- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 June 2017 17:06
- Hits: 1127
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แกว่งตัว เน้นเลือกหุ้นบริโภคภายในประเทศ
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติด้วยคะแนนเสียง 8-1 เสียง ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฟดจะยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย และกรรมการ 12 จาก 16 ราย คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ แต่ประเด็นที่ตลาดให้ความสำคัญคือรายละเอียดของแผนปรับลดงบดุลของเฟด ซึ่งตลาดอาจตอบรับเชิงลบ อย่างไรก็ตามมุมมองเราประเมินมีผลต่อสภาพคล่องระยะสั้นไม่มากนัก แต่จะเริ่มกระทบหนักหลังดำเนินการไปแล้ว 3 ไตรมาส เนื่องจากขนาดของสภาพคล่องที่หายไปจะเริ่มพอๆกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ความกังวลข้างต้นซึ่งอาจส่งผลต่อค่าเงินจะฉุดราคาโภคภัณฑ์ และสนับสนุนมุมมองของเราที่หันมามองกลุ่มที่เน้นเศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศมากขึ้น อาทิ ท่องเที่ยว ค้าปลีก รับเหมา หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอื่นๆ อาทิ MINT, ERW, CENTEL, MAKRO*, CPN, AMATA, ROJNA*, STEC และเดินเรือ TTA*, PSL*
ประเมินดัชนีแกว่งตัว ในกรอบ 1570-1580 จุด การเก็งกำไรควรเลือกหุ้นที่ยัง Laggard และตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง ติดตามการเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีนในดัชนี MSCI EM (ปลายสัปดาห์นี้ถึงต้นสัปดาห์หน้า) อาจทำให้มีแรงทำกำไรปรับพอร์ตระยะสั้นของตลาดในเอเซียได้ // หุ้นแนะนำ PSTC*, TTA*, STEC, MINT
ประเด็นการลงทุน
รายละเอียดของการประชุม – นอกจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย เฟดยังมีการปรับคาดการณ์หลายตัวจากประมาณการมี.ค. ได้แก่ 1) ลดอัตราการว่างงานสิ้นปี 2560 เหลือ 4.3% จากเดิม 4.5% และสิ้นปี 2561 ที่ 4.2% จากเดิมที่ 4.5% 2) ลดคาดการณ์เงินเฟ้อสู่ระดับ 1.6% จาก 1.9% และแตะ 2% ในปี 2561 3) ปรับเพิ่ม GDP สหรัฐฯ ปี 2560 เป็น 2.2% จากเดิมที่ 2.1% ส่วนปี 2561 อยู่ที่ 2.1% ไม่เปลี่ยนแปลง และปี 2562 อยู่ที่ 1.9% แต่ประเด็นสำคัญคือ การเริ่มปรับลดงบดุลในปีนี้ หากเศรษฐกิจดีขึ้นตามประมาณการ โดยมีรายละเอียดคือ 1) ลดวงเงินการถือครองพันธบัตรรัฐบาลที่ระดับ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ/เดือน และขยายเพดานการลดการถือครองพันธบัตรอีก 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในทุกๆ ไตรมาสจนแตะเพดานที่ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ/เดือน 2) ลดวงเงินถือตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ที่ระดับ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ/เดือน และขยายอีก 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯในทุกๆ ไตรมาสจนการลดการถือครองสินทรัพย์ดังกล่าวจะดำเนินไปจนกระทั่งงบดุลของเฟดลดลงสู่ระดับ 2.0-2.5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ถึง 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ/เดือน
รวมแล้วเพดานการลดสูงสุดจะอยู่ที่ระดับ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ/เดือน โดยการลดการถือครองสินทรัพย์ดังกล่าวจะดำเนินไปจนกระทั่งงบดุลของเฟดลดลงสู่ระดับ 2.0-2.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ
ผลคุณสมบัติโซลาร์ – กกพ.เผยมีผู้ผ่านคุณสมบัติ 639 ราย รวม 3,119 MW คิดเป็นอัตราแข่งขันสำหรับจับฉลากค่อนข้างสูงที่ 1:15 เน้นเก็งกำไรเฉพาะหุ้นที่พื้นฐานแข็งแกร่ง โดยเราชอบ PSTC* และ GUNKUL*
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: 16 มิ.ย. – MSCI มีแนวโน้มเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีนในดัชนี / 22-23 มิ.ย. – ตลท.จัดงาน Thailand Big Strategic Move / ก.ค. – อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้กรีซ
แนวรับ 1565/แนวต้าน : 1575-1580 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)