยังไหลเข้าตลาดหุ้น EM แต่ราคาน้ำมันที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือนอาจกดดันกลุ่มพลังงานอยู่บ้างแต่ไม่น่ากังวลเพราะราคาหุ้นพักฐานมาบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก upside ของ SET จำกัดอยู่เพียง 1,600 จุด (จนกว่าจะเห็นการปรับประมาณการขึ้น) จึงควรเลือกหุ้นให้มากขึ้น
กลยุทธ์ : เก็งกำไรรายตัวหุ้นในกลุ่มพลังงาน
หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : FSMART, HANA, MGT, RS, TACC
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$199ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$142ล้าน ไต้หวัน US$58ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$2ล้าน ขณะที่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$4ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่สดใสขานรับผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้น
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> SCC <<
ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง 7% จากจุดสูงสุดปลาย เม.ย. 17 ที่ 552 บาท น่าจะซึมซับแนวโน้มกำไร 2Q17 ที่จะชะลอ Q-Q จากส่วนต่างปิโตรเคมีที่อ่อนตัวและการไม่มีกำไรจากการขายหุ้นไปแล้วระดับหนึ่ง
โดย PE และ EV/EBITDA ของปี 2017 ลดลงเหลือเพียง 11.3 เท่า และ 8.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี และใกล้ค่าเฉลี่ย -1SD ขณะเดียวกัน ในทางเทคนิคก็ลงใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่เป็นฐานเดิมแถว 500 บาท จึงแนะนำซื้อเพื่อลุ้นรีบาวน์ระยะสั้น ในทางพื้นฐานมีราคาเป้าหมายที่ 610 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) เฟดสาขานิวยอร์คสนับสนุน FOMC ลดขนาดงบดุล โดยให้เหตุผลว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอเป็นเพียงปรากฎการณ์ชั่วคราว ขณะที่ ค่าแรงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการเริ่มดูดซับสภาพคล่อง ส่งผลให้ Dollar Index และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นพร้อมกัน แต่ไม่น่ากระทบการไหลเข้าของกระแสเงินมากนัก เพราะ Sentiment สินทรัพย์เสี่ยงยังสดใส
(0) ครม. พิจารณาว่าต้องใช้ ม. 44 แก้ปัญหาพื้นที่ ส.ป.ก. หรือไม่ ซึ่งถ้าหากใช้ ม. 44 จะทำให้ผลลบต่อโครงการเอส 1 ของ PTTEP เป็นไปอย่างจำกัดที่สุด แต่เพราะตลาดรับรู้ประเด็นนี้ไปบ้างแล้ว จึงไม่น่าส่งผลบวกต่อราคาหุ้นมากนัก ในทางตรงข้าม ราคาน้ำมันดิบที่กลับมาอ่อนตัวลงและงบ 2Q17 ที่มีแนวโน้มชะลอ Q-Q อาจเป็นปัจจัยกดดัน PTTEP ในระยะถัดไปได้
(+) กลุ่ม MEDIA ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่าน เทียบกับ SET ที่ขึ้นเพียง 0.4% จากความคาดหวังเชิงบวกในงบ 2Q17 ที่เป็น High Season ของธุรกิจโฆษณา หุ้นหลายตัวโดยเฉพาะ WORK และ RS ที่เราชอบมากก่อนหน้านี้ ราคาปรับขึ้นเร็วจน Upside ไม่กว้างพอให้ซื้อ เหลือ PLANB ที่ราคาขึ้นเพียง 1.5% ในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งที่ผลประกอบการ 2Q17 มีแนวโน้มสดใสต่อเนื่อง แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.30 บาท
(0) TMB รายงานสินเชื่อ พ.ค. 17 +0.8%M-M หรือราว 4.8 พันลบ. ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อรายย่อยกลุ่มที่อยู่อาศัย ส่วนสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่และรายกลางทรงถึงหดตัวลงเล็กน้อย สินเชื่อรวม 5M17 +2.8%YTD น่าจะเป็นการเติบโตสูงสุดในกลุ่ม แม้ราคาปัจจุบันจะมี Upside เมื่อเทียบกับเป้าที่ 2.80 บาท แต่ในแง่ผลประกอบการ 2Q17 คาดว่าจะยังถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายสำรองฯ ขณะที่ สินเชื่อที่เพิ่มส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อบ้านที่มีอัตราผลตอบแทนต่ำ ส่งผลให้ NIM ยังลดลง Q-Q คาดการณ์กำไร 2Q17 +5%Q-Q และทรงตัว Y-Y ก่อนจะดีขึ้นใน 2H17 ระยะสั้นเรายังให้น้ำหนักไปที่ TISCO และ KBANK
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21 มิ.ย. -สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (พ.ค.)
22 มิ.ย. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.)
- สหรัฐ : ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
23 มิ.ย. - ไทย:ยอดขายรถ (พ.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (มิ.ย.)
26 มิ.ย. - ไทย:ดุลการค้า (พ.ค.)
- สหรัฐ : ยอดส่งซื้อสินค้าคงทน (พ.ค.)
27 มิ.ย. - สหรัฐฯ : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.)
28 มิ.ย. - ไทย:กกพ.ประกาศผลการจับฉลากโซลาร์ฟาร์ม เฟส 2
29 มิ.ย. - ไทย:ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและการใช้กำลังการผลิต (พ.ค.)
- สหรัฐ: 1Q17 GDP (ตัวเลขครั้งสุดท้าย)
- ยูโรโซน: Economic Confidence (มิ.ย.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกและทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ โดยมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างหนาแน่น หลังเฟดออกมาระบุว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยังคงสดใส โดยทั้งอัตราเงินเฟ้อ และ ตลาดแรงงานยังอยู่ในทิศทางที่ดี
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เนื่องปัจจัยความกังวลด้านการเมืองผ่อนคลายลง หลังผลการเลือกตั้งรอบ 2 ที่ฝรั่งเศส พรรคของนายมาครองได้รับชัยชนะ อีกทั้ง การเจรจากระบวนการ Brexit ก็เป็นไปได้ด้วยดี
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกตามทิศทางตลาดโลก นำโดยตลาดญี่ปุ่นเนื่องจากค่าเงินเยนอ่อนค่า
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางแข็งค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 33.95-33.99 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดลบ 0.54 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 44.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับลงต่อเนื่อง จากความกังวลด้านอุปทานจากทั้งปริมาณการผลิตของลิเบีย-ไนจีเรีย และ สหรัฐตามจำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้น 22 สัปดาห์ติดต่อกัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดลบ 9.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,246.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จาก ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ประเด็นการเมืองยุโรปผ่อนคลายลง และ ตลาดหุ้นที่พุ่งขึ้น ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research